“ภูมิธรรม” ชี้ผลเลือกตั้งซ่อมเชียงราย “เพื่อไทย” ยังมีฐานเสียง

พรรคเพื่อไทย 15 ก.ย.-“ภูมิธรรม” ชี้ผลเลือกตั้งซ่อมเชียงราย “เพื่อไทย” ยังมีฐานเสียง บอกถึงเวลาปรับปรุงพรรคให้แข็งแรง กลับมายิ่งใหญ่ ขอประชาชนติดตามการเปลี่ยนแปลง ปัด “ทักษิณ” เข้าคุกเรียกคะแนนสงสารให้เพื่อไทย ย้ำสู้เพื่อความบริสุทธิ์ให้จบเรื่อง เชื่อศรัทธาพรรคยังอยู่ไม่หายไปไหน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งซ่อมที่เขต 7 เชียงราย ว่า การเลือกตั้งที่เชียงรายเมื่อวาน (14 ก.ย.) เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าสิ่งที่ตนเคยพูดว่าพรรคเพื่อไทยโดยรวมทั้งหมดไม่ได้กระทบอะไร เพราะฐานเสียงจริงๆของพรรคเพื่อไทยยังคงอยู่ ฉะนั้น ที่บอกว่าหลังจากนี้ไป เรามีโอกาสได้กลับมาทบทวนดำเนินการต่างๆ รวมถึงผู้แทนของพรรค ตนคิดว่าจะสามารถทำความเข้าใจกันได้ และมาช่วยกันปรับปรุงสร้างพรรคให้แข็งแรงได้ ส่วนที่บอกว่าจะมีคนออกหรือเลือดไหลออกไปบ้าง ขณะนี้ยังไม่มีลักษณะที่จะเป็นอย่างนั้น ทุกอย่างล้วนแต่เป็นข่าว กระแสข่าว ข่าวลือ ข่าวปล่อย อาจทำให้เกิดความสับสนได้ ตนคิดว่าความไม่พึงพอใจ สส.ในพรรคเกี่ยวกับการบริหารจัดการที่ผ่านมามีปัญหาอยู่จริง เดี๋ยวพวกเราจะเข้ามาช่วยดู และจะช่วยกันแก้ไขเพราะที่ผ่านมาทีมที่เป็นอดีตผู้บริหารพรรค หรือคนทำงานให้พรรค ไปเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ฝ่ายบริหาร บางทีขาดความเชื่อมโยง ประสาน และมีปัญหาอยู่บ้าง ตรงนั้นคงใช้เวลาไม่นาน ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มแกนแต่ละส่วนอยู่บ้างแล้ว


เมื่อถามถึงกรณีที่แม้ผลการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจะชนะแต่มีผลการสำรวจว่าคะแนนของพรรคเพื่อไทยเป็นรองพรรคภูมิใจไทย ทำให้หลายฝ่ายมองว่าถึงจุดวิกฤตของพรรคเพื่อไทย เลือกตั้งครั้งหน้า อาจจะไม่ได้สส.เท่าแบบเดิม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนมองว่าเมื่อวาน(14 ก.ย.) ผลที่ออกมาพรรคเพื่อไทย ทิ้งห่างพรรคประชาชนเป็นเท่าตัว ซึ่งการทำโพลช่วงก่อนการเลือกตั้งตนมองว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ ตามกฎหมายไม่ควรทำ เป็นการชี้นำแต่ผลความเป็นจริงของคะแนนออกมาให้เห็นเป็นอย่างไร และเชื่อว่าคะแนนที่เป็นแฟนคลับเพื่อไทย ไม่ได้ห่างหายไปไหน เขาก็ยังรักและศรัทธาพรรคเพื่อไทย ปัญหาอยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะเดินไปในจุดยืนในเป้าหมายหรือทิศทางที่สมาชิกพรรคยังเข้าใจยังศรัทธาอยู่หรือไม่ ตนเชื่อว่าสิ่งนี้ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราต้องปรับปรุง เพื่อเข้าไปสู่จุดที่เราคิดว่าเราจะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ เป็นพรรคที่ได้รับการยอมรับ และเป็นความเชื่อมั่นของประชาชน ที่มีต่อพรรคในการเข้ามาแก้ไขปัญหาต่างๆให้มากขึ้น ที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีการกล่าววิพากษ์วิจารณ์บ้างว่าเรามีปัญหา ไม่สามารถทำตามนโยบายต่างๆได้ ก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเราพยายามทำหลายเรื่องมากตั้งแต่เข้ามา นโยบายของเราเกือบทุกส่วน ได้พยายามผลักดันแต่พบว่ามีอะไรหลายอย่าง ที่ไม่ไปสู่เป้าหมายมีอุปสรรคและกลไกที่ขัดขวางอยู่ แม้กระทั่งมุมมองพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน


เมื่อถามย้ำว่าสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยตอนนี้มองว่าเป็นช่วงขาลง หลังจากนี้ก่อนมีการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะมีการเรียกศรัทธากลับมาเหมือนเดิมได้อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องบอกว่าเรื่องขาขึ้นขาลง เราไม่ได้กังวลใจตรงนี้เท่าไหร่ การวิพากษ์วิจารณ์ว่าเรามีปัญหาต่างหาก เป็นเรื่องที่เราสนใจ และเราเก็บรวบรวมทั้งสส. และสมาชิกพรรค ทุกส่วนทั้งเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ที่มีอยู่ในโซเชียลมีเดียทั้งหมด วันนี้เราหันกลับมาดูตัวเองและแข่งกับตัวเอง เรายังหวงแหนความรักและความศรัทธาพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคให้กับเรา ฉะนั้น สิ่งที่อาจจะมีปัญหาบ้าง ความไม่เข้าใจบ้าง การชี้แจงน้อยเกินไปบ้าง หรือการดำเนินการที่อาจจะละเลยบางสิ่งบางอย่างไปบ้าง สิ่งเหล่านี้จะได้รับการแก้ไข

“ผมคิดว่าอยากให้ติดตามเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของพรรคเพื่อไทย หลังจากที่เรากลับมาเป็นฝ่ายค้าน คงไม่นานเกินไป เพราะตอนนี้ยังมีเวลาเหลือ ถ้ารัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และพรรคประชาชน รักษาสัญญาที่จะยุบสภา ภายใน 4 เดือน ซึ่งมีเวลาไม่มากแล้ว เรื่องนี้ผมคิดว่าการกลับมาสนใจปรับปรุงพรรคและเตรียมการเลือกตั้ง เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และอยากให้ติดตามดู”นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการระดมสรรพกำลังเพื่อเรียกศรัทธาพรรคเพื่อไทยกลับมาใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนคิดว่า เรากลับมาเต็มรูปแบบของเราที่เคยทำ เพราะแกนนำทั้งหมดกลับมาหมดแล้ว และขณะนี้กำลังพูดคุยกันในแต่ละส่วนเพื่อเตรียมวางแผนในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน อย่างเต็มภาคภูมิ และทำหน้าที่ในการเตรียมการเลือกตั้ง เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ตัดสินใจ หากสัญญาในการตั้งรัฐบาล ครั้งนี้ไม่มีการเปลี่ยน


ส่วนการที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยอมเข้าเรือนจำ เพื่อให้พรรคเดินหน้าต่อไปได้ สิ่งนี้จะทำให้เรียกศรัทธาแฟนคลับพรรคเพื่อไทยกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน ที่จริงนายทักษิณไม่ได้เริ่มต้นจากการยอมติดคุกหรือยอมเข้าสู่กระบวนการเพื่อให้พรรคเพื่อไทยเดินต่อได้ เพราะอย่างไรพรรคเพื่อไทยก็เดินต่อได้อยู่แล้ว ส่วนการที่นายทักษิณตัดสินใจเพราะท่านอายุมากแล้ว และสู้เพื่อความบริสุทธิ์ของท่าน ทำให้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการ แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ท่านก็ยอมรับ และเป็นการเข้าไปเพื่อให้จบเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นเงาที่ติดตัวนายทักษิณมาตลอด

เมื่อถามว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนสงสารจากการที่นายทักษิณ เข้าเรือนจำมองอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนที่รักนายทักษิณและเห็นใจพรรคเพื่อไทย เพราะตลอดการต่อสู้ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย เราเป็นพรรคการเมืองที่นายกฯถูกศาลและกระบวนการยุติธรรม ตัดสิทธิ์หรือทำให้พ้นจากตำแหน่งมากที่สุด และอีกอย่างพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคพรรคที่ต่อสู้เรื่องประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน ทำให้เห็นว่าพรรคถูกกระทำมาโดยตลอด ซึ่งสิ่งที่ผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยถูกตัดสินในครั้งนี้ น่าจะเป็นความเห็นอกเห็นใจ และความเห็นอกเห็นใจนี้จะแปลเปลี่ยนเป็นอะไรก็ขอให้ติดตาม แต่ต้องยอมรับว่านายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีคนหนึ่งที่ประเทศไทยเคยมี และทำสิ่งต่างๆให้กับประเทศไทยซึ่งก็ใช้มาจนถึงทุกวันนี้ อย่างโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความเป็นพรรคเพื่อไทยที่ต่อเนื่องมาจากพรรคไทยรักไทย ยังอยู่ในความทรงจำของประชาชน และเชื่อว่าศรัทธาตรงนี้คงไม่หายไปไหนง่ายๆ เราจะฟื้นฟูและคิดต่อสิ่งต่างๆ ที่ทำมา.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]