กระทรวงยุติธรรม 24 ส.ค.- วันจันทร์ 26 ส.ค.นี้ ลุ้นปลัดยุติธรรมเคาะผลสอบกำไลอีเอ็ม หลังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชี้ผิดสเปก 4 ประเด็น
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตั้งกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติและทีโออาร์ของระบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือกำไลอีเอ็ม ที่สามารถถอดออกได้โดยไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนและถูกกระชากขาดด้วยมือเปล่าว่า นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้รับรายงานสรุปผลการตรวจสอบจากพันตำรวจเอกสุชาติ วงศ์อนันต์ชัย หัวหน้าผู้ตรวจราชการ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ขั้นตอนต่อไปยังต้องรอให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมพิจารณาลงความเห็น คาดว่าเมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนปลัดกระทรวงยุติธรรมจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 26 ส.ค.นี้
ส่วนผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เสนอความเห็นไปยังปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่า การเช่าใช้กำไลอีเอ็มส่อที่จะขัดต่อทีโออาร์ในหลายจุด ได้แก่ ประเด็นแรก การไม่กำหนดให้มีการทดสอบระบบการทำงานของกำไลอีเอ็ม โดยอ้างเพียงว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีเอกสารรับรองคุณภาพจากองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือแล้ว เป็นผลให้การประมูลถูกตัดสินด้วยการเสนอราคาต่ำเพียงอย่างเดียว
ประเด็นที่สอง สายรัดกำไลอีเอ็มที่เป็นสายยาง ซึ่งไม่ระบุถึงความเหนียว แข็งแรงทนทานต่อการตัดทำลาย
ประเด็นที่สาม ระบบกำไลอีเอ็มใช้ระบบสัญญาณติดตามด้วยคลื่นโทรศัพท์เครือข่าย 2 จี ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่ศึกษาโดยคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ทั้งนี้การกำหนดทีโออาร์ให้ต่างไปจากรายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนประเทศฯ ส่งผลให้สัญญาณจากกำไลอีเอ็มขาดหายไปจากระบบ เมื่อเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ยกเลิกใช้เครือข่าย 2 จีแล้ว
ประเด็นที่ีสี่ เมื่อตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังของศูนย์ควบคุมระบบกำไลอีเอ็มพบการแจ้งเตือนถี่ผิดปกติในแต่ละเดือนจะมีการสั่งใช้กำไลอีเอ็มกับผู้ถูกคุมประพฤติเฉลี่ย 500 – 700 ราย แต่ระบบแจ้งเตือนสายรัดถูกตัด สายรัดถูกกระทบกระเทือนหลักแสนครั้ง หรือหลักล้านครั้งต่อเดือน ทำให้ระบบขาดความน่าเชื่อถือว่าเป็นการผิดพลาดของอุปกรณ์หรือการฝ่าฝืนเงื่อนไขของผู้ถูกคุมประพฤติ นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่าผู้ถูกสั่งติดกำไลอีเอ็มมีอาการแพ้สายรัด ผิวหนังบริเวณข้อมือเป็นแผลติดเชื้อ
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ถือเป็นดุลพินิจของปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่จะลงความเห็นว่าข้อบกพร่องของระบบกำไลอีเอ็มจะถือว่าผิดสเปคในการเช่าใช้หรือไม่อย่างไร บริษัทเอกชนคู่สัญญาจะสามารถแก้ไขจุดบกพร่องที่ตรวจสอบพบได้หรือไม่ และข้อบกพร่องที่ตรวจพบจะถึงขั้นต้องสั่งปรับหรือยกเลิกสัญญาหรือไม่ ขณะที่กรมคุมประพฤติได้เรียกคืนกำไลอีเอ็มมาตรวจสอบทั้งหมด และสั่งให้บริษัทเอกชนคู่สัญญานำชุดกำไลอีเอ็มเข้ามาเปลี่ยนใหม่ โดยให้ผู้ถูกคุมประพฤติสวมกำไลอีเอ็มที่ข้อเท้าแทนข้อมือ เนื่องจากทีโออาร์กำหนดว่า กำไลอีเอ็มจะใช้สวมที่ข้อมือหรือข้อเท้า อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้.- สำนักข่าวไทย