หวั่นติดกำไลอีเอ็มหวังสอดแนม  

พรรคก้าวไกล 22 มี.ค.-“ก้าวไกล” หวั่น เงื่อนไขประกันตัว-ติดกำไลอีเอ็ม สร้างบรรทัดฐาน ปราบปราม สอดแนม  ผู้ต้องหาคดี 112  หลัง “ชลธิชา” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 ปทุมธานี โดนเรียกไต่สวนประกันตัว


นายชัยธวัช ตุลาธน เลชาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวพร้อมน.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด ว่าที่ผู้สมัครส.ส. เขต 3 ปทุมธานี ว่า ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ศาลให้ไปไต่สวนเรื่องการประกันตัว หลังจากอยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราวจากการตกเป็นผู้ต้องหาในคดี 112 แต่ถูกศาลอาญา รัชดาเรียกไต่สวนการประกันตัวด่วนวันพรุ่งนี้ ( 23 มี.ค.) เวลา 13.30 น. โดยมีข้อสังเกตว่าการเรียกดังกล่าว มีความผิดปกติหลายประการ    เริ่มจากวันที่ 18 มีนาคม เจ้าหน้าที่ศาลโทรศัพท์แจ้งมายังนายประกันว่าจะขอไต่สวนการประกันตัว จากการที่ตนโพสต์การเข้าร่วมประชุมกับเมลิสซา เอ. บราวน์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา โดยในโพสต์แจ้งว่าได้ให้ข้อมูลกับทางการสหรัฐฯ เรื่องคดีของตนและการถูกติดกำไลติดตามตัว หรือ อีเอ็ม  หลังจากนั้นเพียงไม่ถึงหนึ่งวันก็ถูกศาลนัดไต่สวนเร่งด่วน 

น.ส.ชลธิชา กล่าวว่า ประการต่อมา ถึงตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการใด ๆ ว่าเรียกไต่สวนด้วยจุดประสงค์ใด เพื่อถอนประกันหรือเพื่อปรับเงื่อนไขการประกัน ทั้งที่จะต้องไปขึ้นศาลเพื่อรับการไต่สวนในวันพรุ่งนี้แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหมายศาล ไม่มีหนังสือส่งมาจากศาลแม้แต่ฉบับเดียว มีเพียงการโทรศัพท์มาแจ้ง ซึ่งทำให้ตนและทนายแทบไม่มีเวลาเตรียมตัว


น.ส. ชลธิชา กล่าวว่า คดีที่ถูกตั้งข้อหา เกิดจากการที่นายนพดล พรหมภาษิต  ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จากการโพสต์เฟซบุ๊กราษฎรสาส์นและเมื่อประกาศตัวว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. ในนามพรรคก้าวไกลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากนั้นไม่นานอัยการจึงมีคำสั่งฟ้องคดีตามมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์  และในวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมาได้รับการประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 90,000 บาท พร้อมเงื่อนไขประกันตัว ห้ามทำผิดซ้ำ ห้ามร่วมกิจกรรมที่กระทบสถาบัน ห้ามออกนอกเคหะสถานช่วงเวลา 20.00 น. ถึง 05.00 น. ต้องรายงานตัวต่อศาลทุก 15 วัน รวมถึงติดกำไลอีเอ็มตลอดเวลาระหว่างยื่นขอประกันตัววันเดียวกัน

“ดิฉันยื่นคัดค้านเงื่อนไขติดกำไลอีเอ็ม พร้อมวางหลักทรัพย์เพิ่ม เนื่องจากกระทบต่อการทำหน้าที่ในการเป็นผู้สมัครส.ส.ที่ต้องทำงานในพื้นที่ และกระทบต่ออาชีพที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดและต่างประเทศเป็นประจำ ด้วยเหตุว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี   ไม่ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน มีที่อยู่อาศัยและอาชีพเป็นหลักแหล่ง ไม่ว่าการเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล และการเป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน แต่ศาลยกคำร้อง”  น.ส. ชลธิชา กล่าว

น.ส.ชลธิชา กล่าวว่า การกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและขัดกับหลักสากลแน่นอน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะตนเองที่สิทธิเสรีภาพถูกลิดรอนจากการตั้งเงื่อนไขประกันตัวและการถูกติดกำไลอีเอ็มนับตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน มีนักกิจกรรมอย่างน้อย 46 คนที่ถูกศาลสั่งให้ติดกำไลอีเอ็มระหว่างการพิจารณาคดี


“ขอยืนยันว่าการตั้งเงื่อนไขประกันตัวเหล่านี้ขัดต่อหลักสากล เพราะใช้คำว่าห้ามทำผิดซ้ำเดิม ทั้งที่ผู้ถูกดำเนินคดีอาญาจะต้องถูกสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์   จนกว่าจะมีคำพิพากษาออกมา การกำหนดเงื่อนไขแบบนี้จึงเท่ากับศาลพิพากษาไปแล้วว่า   สิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ทั้งที่การไต่สวนคดียังไม่จบ ในกรณีของดิฉันเป็นเพียงการให้ข้อมูลคดีของตัวเองกับทางการสหรัฐฯ กลับทำให้ถูกศาลเรียกไต่สวนประกัน ซึ่งอาจถูกถอนประกันหรือตั้งเงื่อนไขเพิ่ม ทั้งที่ดิฉันไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขใด ๆ ไม่ได้คิดหลบหนี” น.ส.ชลธิชา กล่าว

ด้านนายชัยธวัช กล่าวว่า คดีของน.ส.ชลธิชาเป็นเพียงหนึ่งในคดีเกิดขึ้นนับพันคดี ตั้งแต่ปลายปี 63 เป็นต้นมา พรรคก้าวไกลติดตามสถานการณ์การใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112  มาตรา 116 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ กับประชาชนที่แสดงออกทางการเมืองมาโดยตลอด เรามีความกังวลเป็นอย่างยิ่งเรื่องการเลือกปฏิบัติ บิดเบือนกระบวนการยุติธรรม เพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหาคดีการเมืองหลายประการ   โดยเฉพาะการไม่ให้ประกันตัว การตั้งเงื่อนไขประกันตัวที่ขัดหลักสากลและไม่ได้สัดส่วน ไม่มีเหตุอันสมควร ใช้เงื่อนไขประกันตัวเป็นเครื่องมือจำกัดการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน และการใช้กำไลอีเอ็มเป็นเครื่องสอดแนมติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหา

“พรรคก้าวไกลมีข้อสังเกตต่อแนวทางการปฏิบัติของกระบวนการยุติธรรมไทย   ต่อผู้ต้องหาคดีการเมือง ประกอบด้วย สิทธิในการประกันตัวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคน การตั้งเงื่อนไขอย่างผิดปกติ การกำหนดเงื่อนไขในการประกันตัวเพิ่มโดยการให้ติดกำไรอีเอ็ม การกำหนดเวลาเข้า-ออกเคหะสถาน ซึ่งตามหลักของกระบวนการยุติธรรมไทย ผู้ที่ศาลจะพิจารณาให้ติดกำไลอีเอ็ม มี 3 กลุ่ม คือผู้กระทำผิดที่ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้คุมประพฤติ กรณีนักโทษเด็ดขาดที่มีคำสั่งพักโทษ หรือลดวันจำคุก แต่คดีมีความร้ายแรงสะเทือนขวัญ หากปล่อยไปเฉย ๆ สังคมจะหวาดระแวง จึงต้องใส่กำไลติดตามตัวเพื่อควบคุมความประพฤติ และการใช้กำไลอีเอ็มแทนหลักทรัพย์ประกันตัวที่มาวางศาลทั้งหมดหรือบางส่วน ในกรณีผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างไต่สวน” นายชัยธวัช กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา