สทนช.เตรียมเสนอ 3 มาตรการรับมือภัยแล้ง

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – สทนช.ชี้ปริมาณฝนยังต่ำและน้ำในอ่างลดลงต่อเนื่อง พร้อมออก 3 มาตรการรับมือภัยแล้ง เสนอนายกรัฐมนตรี


นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 8/2562 ว่า ที่ประชุมได้พิจารณามาตรการรับมือภัยแล้งในช่วงฤดูฝน เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี 3 มาตรการ คือ มาตรการเร่งด่วน มาตรการระยะสั้น และมาตรการระยะยาว

สำหรับมาตรการเร่งด่วน ได้แก่ 1.ตั้งศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวส่วนกลางในภาวะวิกฤติ โดย สทนช.จะทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และตั้งศูนย์ของจังหวัด เพื่อรายงานต่อนายกรัฐมนตรี 2.ปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่เหนือและท้ายอ่างเก็บน้ำ 3.สนับสนุนน้ำอุปโภคบริโภคจากแหล่งน้ำใกล้เคียงในพื้นที่เสี่ยง และ 4.เร่งขุดลอกเพิ่มความจุแหล่งน้ำต่าง ๆ ในพื้นที่ประกาศภัยแล้ง-แล้งซ้ำซาก 144 โครงการ วงเงิน 1,226 ล้านบาท 5.ปรับแผนขุดเจาะซ่อมแซมบ่อบาดาล 6.การชดเชยเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ และ 7.ประชาสัมพันธ์การใช้น้ำอย่างประหยัดอย่างต่อเนื่อง


มาตรการระยะสั้น 1.เร่งรัดการก่อสร้างและซ่อมแซมฝายชะลอน้ำในพื้นที่ 67 จังหวัด 30,000 แห่ง งบประมาณ 3,000 ล้านบาท 2.ทบทวนปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม-31 ตุลาคม 2562 เพื่อวางแผนการใช้น้ำฤดูแล้งปี 2563 3.สำรวจความต้องการใช้น้ำแต่ละพื้นที่ 4.บริหารจัดการน้ำฝนในแหล่งกักเก็บให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ 5.ให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมาตรการระยะยาว 1.เร่งรัดโครงการแหล่งน้ำตามแผนแม่บท 20 ปี 2.เชื่อมโยงโครงข่ายในพื้นที่น้ำท่วมและพื้นที่แล้งซ้ำซาก เพื่อให้เกิดภาวะสมดุลด้านน้ำ 3.กำหนดพื้นที่เพาะปลูกให้สอดคล้องกับแหล่งน้ำและปริมาณน้ำต้นทุน

สำหรับการติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำปัจจุบัน พบว่ามีปริมาณน้ำรวม 38,665 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 47% ของความจุอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ โดยมีปริมาณน้ำต้นทุนมากกว่าปี 2558 จำนวน 2,293 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปี 2561 จำนวน 11,904 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยครึ่งหลังของฤดูฝนตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม 2562 จะมีปริมาณฝนใกล้เคียงกับค่าปกติใกล้เคียงกับปี 2550 และคาดว่าจะมีพายุพัดผ่านประเทศไทย 1-2 ลูกในช่วงเดือนสิงหาคม 2562 

นายสมเกียรติ กล่าวเพิมเติมว่า ขณะนี้มี 83 อำเภอ ใน 20 จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีภาวะเสี่ยงที่จะขาดแคลนน้ำ รวมทั้งจะทบทวนการระบายน้ำใน 3 เขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนอุบลรัตน์ เพื่อกักเก็บน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด 


ส่วนเขื่อนไซยะบุรี สปป.ลาว ล่าสุดทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แจ้งว่าวันที่ 19-21 กรกฎาคมที่ผ่านมาทางเขื่อนไซยะบุรีได้ปรับลดการระบายน้ำตามปกติแล้ว เพื่อรอให้น้ำจากเขื่อนจิ่งหง ของจีนไหลลงมาถึงก่อน คาดว่าระดับน้ำโขงจะเข้าสู่ภาวะปกติเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการประเมินระดับน้ำในแม่น้ำโขงยาก แต่พยายามจะทำให้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.