กรุงเทพฯ 26 ก.ค. – “อุตตม” แจงรัฐบาลตั้งงบขาดดุลสอดคล้องสถานการณ์-ยุทธศาสตร์ เน้นแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำให้คนเข้าถึงแหล่งลงทุน เผยมูดี้ขยับขึ้นความน่าเชื่อถือไทยสะท้อนวินัยการคลังยังดี
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากการอภิปรายที่ผ่านมาหลายคนให้ความสนใจเรื่องวินัยการใช้เงินงบประมาณ จึงอยากจะชี้แจง ว่า ประการแรก คือ การตั้งงบ 400,000 ล้านบาท ในส่วนนี้เป็นงบกลางฉุกเฉิน แบ่งเป็นการบริหารกว่า 11 รายการ อาทิ เงินบำเหน็จ หรือค่ารักษาพยาบาล ซึ่งรวมงบที่ต้องใช้เพียง 100,000 ล้านบาท ส่วน พ.ร.บ.งบประมาณ ในมาตรา 45 พูดถึงงบประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งเงินทุนดังกล่าวเรียกว่าทุนสำรองจ่ายที่เตรียมไว้ใช้ในเหตุจำเป็นหรือฉุกเฉินเท่านั้น การจะใช้แต่ละครั้งต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยนำเงินส่วนนี้ออกไปใช้
ส่วนประเด็นเรื่องการตั้งงบประมาณขาดดุล รัฐบาลพิจารณาจากสถานการณ์ให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจและความจำเป็นและสอดรับกับยุทธศาสตร์ ที่ผ่านมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนให้เติบโต เช่น เมื่อปี 2557 ใช้งบประมาณขาดดุลจนทำให้เศรษฐกิจขยายตัวปี 2560
“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดยให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยเข้าถึงแหล่งเงินทุน เช่น ธนาคารออมสิน หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ส่วนแหล่งเงินทุนด้านอื่นเช่น นาโนไฟแนนซ์ ที่จะมาเป็นผู้ให้สินเชื่อรายใหม่ แต่ยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล อีกทั้งยังให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลด้านการลงทุนหรือบิ๊กดาต้าง่ายขึ้น ส่วนหนี้ครัวเรือนเติบโตตามเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนของไทยเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ แต่รัฐบาลยังไม่วางใจ จึงต้องดูแลการก่อหนี้อย่างครบวงจร สถาบันจัดอันดับสากลหรือมูดี้ส์ปรับอันดับความน่าเชื่อถือของไทยว่ามีแนวโน้มไปในเชิงบวก สะท้อนว่าวินัยการเงินการคลังยังดี” นายอุตตม กล่าว.-สำนักข่าวไทย