นักวิจัย สวทช. ชนะเลิศงาน Falling Wall Lab Thailand 2019 ขอนำความรู้ไบโอซิตี้พัฒนาเกษตรกรรมทั่วโลก

กรุงเทพฯ 9 กันยายน – นักวิจัย สวทช. คว้ารางวัลชนะเลิศงาน Falling Wall Lab Thailand 2019 ความก้าวหน้าวิทย์-สังคม จากการนำเสนอเรื่อง “Breaking the Wall of Bacterial Wilt Disease” การใช้ไวรัสควบคุมแบคทีเรียที่ก่อโรคในพืช โดยจะได้ไปร่วมงาน Falling Walls Conference ณ กรุงเบอร์ลิน เยี่ยมศูนย์วิจัยในยุโรป พร้อมขอเป็นตัวแทนพลังความคิด สร้างความเชื่อมโยง ความรู้ไบโอซิตี้ต่อยอดพัฒนาเกษตรกรรมทั่วโลก



อ่านข่าวภาษาอังกฤษ >> Thai researcher from NSTDA wins a Falling Wall Lab Competition


https://tna.mcot.net/view/5d763d60e3f8e40ad8361196


สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “Falling Walls Lab Thailand” ซึ่งงานนี้ริเริ่มโดยมูลนิธิ Falling Walls เพื่อนำเสนอผลงานความคิดของนักคิด และนักวิจัยรุ่นใหม่ ได้แสดงศักยภาพและเป็นเวทีในการทำงานด้านวิทยาศาสตร์ ธุรกิจ และสังคม โดยมี Mr. Georg Schmig เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน และ ดร.ลิลี่ เอื้อวิไลจิตร ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ สวทช. Dr. Georg Verweyen Director of DAAD Information Centre Bangkok  ร่วมเป็นกรรมการตัดสินการแข่งขันรอบตัดสิน


การแข่งขัน Falling Walls จัดขึ้นทุกปีโดยมูลนิธิ Falling Walls รวมเอาบรรดานักคิดริเริ่มจาก 80 ประเทศทั่วโลก โดยในวันที่ 9 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันครบรอบการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินจะมีการเชิญนักวิทยาศาสตร์แถวหน้าของโลก 20 ท่านมาเสนอผลงานวิจัยที่เปลี่ยนแปลงโลก ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ภายในงานยังมีการนำเสนอผลงานความคิดจากนักคิดรุ่นใหม่จากทั่วโลก เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในการทลายกำแพงและขีดจำกัดของการพัฒนาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ ธุรกิจหรือสังคม

ในปีนี้ DAADประเทศไทยร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงาน Falling Walls Lab Thailand วันที่ 8 กันยายน 2562 ที่กรุงเทพมหานคร  ซึ่งผู้ชนะในการเสนอความคิดจะได้รับตั๋วเครื่องบินไปร่วมงาน Falling Walls Conference ณ กรุงเบอร์ลิน และพบปะกับผู้นำทางการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ธุรกิจและการกำหนดนโยบายและที่พิเศษสำหรับผู้นำเสนอผลงานจากประเทศในกลุ่มอาเซียนจะได้รับการสนับสนุนจาก Euraxess ให้ไปเยี่ยมศูนย์วิจัยในยุโรปตามที่ต้องการอีกด้วย


นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (GBDi) ผู้ชนะจากประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2561 นำเสนอนวัตกรรมการตรวจจับแก๊สรั่วด้วยกล้องประดิษฐ์ และได้เดินทางไปเยี่ยมชมสถาบันวิจัย Max-Planck และ Fraunhofer ที่ประเทศเยอรมนี หลังจากร่วมงานสัมมนา ณ กรุงเบอร์ลิน ในการแข่งขันในปีนี้ มีนักวิจัย สวทช.  2 คน สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน และเข้ารอบสุดท้ายของงาน Falling Wall Lab Thailand 2019  จากจำนวนผู้เข้ารอบทั้งหมด 22 คน  ได้แก่

1. ดร.ภคพฤฒ คุ้มวัน นักวิจัยกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยและการค้นหาสารชีวภาพ ทีมวิจัยเทคโนโลยีวิศวกรรมชีวภาพและการตรวจวัด ไบโอเทค สวทช. เรื่อง “Breaking the Wall of Multidrug- Resistant TB Diagnosis” คือ เทคนิคตรวจจับการกลายพันธ์ของเชื้อวัณโรคดื้อยา เพิ่มประสิทธิภาพวิธีตรวจรักษาตั้งแต่เริ่มของคนไข้ ซึ่งพบว่า DNA กลายพันธ์ เป็นเหตุดื้อยา ปัจจุบันการใช้ยาหลายชุดในการรักษาไม่ค่อยได้ประสิทธิภาพ และปัจจุบัน ชุดตรวจวัณโรคมีราคาแพง แม้แต่ราคาชุดย่อยก็เป็นหลักพัน

2.ดร.อุดม แซ่อึ่ง นักวิจัยกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยและการค้นหาสารชีวภาพ ทีมวิจัยการวิเคราะห์และประยุกต์ใช้สารชีวโมเลกุล  ไบโอเทค สวทช. เรื่อง “Breaking the Wall of Bacterial Wilt Disease”  คือ การใช้ไวรัสควบคุมแบคทีเรียที่ก่อโรคในพืช โรคที่ทำให้เหี่ยว โรคที่เกิดจากแบคทีเรีย ซึ่งอาจพัฒนาเป็นของเหลวที่ช่วยเพื่อช่วยป้องกันและฟื้นฟูพืช เน้นใช้ธรรมชาติสร้างสมดุล

โดยผลการตัดสิน ดร. อุดม แซ่อึ่ง นักวิจัยกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยและการค้นหาสารชีวภาพ ทีมวิจัยการวิเคราะห์และประยุกต์ใช้สารชีวโมเลกุล ไบโอเทค สวทช. ได้รับรางวัลชนะเลิศของงาน Falling Wall Lab Thailand 2019 ได้ไปร่วมงาน Falling Walls Conference ณ กรุงเบอร์ลิน และเยี่ยมศูนย์วิจัยในยุโรปตามที่ต้องการอีกด้วย โดย ดร. อุดม แซ่อึ่ง  เผยดีใจและเซอร์ไพรส์ที่ได้รางวัลชนะเลิศ เนื่องจากไม่ได้คาดหวังเพราะเป็นปีที่ 2 ที่มานำเสนองานวิจัยในงานนี้ ชอบตรงที่ได้แชร์ไอเดียกับนักวิจัยต่างๆ ส่วนงานวิจัยเรื่องที่ได้รางวัลมีนักวิจัยหลายท่านร่วมคิด ตัวเองเป็นแค่ตัวแทนมานำเสนอ ขอใช้โอกาสตรงนี้สร้างความเชื่อมโยง ความรู้ไบโอซิตี้ ต่อยอดแลกเปลี่ยนความรู้ หรือต่อยอดขอทุนในอนาคตของยุโรป เกิดการพัฒนาเกษตรกรรมทั่วโลกและในไทย ลดการใช้สารเคมี เพราะงาน Bio-based Economy (กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดที่ได้มาจากกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์และการวิจัยที่เน้นเทคโนโลยีชีวภาพ) ทำคนเดียวไม่เห็นภาพรวม ต้องใช้พลังความคิด ขอเป็นตัวแทนเอาเรื่องราวไปเล่าเพื่อส่งเสริมซึ่งกันและกัน


 ด้าน ดร.ลิลี่ เอื้อวิไลจิตร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการว่า เป็นการทลายกำแพงด้านวิทยาศาสตร์ เกิดการทำงานร่วมกันและสร้างเครือข่ายของนักวิจัยไทยและต่างชาติ ต่อยอดองค์ความรู้ โดยงานนี้โปรโมทให้เกิดการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ เพราต้องพูดงานวิจัยภายใน 3 นาที เช่น นักวิจัยที่นำเสนอการคอนโทรลแบคทีเรียด้วยไวรัส เกิดการพัฒนาเกษตรกรรม การทลายกำแพงทางวิทยาศาสตร์นี้ทำทั่วโลก และไทยเป็น 1 ในประเทศที่ร่วมโครงการและจะไปรวมกันที่เบอร์ลิน เกณฑ์การตัดสิน คือ 1.งานที่นำเสนอต้องเป็น 1 ในเรื่องเทคโนโลยี 2.เกิดอิมแพคผลกระทบต่อมนุษยชาติอย่างไร 3.สามารถนำงานวิจัยที่ยากๆ ให้คนเข้าใจได้อย่างไร ส่วนผลสำเร็จของงานวิจัยไทยที่มีกับ DAAD และ สวทช. คือการทำงานร่วมกันกับสถาบัน สร้างเครือข่าย และมีแผนทำวิจัยร่วมกันในอนาคต เรียนเทคโนโลยี เช่น มีการเผยแพร่เอกสารร่วมกัน

ดร. เก-ออร์ก แฟร์ไวเอิน ผู้อำนวยการศูนย์บริการข้อมูลองค์การแลกเปลี่ยนวิชาการเยอรมัน (DAAD) กรุงเทพฯ กล่าวว่าต้องการให้งานสัมมนา Falling Walls Lab เป็นเวทีนำเสนอผลงาน และแลกเปลี่ยนความคิดเชิงนวัตกรรมของนักคิด นักวิจัยรุ่นใหม่ ซึ่งสามารถต่อยอดองค์ความรู้และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ นอกจากนี้ DAAD เห็นว่ามหาวิทยาลัยไทยและเยอรมนีมีความร่วมมือด้านงานวิจัยมากกว่า 200 โครงการ จึงเลือกให้ไทยเป็นหนึ่งในเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อเฟ้นหาผลงานวิจัยที่มีศักยภาพและความโดดเด่นไปนำเสนอบนเวทีระดับโลก ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติปมชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน

5 ก.ค. – โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีของประเทศไทย ตามที่มีการสอบถามจากสื่อต่าง ๆ เรื่องในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติต้องการจะฟ้องร้องประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อ ICJ หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า

ปลัด อบต. ถูกหลอกลงทุน สูญ 4 ล้าน

บุรีรัมย์ 5 ก.ค. – ปลัด อบต.สาวชาว ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหมอเกษียณ ทักมาจีบ แล้วหลอกร่วมลงทุนอ้างผลตอบแทนสูง หลงเชื่อสูญ 4 ล้าน นำที่ดินไปจำนอง รถเข้าไฟแนนซ์ นส.ปลา ปลัด อบต.สาว แห่งหนึ่ง ในจังหวัดศรีสะเกษ นำข้อความแชตสนทนาและรูปโปร์ไฟล์ของชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นแพทย์ รพ.ชื่อดัง ชื่อ เจ ซึ่งปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้วออกมาร้องสื่อมวลชน ในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่า ถูก นายแพทย์คนดังกล่าวหลอกลวง ด้วยวิธีการทักเฟซบุ๊กมาจีบ เมื่อ 21 พ.ย.67 ก่อนจะขอแอดไลน์ระหว่างนั้นมีการพูดคุยวิดีโอคอนสานสัมพันธ์กัน ผ่านไปไม่นานก็หลอกล่อให้ร่วมลงทุนผ่านแอปฯ อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูงยิ่งลงทุนมากยิ่งผลตอบแทนมาก จนหลงเชื่อร่วมลงทุน     ครั้งแรก หมอเจ ชักชวนให้ลองลงทุน เป็นเงิน 50,000 บาท มีการเติมเงินเข้าระบบ และลองเล่นที่ห้องที่ 1 ตามที่หมอเจแนะนำ จนเสร็จสิ้นขั้นตอนการเล่น ปรากฏว่าได้ผลตอนแทน เป็นเงิน 54,000 บาทจริง ต่อมาหมอเจ ก็โน้มน้าวต่อ หากอยากเล่นแบบมีรายได้เยอะกว่านี้ ก็ให้เติมเงินเข้าระบบไปเล่นที่ห้อง 2-10 ตนเห็นว่าครั้งแรกได้เงินจริง […]

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]