ซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีเต็มรูปแบบครบ 52 ลำครั้งแรก

สะพานพระราม 8 8 ส.ค.- รองเสนาธิการทหารเรือ ให้โอวาทกำลังพลฝีพายเรือพระราชพิธี 2,200 นาย ก่อนการฝึกซ้อมจัดรูปขบวนเรือพระราชพิธีในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช 2562 เต็มรูปแบบ ใช้เรือพระราชพิธีครบ 52 ลำครั้งแรก ยกเว้นเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ ที่นำเรือรุ้งประสานสายและเรือฝึกอีก 3 ลำ มาฝึกแทน   



พล.ร.ท.จงกล มีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี กองทัพเรือ เดินทางตรวจเยี่ยมการฝึกซ้อมขบวนเรือพระราชพิธี และให้โอวาทแก่กำลังพลประจำเรือ จำนวน 2,200 นาย ก่อนการฝึกซ้อมในทุกริ้วของขบวน ณ จุดรวมพล บริเวณเชิงสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี 

โดยวันนี้เป็นการฝึกจัดรูปขบวนเรือเต็มรูปแบบ ใช้เรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ ซึ่งถือการฝึกครบ 52 ลำ ครั้งแรกคล้ายวันจริง โดยได้มีการนำเรือรูปสัตว์ 10 ลำ ออกจากอู่ทหารเรือธนบุรีเข้าร่วมการฝึกด้วย ยกเว้นเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ ที่ได้นำเรือรุ้งประสานสายและเรือฝึกอีก 3 ลำ มาฝึกแทน โดยเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ จะเข้าร่วมการฝึกจริงเป็นครั้งแรก ในการซ้อมย่อยครั้งที่ 1 ในวันที่ 22 ส.ค.62


สำหรับขั้นตอนการปฏิบัติวันนี้ เริ่มตั้งขบวนเรือเวลา 11.00 น. โดยหัวขบวนของเรือพระราชพิธีอยู่บริเวณธนาคารแห่งประเทศไทย และท้ายขบวนอยู่บริเวณโรงแรมริเวอร์ไซด์ ก่อนถึงสะพานกรุงธน ซึ่งในวันนี้ได้มีการติดตั้งเครื่องเสียง 17 จุดเสมือนวันจริง พร้อมพลแตร 41 นาย  

 

จากนั้นในเวลา ขบวนเรือได้เคลื่อนออกจากจุดตั้งขบวน มุ่งหน้าไปทางพระบรมมหาราชวัง โดยสิ้นสุดการฝึกซ้อมบริเวณปากคลองบางกอกน้อย ก่อนถึง รพ.ศิริราชปิยมหาราชการุณย์ โดยเวลาในการเคลื่อนขบวนจากจุดเริ่มต้นถึงที่หมายประมาณ 40 นาที จากนั้นเรือรูปสัตว์จะแยกขบวนพายเรียงตามกัน เข้าจอดในอู่จอดเรือฯ เรืออื่นๆ กลับขบวน นำเรือเข้าจอด ณ แหล่งรวมเรือวัดราชาธิวาสวิหาร โดยจะเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม ในเวลา 12.30 น. ถือเป็นการสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติของกำลังพลทุกนาย 

พล.ร.ท.จงกล กล่าวอีกว่า สำหรับการเตรียมการ ณ ขณะนี้มีความพร้อมในการฝึกซ้อมแล้วร้อยละ 70 ทุกคนที่ฝึกมีความเชี่ยวชาญชำนาญในหน้าที่ตำแหน่งที่ตนเองรับผิดชอบอย่างดี ส่วนอีกร้อยละ 30 ที่เหลือคือการฝึกซ้อมพร้อมกับอุปกรณ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับบนเรือ เครื่องแต่งกายเต็มยศที่ยังไม่ถึงกำหนดการ แต่มั่นใจจากการติดตามการฝึกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีความสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะออกมางดงามสมพระเกียรติอย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องกระแสน้ำที่ช่วงนี้มีความผันผวนค่อนข้างมากจะเป็นอุปสรรคให้กับฝีพายหรือไม่ เรื่องนี้ได้ประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคำนวณกระแสน้ำ การฝึกซ้อมได้กำชับให้ฝึกซ้อมในทุกสภาพผิวน้ำให้เกิดความคุ้นชิน และในพระราชพิธีครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยี laser range finder ติดตั้งในเรือพระราชพิธีทั้ง 52 ลำ เพื่อใช้ในการวัดระยะความห่างระหว่างเรือแต่ละลำ ระยะห่างจากฝั่ง เพื่อให้การขึ้นรูปขบวนเรือมีระยะห่างที่เหมาะสม สวยงาม สมพระเกียรติอย่างที่สุด

สำหรับการซ้อมขบวนเรือพระราชพิธี วันนี้ เป็นการจัดรูปขบวนตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ โดยจัดรูปขบวนเรือ แบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย ดังนี้  

ริ้วสายกลาง ซึ่งเป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ มีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้ มีเรืออีเหลือง เรือกลองนอก เรือแตงโม ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ เรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอกและเรือตำรวจใน 

ริ้วสายใน ขนาบข้างสายเรือพระที่นั่ง มีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่น เป็นเรือประตูหน้าเรือเสือทยานชล และเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาว และเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก 

ริ้วสายนอก ประกอบด้วย เรือดั้ง และเรือแซง สายละ 14 ลำ รวมทั้งสิ้น 52 ลำ 

ส่วนการซ้อมนั้น กำหนดแผนการซ้อม จำนวน 12 ครั้ง แยกเป็น การซ้อมย่อย 10 ครั้ง และการซ้อมใหญ่ 2 ครั้ง ดังนี้    

การซ้อมย่อย ครั้งที่ 1 วันที่ 22 สิงหาคม 2562  

การซ้อมย่อย ครั้งที่ 2 วันที่ 29 สิงหาคม 2562      

การซ้อมย่อย ครั้งที่ 3 วันที่ 3  กันยายน 2562    

การซ้อมย่อย ครั้งที่ 4 วันที่ 10 กันยายน 2562    

การซ้อมย่อย ครั้งที่ 5 วันที่ 17 กันยายน 2562    

การซ้อมย่อย ครั้งที่ 6 วันที่ 23 กันยายน 2562   

การซ้อมย่อย ครั้งที่ 7 วันที่ 27 กันยายน 2562  

การซ้อมย่อย ครั้งที่ 8 วันที่ 3 ตุลาคม 2562   

การซ้อมย่อย ครั้งที่ 9 วันที่ 7 ตุลาคม 2562   

การซ้อมย่อย ครั้งที่ 10 วันที่ 10 ตุลาคม 2562  

การซ้อมใหญ่ ครั้งที่ 1 วันที่ 17 ตุลาคม 2562  

การซ้อมใหญ่ ครั้งที่ 2 วันที่ 21 ตุลาคม 2562. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด

ขับรถชนคน

คนร้ายขับรถชนกลุ่มคนในตลาดคริสต์มาสเยอรมนี ดับ 2 ราย

คนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าชนกลุ่มคนจำนวนมากที่จับจ่ายซื้อของและเที่ยวชมตลาดคริสต์มาสในเยอรมนีในช่วงเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น

นักการเมืองแห่งปี

“แพทองธาร” ปลื้ม นอร์ทโพล ประชาชนให้เป็น “นักการเมืองแห่งปี”

“แพทองธาร” นายกฯ ปลื้ม นอร์ทโพล เผยประชาชนยกให้เป็น “นักการเมืองแห่งปี” รับกดดัน แต่ขอทำงานเต็มที่-ไม่สร้างดราม่า ชี้ ครม.ทุกคนทำงานหนัก หากช่วยกันจะพัฒนาประเทศ