กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – ตำรวจพบ 4 ข้อสงสัย เชื่อคนร้าย รุมตี “จ่านิว เป็นกลุ่มเดิม ขณะที่ ผบ.ตร.เรียกประชุมด่วนชุดสืบสวน ยังไม่ฟันธง 2 เหตุการณ์เชื่อมโยง วอนนักเคลื่อนไหว ต่อสู้ในสภา
จากกรณีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง ถูกชายฉกรรจ์ 4 คน บุกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณริมถนนรามอินทรา ปากซอยรามอินทรา109 (ซ.พระยาสุเรนทร์) แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 62ที่ผ่านมา
โดยเช้าวันนี้ (30 มิ.ย.) พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโทสุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาความเชื่อมโยงระหว่างเหตุที่เกิดในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง และพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี ว่าพฤติการณ์และกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยืนยันข้อสันนิษฐานดังกล่าว ส่วนแรงจูงใจนั้นยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตัดประเด็นประสงค์ต่อทรัพย์ทิ้ง เนื่องจากทั้ง 2 เหตุการณ์ไม่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของจ่านิวและตัวจ่านิวเองก็ไม่ได้เป็นบุคคลที่มีทรัพย์สิน ส่วนประเด็นอื่นๆ ยังไม่ตัดทิ้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว การพนัน ชู้สาว และการเมือง
ส่วนกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น หากรู้สึกไม่ปลอดภัยสามารถเรียกร้องให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมคุ้มครองสิทธิ หรือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลได้ แต่ส่วนตัวอยากให้กลุ่มนักเคลื่อนไหว 8-9 กลุ่ม เข้าไปต่อสู้ในสภา ไม่ใช่ออกมาต่อสู้บนท้องถนน เพราะการเคลื่อนไหวบนท้องถนน สร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับกลุ่มนักลงทุนชาวต่างชาติ รวมถึงตำรวจก็ต้องจัดกำลังเข้าไปดูแล เป็นเหตุให้กระทบถึงการทำงาน ยกตัวอย่างเช่น พรรคอนาคตใหม่ ที่เคยออกมาเคลื่อนไหว แต่เมื่อการเลือกตั้งมาถึงก็ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน และเข้าไปต่อสู้ในสภา ซึ่งเป็นวิธีการเคลื่นไหวทางการเมืองที่ถูกต้อง
ส่วนคดีนั้น มีการแบ่งหน้าที่ทำงานทั้งตำรวจในพื้นที่ สืบสวนนครบาล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยยังไม่สามารถเปิดเผยความคืบหน้าได้ แต่ยืนยันว่ามีความคืบหน้าพอสมควร
สำหรับกรณีที่โลก Social Media ได้มีการพูดถึงกลุ่มคนร้ายว่าเป็นคนในเครื่องแบบ ตนขอยืนยันว่ายังไม่มีการพูดถึงในประเด็นนี้ หากหลักฐานเชื่อมโยงหรือถึงบุคคลที่ 3 หรือบุคคลมีสี ในคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการจับกุมต่อไป
ส่วนกระแสเรียกร้องให้มีการปลดเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังเกิดนั้นเหตุ ตนคิดว่าคงต้องทำใจกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ แต่ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเต็มที่ ซึ่งอาจจะไม่ตรงตามความต้องการของกลุ่มใด
มีรายงานว่า ชุดสืบสวนทำการเปรียบเทียบเหตุการทำร้ายจ่านิว 2 เหตุการณ์ พบความเชื่อมโยงหลายส่วน เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกัน เช่น รูปพรรณสัณฐานคนร้าย จำนวนผู้ก่อเหตุที่มี 4 คน รถจักรยานยนต์ที่ใช้ คือ พีซีเอ็กซ์ รุ่น และสีเดียวกัน และเป็นที่น่าสงสัยว่ากล้องวงจรปิดทั้ง 2 เหตุการณ์มีลักษณะถูกเบื่ยงจากมุมเดิม ทำให้ไม่เห็นเหตุการณ์ขณะลงมือทำร้าย .-สำนักข่าวไทย