ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย
ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน ตนขอเวลาให้จเรตำรวจแห่งชาติได้ไปพิจารณาก่อน เพราะขณะนี้คู่กรณีเป็นตำรวจตาม พ.ร.บ.ตำรวจ แล้ว
เมื่อถามว่า ทางตำรวจจะประสานกับกองทัพไทย เพื่อนำข้อมูลของคู่กรณีรายนี้มาพิจารณาทางวินัยตำรวจหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นไปได้ ตนจะมอบให้จเรตำรวจแห่งชาตินำพยานหลักฐานต่าง ๆ เรื่องอาญาที่คาดว่าเป็นไปในระดับหนึ่งแล้ว ทางจเรตำรวจแห่งชาติจะต้องไปพิจารณาดูว่าจะดำเนินการได้ตามระเบียบคำสั่งขั้นตอนใดบ้าง อย่างไรบ้าง ซึ่งส่วนนี้จะประกอบกับที่ตนจะคุยกับพ่อและแม่ของน้องเมย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการคุยเรื่องรายละเอียดของพยานในคดี ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไปดูรายละเอียดให้รอบคอบ
เมื่อถามว่า การที่คู่กรณีเคยมีพฤติกรรมที่นำไปสู่การเสียชีวิตของบุคคลหนึ่งและได้มารับราชการตำรวจ จะทำให้ประชาชนเคลือบแคลงใจหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ในส่วนจริยธรรมมีการกำหนดเอาไว้เป็นหลักของตำรวจ จเรตำรวจแห่งชาติจะต้องเป็นผู้นำมาประกอบว่า ประเด็นจริยธรรมดังกล่าวจะเข้าส่วนใดบ้างของทางวินัย จะร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ต้องพิจารณาจากข้อมูลที่รอบด้าน ส่วนการที่พ่อแม่ของน้องเมยจะนำเรื่องนี้ไปถึงศาลแพ่ง ส่วนตัวคาดว่าเป็นไปได้
กรณีที่ครอบครัวน้องเมยแจ้งดำเนินคดีกับแพทย์ผู้ชันสูตรรายแรก กรณีที่ทำอวัยวะน้องเมยสูญหาย ที่ สน.พญาไท ตนได้มอบหมายเรื่องนี้ให้จเรตำรวจแห่งชาติเป็นผู้พิจารณาร่วมด้วย.- 415-สำนักขาวไทย