มหาสารคาม 25 ก.ค.-ฝนที่เริ่มทิ้งช่วง ทำให้ชาวบ้าน จ.มหาสารคาม เริ่มกังวลจะไม่มีน้ำทำนา และเลี้ยงปลาในกระชัง ขณะที่เกษตรกรบางรายได้รับความเสียหายกว่า 5 แสนบาท
ปรากฏการณ์เอลนีโญ เริ่มส่งกระทบทำให้เกิดฝนทิ้งช่วงในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่แถบภาคอีสาน ทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ใต้เขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่ หมู่บ้านกอก และหมู่บ้านหนองผือ ตำบลหนองบัว อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร ปลูกข้าว และเลี้ยงปลานิลในกระชัง
เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง แม่น้ำชี ต.หนองบัว อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ให้ข้อมูลว่าในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านน้ำยังมีปริมาณสูง จนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาฝนได้ทิ้งช่วง ไม่ตกต้องตามฤดูกาล ทำให้ชาวบ้านที่เลี้ยงปลานิลในกระชัง แม่น้ำชี ได้รับความเสียหายเมื่อระดับน้ำลดลง ทำให้ปลาขาดออกซิเจนตายเป็นจำนวนมาก ส่วนที่ไม่ตายก็จะไม่ได้น้ำหนัก ทำให้ต้องยอมขายปลาที่ไม่ได้ขนาดเพื่อตัดขาดทุน ทำให้ขาดทุนไปกว่า 5 แสนบาท
ด้าน เกษตรกรผู้ทำนา บ.หนองผือ ต.หนองบัว อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ให้ข้อมูลว่า ตนมีพื้นที่ทำนากว่า 100 ไร่ เริ่มปลูกข้าวตามฤดูกาลทำนา แต่ฝนได้ทิ้งช่วง ทำให้กังวลว่า การปลูกข้าวในปีนี้อาจประสบปัญหาข้าวขาดน้ำ ทำให้เกิดความเสียหายกับข้าว เนื่องจากการทำนาเป็นอาชีพหลักของคนในหมู่บ้าน ถึงแม้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งเตือนว่าน้ำในปีนี้ไม่เพียงพอ แต่ต้องฝืนทำนา เนื่องจากเป็นอาชีพของชาวบ้าน
ทั้งนี้ พื้นที่ ต.หนองบัว อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นพื้นที่รับน้ำมาจากเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งในปีนี้ ชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่า น้ำเพื่อการเกษตรในแม่น้ำ ค่อนข้างน้อยเนื่องจากฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ชาวบ้านจึงอยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้บริหารจัดการน้ำในลุ่มแม่น้ำชี ได้ให้ความสำคัญกับชาวบ้านที่กำลังได้รับความเดือนร้อน และฝากไปถึงหน่วยงานต่างๆ ด้วยว่า ในช่วงที่ฝนตกหนักน้ำก็ท่วม ช่วงแล้งก็ไม่มีน้ำ ชาวบ้านเลยเกิดข้อสงสัยในการบริหารจัดการน้ำ.-สำนักข่าวไทย