คมนาคมยันแผนจัดหาฝูงบิน 38 ลำไม่ล้ม

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – คมนาคมยืนยันแผนจัดหาฝูงบิน 38 ลำไม่ล้ม ขณะที่การบินไทยมั่นใจทบทวนแผนได้ข้อสรุปภายใน 6 เดือน และมีแผนจัดการแก้ปัญหาฝูงบินระยะสั้น


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะกรรมการการบินไทย มีมติให้ฝ่ายบริหารทบทวนแผนการดำเนินการโครงการจัดหาเครื่องบิน 38 ลำ วงเงิน 156,000 ล้านบาท ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจากขณะนี้ผลประกอบการของบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ไม่เป็นไปตามคาด ประกอบกับธุรกิจการบินมีการแข่งขันรุนแรงนั้น ในเรื่องดังกล่าวเห็นว่าทาง การบินไทยไม่ได้มีการรื้อแผนการจัดหาใหม่ยังคงกรอบการจัดหาที่ 38 ลำ แต่ให้การบินไทยไปดูรูปแบบวิธีการจัดหาเครื่องบินที่จะนำมาใช้ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุด รวมทั้งการจัดหาจะต้องมีการทยอยการรับมอบให้มีความสอดคล้องกับฐานะทางการเงินของบริษัทเป็นหลัก

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย เปิดเผยว่า ตามที่การประชุมบอร์ด เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เป็นประธานการประชุมนั้น ได้มีมติให้ไปทบทวนโครงการจัดหาเครื่องบิน 38 ลำ วงเงิน 156,000 ล้านบาทอย่างรอบคอบ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันของอุตสาหกรรมการบิน เช่น ศึกษาตลาด ความต้องการการใช้เครื่องบิน เส้นทางการบิน คู่แข่ง เป็นต้น รวมถึงต้องคำนึงในส่วนของผลประกอบการ และสถานการณ์ทางด้านการเงินของบริษัท รวมทั้งทบทวนพิจารณาการจัดหาแหล่งเงินทุนด้วย โดยให้นำเสนอคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาอีกครั้งภายใน 6 เดือน


“การบินไทยจะต้องไปดูถึงเรื่องการวางแผนการบิน ทั้งจำนวนเครื่องบินที่มีอยู่ การปลดระวางเครื่องบิน และดูว่าขาดเครื่องบินกี่ลำ ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับแผนการเงินด้วย สมมติว่ายังต้องการเครื่องบิน 38 ลำ ก็ต้องดูว่าขนาดเครื่องเท่าเดิมไหม วงเงินเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ต้องไปศึกษาให้รอบคอบ ถ้ายังต้องการแบบเดิมก็เสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจาณาต่อไป ซึ่งการจัดหาเครื่องบินนั้น ไม่ได้ซื้ออย่างเดียว แต่อาจจะเช่าก็ได้ หรือถ้าพอทบทวนแล้วพบว่าต้องการจำนวนเครื่องเพิ่มขึ้น ก็ต้องนำเสนอกระทรวงคมนาคมถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องจัดหา จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการโดยส่งเรื่องให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ต่อไป ซึ่งเรื่องที่หลายฝ่ายกังวล ถือเป็นเรื่องที่ดี และเอากลับมาทบทวน” นายสุเมธ กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงการทบทวนโครงการจัดหาเครื่องบินดังกล่าว จะส่งผลต่อการดำเนินการของการบินไทยหรือไม่นั้น นายสุเมธ กล่าวยืนยันว่า ระยะสั้นนั้น จะไม่กระทบต่อการดำเนินการของการบินไทย แต่จะต้องพิจารณาศึกษาการเช่าเครื่องบินอย่างน้อย 3 ลำ เพื่อมาทดแทนเครื่องบินที่จะปลดระวางประมาณ 20 กว่าลำ ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการทั้งการจัดซื้อ หรือการเช่าเครื่องบินนั้น จะมีระยะเวลาในการส่งมอบ และอาจจะต้องใช้เวลาเป็นปีถึงจะนำเครื่องบินที่จัดหามาให้บริการได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง