“มาริษ” ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ด้วยสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 24 ก.ค. – “มาริษ” ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ด้วยสันติวิธี ยื่นประท้วงยูเอ็นและภาคีอนุสัญญาออตตาวา หลังพบการละเมิดบูรณภาพดินแดน ชี้เขมรบิดเบือนกับประเทศที่สาม อ้างไทยไม่ยอมเจรจา ขณะที่ “กต.-คมนาคม-เอกชน” พร้อมอพยพคนไทยกลับ


นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงระหว่างการปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ผ่าน VDO Conference เพื่อเป็นประธานเปิดการประชุมเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชา

โดยระบุว่า ตนเองได้ใช้โอกาสในการประชุมหารือและชี้แจงกับผู้นำระดับสูงหลายประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งขณะนี้มีความตึงเครียดจากกรณีการโจมตีอย่างต่อเนื่องของกองทัพกัมพูชาในเขตฝั่งไทย และการใช้กับระเบิดละเมิดอำนาจอธิปไตยของไทย พร้อมเปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ซึ่งมีปากีสถานเป็นประธานหมุนเวียนในครั้งนี้ โดยได้กล่าวถ้อยแถลงในนามรัฐบาลไทย ย้ำจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างประเทศผ่านการเจรจาทวิภาคีอย่างสันติและด้วยความจริงใจ (in good faith) พร้อมยืนยันว่าไทยยังคงยึดมั่นในหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติอย่างเคร่งครัดในการป้องกันตนเองจากการรุกราน


นายมาริษ กล่าวว่า ในการหารือทวิภาคีกับผู้แทนระดับสูงจากหลายประเทศ ได้พบกับ รมว.กต.ปากีสถาน เลขาธิการสหประชาชาติ และรัฐมนตรีจากประเทศสมาชิกอื่นๆ รวมถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประธานภาคีอนุสัญญาออตตาวาในปีนี้ โดยฝ่ายไทยได้ยื่นหนังสือประท้วงและชี้แจงเหตุการณ์ละเมิดจากกัมพูชาอย่างเป็นทางการ พร้อมระบุว่าการที่กัมพูชาใช้กับระเบิดในพื้นที่เขตแดนไทย ซึ่งส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ในหลักสากล

นายมาริษ กล่าวว่า ไทยได้เปิดประตูเจรจากับกัมพูชามาโดยตลอดด้วยท่าทีสร้างสรรค์และจริงใจ แตกต่างจากฝ่ายกัมพูชาที่ไม่เพียงไม่ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่อประเทศที่สาม แต่ยังมีความพยายามบิดเบือนว่าไทยไม่ยอมเจรจาทวิภาคี ซึ่งไม่เป็นความจริง

ในส่วนของสถานการณ์ความมั่นคงล่าสุด รมว.กต. ยืนยันว่า การโจมตีของกองทัพกัมพูชาในช่วงเช้าที่ผ่านมา (24 ก.ค.) มุ่งเป้าไปยังพื้นที่พลเรือนของไทย ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล ห้างร้าน และบ้านเรือน ส่งผลให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งหากยังไม่มีการยุติการกระทำดังกล่าว ไทยพร้อมยกระดับมาตรการป้องกันตนเองตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ


ทั้งนี้ ระหว่างการประชุมผ่าน VDO Conference นายมาริษ ยังได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสายการบิน เพื่อเตรียมแผนอพยพคนไทยจากกัมพูชาอย่างเป็นระบบ โดยมีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินระหว่างกรุงพนมเปญและกรุงเทพฯ เพื่อรองรับความต้องการเดินทางกลับประเทศ พร้อมขอให้คนไทยในกัมพูชาติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ และคอลเซ็นเตอร์กรมการกงสุล พร้อมยืนยันว่าประเทศไทยมีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการใช้วิถีทางสันติ และการเจรจาอย่างจริงใจเพื่อแก้ไขปัญหา รวมถึงเพื่อคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศ แต่ในขณะเดียวกันหากมีการรุกรานต่อเนื่อง เราจะไม่ละเลยในการปกป้องประชาชนและอธิปไตยของประเทศ

ขณะที่ในที่ประชุมกำหนดมาตรการและแผนการอพยพคนไทยในกัมพูชา ณ กระทรวงการต่างประเทศ ในวันนี้นั้น มีสายการบินพาณิชย์ของไทย และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมหารือ โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม และโฆษกกระทรวงคมนาคม และพลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) พร้อมด้วยสายการบินพาณิชย์สัญชาติไทย ทั้ง 7 สายการบิน เข้าประชุมหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ ถึงแผนการรองรับการเดินทางของคนไทยในกัมพูชา ที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย ผลจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

ทั้งนี้ ทุกสายการบินสัญชาติไทย ทั้ง 7 สายการบิน พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยขณะนี้มี 4 สายการบิน ที่ทำการบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-กัมพูชา อยู่แล้ว ได้แก่ การบินไทย ให้บริการ 16 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จำนวน 180 ที่นั่งต่อเที่ยวบิน, ไทยแอร์เอเชีย 28 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จำนวน 180 ที่นั่งต่อเที่ยวบิน, บางกอกแอร์เวย์ส 40 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จำนวน 180 ที่นั่ง และ 70 ที่นั่งต่อเที่ยวบิน และไทยเวียตเจ็ท 16 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จำนวน 180 ที่นั่งต่อเที่ยวบิน และอีก 3 สายการบิน ได้แก่ ไทยไลอ้อนแอร์ ไทยแอร์เอเชียร์เอ็กซ์ และนกแอร์ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อรองรับการเดินทางมายังประเทศไทย

พลอากาศเอก มนัท กล่าวว่า ขณะนี้มีคนไทยในกัมพูชาราว 500 คน โดย 300 คน มีตั๋วแล้ว ส่วนอีก 200 คน สามารถประสานผ่านสถานทูตฯ หรือกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันพร้อมอำนวยความสะดวกและดูแลคนไทยทุกคนให้เดินทางกลับประเทศได้ภายใน 1-2 วันนี้ .-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย