กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – รัฐมนตรีเร่งสร้างผลงานใน 3 เดือน พาณิชย์ระบุยกราคาผลปาล์ม 4 บาท/กก. พลังงานลุยประชาชนรอบโรงไฟฟ้าได้ราคาถูก
ในงานเสวนา “บางกอกโพสต์ ฟอรัม 2019 ทิศทางประเทศไทยกับรัฐบาลใหม่” นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า รัฐบาลเร่งสร้างผลงานใน 3 เดือน เพื่อตอบโจทย์ความคาดหวังของประชาชน แม้จะมีหลากหลายพรรคการเมืองมาทำงานร่วมกัน แต่จากที่มี ครม.เศรษฐกิจก็จะทำให้การทำงานสอดคล้องกันได้ไม่มีปัญหา โดยในส่วนของกระทรวงพลังงานจะเร่งร่วมแก้ไขปัญหาราคาปาล์มนำมาใช้เป็นบี 7 และบี 10 และส่งเสริมพลังงานทดแทนในชุมชน
ขณะเดียวกันจะใช้กลไกของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (กองทุนอนุรักษ์ฯ) ที่มีงบประมาณปีละกว่า 10,000 ล้านบาท เข้ามาช่วยสนับสนุนโครงการพลังงานชุมชน โดยสั่งการให้ปรับเงื่อนไขหลักเกณฑ์ยื่นขอรับเงินสนับสนุนโครงการฯ ซึ่งจะส่งเสริมทั้งโซลาร์รูฟท็อป โซลาร์ฟาร์ม ชีวมวลชีวภาพ และอื่น ๆ โดยเชื่อมั่นด้วยว่าในส่วนของการลดค่าครองชีพด้วยเงินกองทุนรอบโรงไฟฟ้าจะสามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำลังพิจารณาเรื่องนี้
“ช่วง 3 เดือนแรก จะเร่งปรับพื้นฐานพลังงานเข้าสู่ disruptive technology เช่น ระบบกักเก็บพลังงาน(energy storage) และจะร่วมมือกับต่างประเทศด้วย ส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนประสบความสำเร็จและมีราคาถูกลง และในอนาคตอาจจะต้องร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงการคลัง เพื่อส่งเสริมสตาร์ทอัพด้วย” รมว.พลังงาน กล่าว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เดินหน้าประกันรายได้สินค้าเกษตร เช่น ยกระดับราคาผลปาล์มที่ 4 บาท/กก. ยางพารา 60 บาท/กก. และจะครอบคลุมไปยังข้าวโพด มันสำปะหลัง และข้าวราคา 10,000 บาท/ตัน โดยต้องยกระดับมาตรฐานตามกำหนด ขณะเดียวกันจะดูแลค่าครองชีพและเร่งการส่งออก โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าชายแดน การเจรจาเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับสหภาพยุโรป (อียู) เป็นต้น
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จะเน้นช่วยผู้ประกอบการทุกระดับให้เข้มแข็ง ซึ่งต้องยอมรับว่าเงินบาทที่แข็งค่ากระทบหนักต่อการส่งออก ดังนั้น จะขอเข้าพบแบงก์ชาติเร็ว ๆ นี้ ขอให้แทรกแซงค่าเงินบาท โดยหากแบงก์ชาติขาดทุนบ้างหากเปรียบเทียบกับประโยขน์ของประเทศก็ควรจะดูประโยชน์เรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม แบงก์ชาติมีความเป็นอิสระภายใต้กฎหมายของตนเองก็หวังว่าจะช่วยเข้ามาแก้ปัญหานี้
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การปรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษีรายได้ทางภาษี กำลังศึกษาให้รอบคอบ ยังไม่สรุปว่าจะลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% หรือไม่ ส่วนภาษีอื่นที่จะมาเพิ่มรายได้อาจมีการปรับเพิ่มภาษีน้ำมัน แต่จะเป็นภาษีสรรพสามิตน้ำมันหรือไม่ ขอดูก่อนยังไม่สรุป และจะมีการขยายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ฟันด์ หรือ TFF) โดยกำลังดูว่าจะนำโครงการไหนของกระทรวงคมนาคมที่มีความพร้อมเข้ามา
นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะลงนามให้หน่วยงานกระทรวงสาธาณสุขสามารถจ่ายกัญชาภายใต้คำสั่งแพทย์ได้เป็นการใช้เพื่อการรักษาเท่านั้น ซึ่งเป็นเช่นนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานกัญชาเพื่อการรักษาและเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยเข้าถึงยามากขึ้น ขณะเดียวกันปี 2564 จะมีการเปิดบรรจุบุคลากรให้เพียงพอ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จะเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน1.9 ล้านล้านบาท (งบปี 58-65) และเร่งแก้ปัญหาจราจร โดยจะกำหนดรถบรรทุกวิ่งในเมืองใหญ่ กทม.ได้เฉพาะเที่ยงคืนถึงตีสี่, กำหนดความเร็วรถ 120 กม./ชม. โดยแต่ละเลนจะกำหนดความเร็วไม่เท่ากัน, พัฒนาเทคโนโลยีมาใช้ด้านต่าง ๆ ใช้แอพพลิเคชั่นเรียกรถที่จดทะเบียนในไทยไม่ใช่จดทะเบียนในต่างชาติแล้วไม่เสียภาษี, พัฒนาระบบรางให้ลดการขนส่งบนถนน, ไปสู่ระบบรางได้ภายใน 3 ปีนี้ในสัดส่วนร้อยละ30 และจะพยายามผลักดันให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 15 บาทให้เกิดขึ้นได้.-สำนักข่าวไทย