กรมสรรพากร-สวทช.-ธ.กรุงไทย พัฒนาเทคโนโลยี AI เสริมศักยภาพบริหารจัดเก็บภาษี

กรมสรรพากร 29 ก.ค.- กรมสรรพากร จับมือ สวทช. -ธ.กรุงไทย พัฒนาเทคโนโลยี AI เสริมศักยภาพบริการภาครัฐ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการจัดเก็บภาษี ยกระดับการให้บริการประชาชน เสริมสร้างระบบภาษีที่เป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้


กรมสรรพากรร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภายใต้สังกัดกระทรวงการอุกมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน)เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนา ต่อยอด และถ่ายทอดเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ สนับสนุนการให้บริการประชาชนและเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ

นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ในปี 2568 – 2570 กรมสรรพากรมุ่งเน้นที่จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการจัดเก็บภาษี  ยกระดับการให้บริการประชาชน และเสริมสร้างระบบภาษีที่เป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ การร่วมมือกันในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของการขยาย ต่อยอดความร่วมมือ ของกรมสรรพากร สวทช. โดยเนคเทค และธนาคารกรุงไทย ที่ร่วมกันนำเทคโนโลยี AI มาสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สอดคล้องภารกิจของกรมสรรพากรและยกระดับภาษีของประเทศ บริการผู้เสียภาษีให้มีศักยภาพในการแข่งขัน และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และประสบการณ์


นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังเตรียมแผนในอนาคตที่ชัดเจน ในระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวทั้งด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดเก็บภาษี และด้านการบริการดิจิทัลต่อผู้เสียภาษีและประชาชน ด้วยเทคโนโลยี AI มาสนับสนุนและเตรียมข้อมูล เพื่อช่วยวิเคราะห์ และตรวจสอบภาษีให้รวดเร็วยิ่งขึ้น วิเคราะห์พฤติกรรมการยื่นแบบและชำระภาษีเพื่อออกแบบบริการภาษีให้ตรงกับแต่ละบุคคล ทั้งนี้ การนำ AI มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับสูง เทคโนโลยี AI บุคลากรด้าน AI และการกำกับดูแลอย่างโปร่งใสตามหลักจริยธรรม AI ภายใต้ความร่วมมือด้านเทคโนโลยี AI จาก สวทช. โดยเนคเทค ด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับสูงจากธนาคารกรุงไทย เราจะสามารถยกระดับระบบภาษี ให้เป็นระบบที่ทันสมัย น่าเชื่อถือ มีธรรมาภิบาล และเป็นที่พึ่งของประชาชนโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง

ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวง อว. กล่าวว่า การผนึกกำลังร่วมกับกรมสรรพากร และธนาคารกรุงไทยครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากความร่วมมือที่มีมาก่อนหน้า เพื่อร่วมกันนำนวัตกรรมมายกระดับบริการดิจิทัลภาครัฐให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ในยุคที่ AI และ BIG DATA มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง สวทช. ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของการมีเทคโนโลยี AI ของประเทศ หรือ “Localize AI” ที่ถูกพัฒนาให้เข้าใจบริบทของไทยโดยเฉพาะ ทั้งด้านภาษา วัฒนธรรม และกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับการให้บริการประชาชนได้อย่างตรงจุด แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลภาครัฐ ป้องกันข้อมูลสำคัญรั่วไหลไปยังต่างประเทศ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย สวทช. โดย เนคเทค พร้อมทำหน้าที่เป็นขุมพลังด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย พร้อมนำองค์ความรู้และประสบการณ์มาสนับสนุนการดำเนินงานอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและทักษะบุคลากร เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม AI ที่เป็นของคนไทยเพื่อความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจและสังคม และสร้างต้นแบบการบูรณาการความเชี่ยวชาญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุค AI อย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทยมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับกรมสรรพากร และ สวทช. โดยเนคเทค สนับสนุนการพัฒนา   “RD Voice Chatbot” ระบบผู้ช่วยสนทนาอัจฉริยะ ให้บริการข้อมูลภาษีด้วย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกับประชาชน ลดภาระเจ้าหน้าที่รัฐ และขยายการเข้าถึงข้อมูลด้านภาษีให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ธนาคารได้นำศักยภาพด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับสูง มาร่วมผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีของภาครัฐ ผ่าน บริษัท กรุงไทย คอมพิวเตอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด (KTCS) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีคลาวด์และการประมวลผลขั้นสูง ด้วยการนำ GPU Infrastructure สมรรถนะสูง มาใช้ในการฝึกฝนและใช้งานโมเดล AI ช่วยให้ระบบ RD Voice Chatbot มีความแม่นยำ เรียนรู้และพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง


ธนาคารกรุงไทยในฐานะพันธมิตรภาครัฐด้าน GovTech Enabler ยืนยันความมุ่งมั่น ในการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาบริการภาครัฐให้ “ทันสมัย เป็นมิตร และเข้าถึงได้จริง” โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้ AI อย่าง “มีความรับผิดชอบ” คำนึงถึงความปลอดภัย ความเป็นธรรม และการสร้างโอกาสที่เท่าเทียม ให้กับทุกภาคส่วนในสังคม สร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งในด้านสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต

ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่างกรมสรรพากร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติด้านดิจิทัล สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน โดยครอบคลุมทั้งการประยุกต์ใช้ AI ในกระบวนการทำงานของหน่วยงาน การพัฒนาทักษะบุคลากรภาครัฐ ให้พร้อมต่อยุคดิจิทัล และการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี AI ซึ่งรวมถึงบริการระบบคลาวด์ จากธนาคารกรุงไทย ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันของทุกฝ่ายในการขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับคุณภาพบริการภาครัฐและรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบราชการดิจิทัลอย่างยั่งยืน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศหรือที่ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ธปท.เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือ 15 ก.ย.นี้

กทม. 13 ก.ย.-ธปท. เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือจันทร์นี้ หลัง กกร.ตั้งข้อสังเกตส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งสูงผิดปกติ กรณีนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ สวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา มีตัวเลขสูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านั้น ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียกด่วนผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้านวงในให้จับตา “ทองคำ” ช่องโหว่เศรษฐกิจ เหตุเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จนกระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ ต้องถกหาวิธีดูแลธุรกรรมทองคำเพื่อปิดช่องฟอกเงิน เผย 7 เดือนไทยส่งออกทองไปกัมพูชาแล้วกว่า 71,800 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกทองคำของไทยที่อยู่ในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ตามตัวเลขของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) พบว่าไทยมีการส่งออกไปยังกัมพูชาอยู่ในอันดับ 3 รองจากการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำที่สำคัญของโลก โดยตัวเลขการส่งออกไปยังกัมพูชา 7 เดือนแรกของปี 2568 […]

วันที่ 3 ปะทะเดือดสะบ้าย้อย ยังเคลียร์พื้นที่ไม่ได้

สงขลา 13 ก.ย.-เข้าสู่วันที่ 3 เหตุปะทะเดือด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เช้านี้ยังยิงปะทะกันต่อเนื่อง ยังไม่สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ จนชาวบ้านไม่กล้าออกจากบ้าน วันนี้เป็นวันที่ 3 หลังวานนี้ เกิดเสียงยิงปะทะดังสนั่นหวั่นไหว บนเนินเขา หมู่ 7 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และหลังจากเสียงปืนสงบ ได้มีการเข้าเคลียร์พื้นที่โดยเชิญผู้นำศาสนาเข้าไปในพื้นที่เพื่อตรวจสอบและเป็นสักขีพยาน หลังเจ้าหน้าที่ ยืนยันพบผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 1 ราย และเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็มีการปะทะต่อเนื่องประมาณ 2-3 ครั้ง ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงปะทะขึ้นอีกกว่า 10 ครั้งแล้ว ดังมาจากใกล้จุดเกิดเหตุเมื่อวานนี้ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ ทราบเพียงว่าเจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย และเจ้าหน้าที่ยังคงใช้ความระมัดระวัง โดยใช้โดรนบินลาดตระเวนตลอดตั้งแต่เช้าและขยับเคลื่อนกำลังเข้าทุกพื้นที่เพื่อกดดัน และจำกัดวงล้อมรอบเทือกเขา หาตัวผู้ก่อความไม่สงบ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และติดกับอำเภอนาทวี จ.สงขลา ซึ่งคนร้ายอาจจะหลบหนีได้ แหล่งข่าวความมั่นคงคาดยังมีคนร้ายหลบหนี อยู่ในเทือกเขาอีกประมาณ 1-2 คน ขณะที่บรรยากาศในหมู่ 7 บ้านห้วยเต่า วันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ชาวบ้านยังคงอยู่บ้านเรือนของตนเองเพื่อความปลอดภัย […]

“บิ๊กตู่” ส่งดอกไม้ พร้อมการ์ดอวยพรวันเกิด “อนุทิน”

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย. – “บิ๊กตู่-สมาคมไทยจีน” ส่งดอกไม้ พร้อมการ์ดอวยพรวันเกิด “อนุทิน” ครบรอบ 59 ปี ขณะที่แกนนำพรรคจ่อเบิร์ธเดย์เย็นนี้ บรรยากาศที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนมารอทำข่าว เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยมีบุคคลสำคัญและภาคธุรกิจ ส่งดอกไม้พร้อมการ์ดอวยพรมาแสดงความยินดีอย่างต่อเนื่อง อาทิ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และสมาคมมิตรภาพไทย-จีน โดยในช่วงเช้าวันนี้นายอนุทิน ได้เดินทางไปทำภารกิจส่วนตัว พร้อมนางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภรรยา ที่จังหวัดระนอง ขณะที่ช่วงเย็นนั้น มีรายงานว่า พรรคภูมิใจไทยจะประชุมพรรคในเวลา 17.00 น. โดยจะมีแกนนำและสมาชิกพรรค ร่วมอวยพรวันเกิดให้แก่นายอนุทินด้วย ขณะที่ ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ (12 ก.ย.) นายอนุทิน ได้โพสต์ภาพรับพระราชทานแจกันดอกไม้ พร้อมเขียนข้อความ โดยระบุว่า กราบสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ […]

ไฟไหม้ตลาดพาหุรัด สาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรปลั๊กไฟต่อพ่วง

กทม. 13 ก.ย.-ระทึกกลางดึก! ไฟไหม้ตลาดพาหุรัด จนท.อพยพผู้พักอาศัย ใช้เวลา 20 นาที ควบคุมเพลิงไว้ได้ สาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรปลั๊กไฟต่อพ่วง เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 13 ก.ย.68 ร.ต.ท.สิทธิชัย ขัดแก้ว รองสารวัตร(สอบสวน) สน.พระราชวัง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ใกล้เคียงโรงแรมไชน่าเวิลด์ ถนนพาหุรัด แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยภูเขาทอง ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 3 ชั้น ตลาดพาหุรัด ศูนย์ค้าผ้าและเครื่องประดับ พบมีกลุ่มควันจำนวนมาก บริเวณชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยเหลืออพยพผู้พักอาศัยติดค้างอยู่ออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย จากการตรวจสอบบริเวณชั้น 1 ภายในร้านประกอบกิจการจำหน่ายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ พบมีแสงเพลิงไหม้ จึงใช้น้ำฉีดทำการดับประมาณ 20 นาทีเพลิงสงบลง พื้นที่เสียหายประมาณ 24 ตารางเมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง สถานที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย