“เป่ยเตี้ยน-แครอท มอลล์” ยินดีนำสินค้าไทยขายออนไลน์

นนทบุรี 13 ส.ค. –  กรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุ “เป่ยเตี้ยน-แครอท มอลล์” จากจีน ยินดีซื้อสินค้า 17 จังหวัดภาคเหนือของไทยไปขายออนไลน์ เชื่อเกิดมูลค่าซื้อขายกว่า 100 ล้านบาท


นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กรมฯ ได้เข้าร่วมการประชุมนานาชาติเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ GMS 2019 GMS-THAILAND e-Commerce Corridor (GTEC) ที่จังหวัดเชียงราย เพื่อร่วมมือกันในการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการดึงนักลงทุนจากอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ เช่น จีน มาทำการค้าขายผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซ รวมถึงการกำหนดมาตรฐาน ขอบเขต ข้อจำกัดทางการค้า และการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายเพื่อให้ความร่วมมือทางการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้นเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้ใช้โอกาสในการเข้าร่วมประชุมร่วมมือกับ MOC Biz Club 17 จังหวัดภาคเหนือ และหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ตัวแทนผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซจากจีน ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน สมาคมมิตรภาพไทย-เซินเจิ้น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จังหวัดเชียงราย สภาการค้าต่างประเทศในกลุ่มประเทศ GMS หอการค้าจังหวัดเชียงราย วิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ โดยนำผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพดีที่ได้รับการคัดสรรจาก 17 จังหวัดภาคเหนือของไทยกว่า 100 ราย มาเจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซของจีน คือ บริษัท เป่ยเตี้ยน (Beidian) ที่ได้นำผู้ประกอบการใน www.beidian88.com มากกว่า 30 ร้านค้า และกลุ่มแครอท มอลล์ (Carrot Mall) ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของจีนที่ทำตลาดทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์เข้าร่วมพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน และผู้ประกอบ การ  MOC Biz Club 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยมีผลการเจรจาธุรกิจเกิดมูลค่าการซื้อขายกว่า 100 ล้านบาท


นอกจากนี้ ปลายปีนี้จะจัดกิจกรรมดังกล่าวอีกครั้ง โดยจะเชิญผู้ประกอบการจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา และ สปป.ลาว มาเจรจาจับคู่ธุรกิจ โดยยังคงเน้นการใช้ระบบอี-คอมเมิร์ซ เป็นตัวเชื่อมทางการค้า และจะทำการขยายกิจกรรมไปยังประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ อีกต่อไปในอนาคต โดยกรมฯ ตั้งเป้าจะทำการเชื่อมโยงโครงข่ายผู้ประกอบการชุมชนจากทั่วประเทศไทยเข้ากับภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะ CLMVT ลักษณะโครงข่ายระเบียงเศรษฐกิจดิจิทัลรูปแบบใหม่ใช้ระบบอี-คอมเมิร์ซเป็นตัวเชื่อมระบบการค้าทั้งหมด และจะมีการนำ “เถาเป่าโมเดล” ของจีน มาเป็นต้นแบบในการวางรากฐานเพื่อสร้างเป็นชุมชนอี-คอมเมิร์ซในประเทศ จากนั้นจะทำการเชื่อมโยงเข้ากับการค้าออนไลน์ ซึ่งจะให้ระบบการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์ของไทยมีประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถแก้ปัญหาความยากจนภายในประเทศระยะยาว

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่จะทำการค้าขายกับประเทศจีนหรือประเทศอื่น ๆ ต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาดมากที่สุด มีระบบการจ่ายเงินสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ตลอดจนมีการระบบการขนส่งสินค้าที่รวดเร็ว และที่สำคัญต้องมีความเป็นมืออาชีพในการประกอบธุรกิจ และมีความซื่อสัตย์สุจริตทั้งต่อตนเองและคู่ค้าอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว