“ศักดิ์สยาม-ถาวร” ลุยแก้รถติดพระราม 2

สมุทรสาคร 21 ก.ค. – “ศักดิ์สยาม-ถาวร” ลงพื้นที่ถนนพระราม 2  พร้อมออกมาตรการแก้ปัญหาจราจรติดหนัก โดยขอความร่วมมือรถบรรทุกขนาดใหญ่ไม่วิ่งในชั่วโมงเร่งด่วนกระทบกับผู้ใช้ทางปกติ พร้อมเร่งคืนผิวจราจร ตั้งคณะทำงานร่วมภาคประชาชน ประกาศลงตรวจพื้นที่ดูแลใกล้ชิดทุกสัปดาห์



นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ถนนพระราม 2 อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อรับฟังปัญหาหลังชาวบ้านร้องเรียนถึงความเดือดร้อนจากการก่อสร้างปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 35 ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย 


นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หลังรับฟังปัญหาทราบว่าโครงการปรับปรุงทางหลวงดังกล่าวเซ็นสัญญาปี 2561 เเละจะสิ้นสุดปี 2563 ทราบว่าก่อนทำสัญญาบริเวณดังกล่าวมีรถไม่หนาเเน่นเท่าหลังทำสัญญา ทำให้เเผนคลาดเคลื่อนและขณะนี้ภาพรวมก่อสร้างเสร็จเเค่ร้อยละ 38 แต่ล่าช้ากว่าร้อยละ 18 เพราะต้องเคลื่อนย้ายสาธารณูปโภค เเต่กรมทางหลวงไม่ได้นิ่งนอนใจจะเร่งให้เสร็จภายในปลายปี 2563 ให้ได้เเละขณะนี้ก็จัดการปัญหาเรื่องสาธารณูปโภคได้เรียบร้อยเเล้ว 

ส่วนสาเหตุปัญหาในพื้นที่ก่อสร้างพบว่าดินนิ่ม จึงจำเป็นต้องใช้ทรายถมเพื่อให้เเข็งเเรง โดยต้องใช้เวลาให้ดินเซ็ตตัวให้เเข็งเเรงประมาณ 180 วัน จึงอาจส่งผลต่อความล่าช้าในการทำทาง ทำให้เกิดรถติดหนัก โดยเฉพาะบริเวณหน้าวัดพันท้ายนรสิงห์ จึงมีเเนวทางแก้ปัญหา 2 แนวทาง ได้แก่ 1.บรรเทาความเดือดร้อนด้านจราจร คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดเเละเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอความร่วมมือบริษัทการขนส่งที่ใช้รถบรรทุกใหญ่ให้ออกเดินทางหลังช่วงเวลาเร่งด่วน เเละให้รถใหญ่ยูเทิร์นรถถัดไปอีก 1 กม.จากจุดเดิม ขณะที่เรื่องผิวจราจร ภายใน 2 สัปดาห์จะสามารถเลื่อนผิวจราจรจากจุดเดิมไปจุดถัดไปได้ เเละ 2.ปรับขั้นตอนการก่อสร้าง ไม่ให้เปิดหน้างานตรงกันต่อไปจะเปิดให้ห่างกันจะได้ไม่เกิดภาวะคอขวด รวมถึงให้ทำป้ายบอกทางจราจรให้ชัดเจน


ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าระยะทางเเค่ 11 กิโลเมตร ทำไมต้องมีบริษัทรับเหมาถึง 3 บริษัท มองว่าเพื่อความรวดเร็วในการทำงาน ส่วนที่มีข้อร้องเรียนว่า 1 ใน 3 บริษัทเคยรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่เเต่ทำงานล่าช้าเเล้วยังได้รับอนุญาตให้มาก่อสร้างอีก เรื่องนี้จะตรวจสอบเพิ่มเติม ขณะเดียวกันประชาชนในพื้นที่ได้ให้ข้อเสนอ ตั้งกรรมการทุกภาคส่วนเพื่อบูรณาการร่วมกัน จึงได้มอบหมายจังหวัดให้มีการตั้งคณะกรรมการ เพื่อเร่งรัดการทำงาน ซึ่งในอนาคตพื้นที่ดังกล่าวทราบว่าจะมีการสร้างทางยกระดับเเละทางด่วนอีก จึงต้องติดตามเเละดูเเลงาน ซึ่งสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่นี้อีก ส่วนประเด็นการปรับเปลี่ยนเเบบการก่อสร้างหรือปรับขนาดผิวถนนจนทำให้เกิดการล่าช้านั้นมองว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

ด้านนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ เพื่อให้เร่งรัดเเละควบคุมการปรับปรุงทางหลวงเส้นนี้ หลังร้องเรียนไปแล้ว 3 ครั้งเเต่ไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากก่อสร้างมานานกว่า 2 ปี เเต่ยังไม่เห็นวี่เเววว่าจะเสร็จ การขยายผิวถนนล่าช้า ทำให้รถติดยาวนาน จากเดิมกรุงเทพฯ มามหาชัยใช้เวลา 45 นาที เเต่เมื่อมีการก่อสร้างใช้เวลากว่า 2 ชม. ไม่มีการการวางเเผนปิดถนน จากปกติถนนมี 6 เลนถ้าจะปิดก็ควรเริ่มจากถนนคู่ขนาน เเล้วถึงไปถนนเส้นหลัก แต่กลับเปิดหน้าถนนทั้งหมด

“จากเดิมการเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงพระราม 2 ใช้เวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น แต่เมื่อมีการก่อสร้างขยายถนนส่งผลให้การเดินทางจากกรุงเทพฯ มาพระราม 2 ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ต้นทุนขนส่งสินค้าลงใต้พุ่ง 700-800 บาท/คัน เนื่องจากผู้ประกอบการต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินทางจากพระราม 2 ไปใช้เพชรเกษมแทน” นายอภิชาติ กล่าว

ขณะที่เส้นทางนี้ถือเป็นประตูสู่ภาคใต้หากล่าช้าจะทำให้เกิดความเสียหายด้านเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันการก่อสร้างไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน ไม่มีการวางเเท่งเเบร์ริเออเพื่อป้องกันอันตรายจากการก่อสร้างหรือรถที่สัญจรไปมาจำนวนมาก ทำให้เกิดอุบัติเหตุนับครั้งไม่ถ้วน

นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า ตั้งข้อสังเกตว่าตลอดระยะทางการก่อสร้างเเค่ 11 กม. ทำไมสร้างมากว่า 2 ปียังไม่เสร็จ เเละที่สำคัญทำไมต้องมีผู้รับเหมาถึง 3 บริษัท เเละทั้งหมดก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักด้านการก่อสร้างมากนัก หากเทียบเคียงกรณีอื่น เส้นมอเตอร์เวย์จากประตูน้ำพระอินทร์ไปจังหวัดนครราชสีมาระยะทางมากกว่าหลายเท่า เเต่ก็สร้างเสร็จภายใน 2 ปี ทั้งนี้ มองว่าจะช้าหรือเร็ว ควรต้องมีระบบจัดการที่มีคุณภาพ ทำป้ายบอกทางประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ไม่กั้นทางฟุตบาทให้ประชาชนเดิน แนะถ้าจะสร้างทางเพิ่มควรคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงภาคประชาชน เพราะทราบว่ารัฐมนตรีไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะแก้ปัญหาได้ คนในพื้นที่อย่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือระดับจังหวัดควรขยับให้มากกว่านี้

ด้านนางปัทมาพร ถาวรโชติ ประชาชนในพื้นที่ กล่าวว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง ตั้งเเต่การก่อสร้างโครงการก่อน ๆ ก็มีปัญหามาตลอด ยิ่งมาโครงการนี้การจราจรติดขัด ใช้ชีวิตยากลำบาก รถติดนานมากต้องเผื่อเวลาเดินทางไปส่งลูกที่โรงเรียนเเละไปทำงานจากเดิมอีก 2 ชั่วโมง บางครั้งไปทำงานสายก็เสียโอกาสเรื่องงาน ขณะที่อันตรายจากการก่อสร้างทั้งหลุมบ่อที่ไม่มีเเท่งเเบร์ริเออร์กั้น รวมถึงฝุ่นพิษPM2.5 มองว่าเป็นปัญหาเรื้อรังมีมาตั้งเเต่ตั้งครรภ์ลูกจนตอนนี้ 7 ขวบปัญหาก็ยังไม่เเก้ หน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการเเละขยับตัวมากกว่านี้

สำหรับการก่อสร้างปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 35 ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทางรวม 11.7 กิโลเมตร งบประมาณรวม 2,213.5 ล้านบาท โดยขยายคันทางทั้งทางขนาน (Frontage Road) จากเดิม 2 ช่องจราจรเป็น 3 ช่องจราจร และทางหลัก (Main Road) จากเดิม 3 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร พร้อมก่อสร้างสะพานกลับรถ 2 แห่ง ที่ กม.12 (แสมดำ) กม.16 (ก่อนถึงซอยพันท้ายนรสิงห์) และสะพานข้ามทางรถไฟ กม.18  โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ตอน ให้ 3 บริษัทดูแล ได้แก่ ตอน 1 (กม.9+800-13+300) ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ก่อสร้างโดยบริษัท บุญสหะการสร้าง จำกัด งบประมาณ 707.50 ล้านบาท ตอน 2 (กม.13+300-17+400) ระยะทาง 4.1 กิโลเมตร ก่อสร้างโดยบริษัท แสงชัยโชค จำกัด งบประมาณ 798.555 ล้านบาท และ ตอน 3 (กม.17+400-21+500) ระยะทาง 4.1 กิโลเมตร ก่อสร้างโดย บริษัท เอ็ม.ซี.คอนสตรัคชั่น (1979) จำกัด งบประมาณ 707.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตามสัญญาการก่อสร้าง คาดว่าจะเสร็จเดือนสิงหาคม 2563 แต่พบว่าความคืบหน้าเดือนมิถุนายน 2562 ตอน 1 คืบหน้าเพียงแค่ร้อยละ 6.06 ช้ากว่าแผนร้อยละ 43.95 ติดขัดปัญหาสาธารณูปโภค ตอน 2 คืบหน้าเพียงแค่ร้อยละ 17.31 ช้ากว่าแผนร้อยละ 31.40 ติดขัดต้นไม้และสาธารณูปโภค และตอน 3 คืบหน้าเพียงร้อยละ 31.48 ช้ากว่าแผนร้อยละ 6.06 ติดขัดสาธารณูปโภค.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]