ลพบุรี 23 ก.ค.- ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักฯ ยังวิกฤติ หลังฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ล่าสุด ปริมาณน้ำสะสมอยู่ในอ่างเก็บน้ำร้อยละ 4.82% หรือมีน้ำสะสมอยู่ที่ 46 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมดที่ 960 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำน้อยเท่ากับปี 2558 ที่แล้งหนัก
ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักฯ ยังคงวิกฤติ หลังจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ล่าสุด ปริมาณน้ำสะสมอยู่ในอ่างเก็บน้ำร้อยละ 4.82% หรือมีน้ำสะสมอยู่ที่ 46 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมดที่ 960 ล้าน ลบ.ม. โดยไม่มีฝนตกลงมาในลุ่มน้ำป่าสักฯ เลยทำให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในปีนี้มีปริมาณน้ำน้อยเท่ากับปี 2558 ที่แล้งหนัก มีปริมาณน้ำสะสมอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
จากปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักฯ ที่ลดลงจนเห็นโขดเนินต่างๆ สันดอนดินโผล่กลางเขื่อนเป็นแนวยาว จนรถจักรยานยนต์สามารถขับไปถึงกลางเขื่อนได้ ทำให้เห็นเสาบ้านเรือนราษฎรที่เคยอาศัยอยู่พื้นที่นี้ รวมถึงซากวัดหนองบัว ที่ยังคงเหลือเป็นโครงสร้างที่จมอยู่ใต้เขื่อนกว่า 20 ปี โผล่ขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน
หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ตาก ขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนหลวงในภาคเช้าและภาคบ่ายของวันนี้ ในพื้นที่ร้องขอมา เนื่องจากประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ทั้งนี้ ได้ตรวจสอบความชื้นและแรงลมในพื้นที่ มีความเหมาะสมที่จะขึ้นปฏิบัติการในวันนี้ สามารถก่อให้เกิดเมฆ และพัฒนาไปเป็นฝนได้ สำหรับภาคเช้านี้นำเครื่องบินขึ้นปฏิบัติการ 1 ลำ นำผงสารฝนหลวงเกลือแป้ง และสารแคลเซียมออกไซด์ 800 กิโลกรัม ขึ้นโปรยเพื่อก่อกวนเมฆ จากนั้นนำสารแคลเซียมออกไซด์ หรือสูตรร้อน ไปเลี้ยงกลุ่มเมฆให้อ้วน และช่วงบ่ายจะทำการโจมตีด้วยยูเรีย เกลือแป้ง และน้ำแข็งแห้ง โจมตีให้เกิดฝนตกในพื้นที่เป้าหมาย ผลปรากฏว่าการขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนหลวงที่เราบินวันนี้ ทำให้มีน้ำฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อนภูมิพล
ตรวจสอบปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนใหญ่ลุ่มเจ้าพระยาทั้งประเทศวันนี้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างน้อยมาก ทำให้การระบายน้ำยังทำได้เฉพาะใช้อุปโภค-บริโภคเท่านั้น
อย่างเขื่อนภูมิพล น้ำไหลลงอ่างเป็น 0 ติดต่อกันมา 3 วันแล้ว ปริมาณน้ำที่มีอยู่ตอนนี้ 4,577 ล้าน ลบ.ม. หรือ 34% ของความจุ เท่ากับเมื่อวาน น้ำใช้การได้อยู่ที่ 6% เท่าเดิม ส่วนการระบายน้ำตลอดวันนี้เพียง 25 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น
เขื่อนสิริกิติ์ น้ำที่มีอยู่ตอนนี้ 3,305 ล้าน ลบ.ม. หรือ 35% ของความจุ น้ำใช้การได้ยังอยู่เท่าเดิมที่ 5% หรือ 455.35 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลเข้าอ่างเกือบ 3 ล้าน ลบ.ม. ส่วนการระบายน้ำท้ายเขื่อนทั้งวัน อยู่ที่ 20 ล้าน ลบ.ม.
เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีน้ำอยู่ 134 ล้าน ลบ.ม. หรือ 14% ลดลงจากเมื่อวาน 1% โดยน้ำใช้การได้มีอยู่ 11% มีน้ำไหลเข้าอ่างเล็กน้อย ระบายน้ำแค่ 0.58 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น ใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่มีใช้การ 14%
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีน้ำทั้งหมดตอนนี้ 43 ล้าน ลบ.ม. หรือ 4% ลดลง 1% เช่นเดียวกับน้ำใช้การได้ที่มีอยู่แค่ 4% ไม่มีน้ำไหลเข้าอ่างเลย ระบายน้ำท้ายเขื่อน 0.70 ล้าน ลบ.ม.
สรุปภาพรวมทุกเขื่อนทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำทั้งหมด 34,256 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณรวมต่ำกว่าครึ่งแล้วอยู่ที่ 48% ส่วนน้ำใช้การได้แค่ 15% ที่ 10,713.39 ล้าน ลบ.ม. ส่วนปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน 24 ชม.ที่ผ่านมา ภาคเหนือ 5.83 ล้าน ลบ.ม. ภาคอีสาน เพียง 3.29 ลบ.ม. ขณะที่เขื่อนภาคกลางน้ำเข้าเขื่อน 0.14 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลต่อการระบายน้ำท้ายเขื่อน ส่วนใหญ่ทำได้เฉพาะการผลิตน้ำประปา แต่ยังไม่เพียงพอต่อพื้นที่เกษตรกรรม.-สำนักข่าวไทย