สมุทรปราการ 25 เม.ย. – ตำรวจรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บและเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาสาเหตุรถเอสยูวีจอดรถเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็ก บนถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 ถูกรถบรรทุกพ่วงชนอัดก๊อบปี้ เสียชีวิตคาซากรถ 8 ราย บาดเจ็บอีก 3 ราย
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นช่วง 4 ทุ่ม คืนที่ผ่านมา (25 เม.ย.) ตำรวจและกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณจุดจอดรถฉุกเฉิน บนถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 ช่วงกิโลเมตรที่ 23 ขาออกมุ่งหน้าบ้านฉาง จ.ชลบุรี ก่อนถึงด่านลาดกระบัง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ในช่องทางซ้ายสำหรับจอดรถฉุกเฉิน พบรถจอดเสียหายอยู่ทั้งหมด 3 คัน คันแรกเป็นรถพ่วง 22 ล้อ บรรทุกน้ำมันพืช ท้ายรถเสียหาย มีร่องรอยถูกชนอย่างแรง โดยมีรถเอสยูวี 7 ที่นั่ง ยี่ห้อเชฟโรเลต แคปติวา สีขาว หมายเลขทะเบียนอุดรธานี อยู่ตรงกลางในสภาพพังยับเยิน ปิดท้ายด้วยรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ หมายเลขทะเบียนชลบุรี อยู่ในสภาพพังยับเยินเช่นกัน
จากการตรวจสอบในรถเอสยูวี พบร่างผู้เสียชีวิตหลายราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูต้องระดมเครื่องตัดถ่างหลายชุดเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา โดยพบร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมด 8 ราย เป็นเด็กหญิง 2 ราย อายุประมาณ 2-3 ขวบ เด็กชาย 1 ราย อายุประมาณ 10 ขวบ ผู้ใหญ่เพศหญิง 4 ราย และผู้ใหญ่เพศชาย 1 ราย พบร่างตรงตำแหน่งคนขับ นอกจากนั้นพบชิ้นส่วนอวัยวะทั้งแขนและขา รวมถึงศีรษะบางส่วน รอการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอีกครั้ง โดยร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดนำส่งนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ จ.สมุทรปราการ
ในที่เกิดเหตุยังพบผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย คือ นายเสน่ห์ อายุ 60 ปี คนขับรถบรรทุก คู่กรณีที่มาชนท้าย และอีก 2 ราย คือ น.ส.หทัยมาศ อายุ 18 ปี อีกคนเป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี ทั้งคู่โดยสารที่มากับรถเอสยูวี ทั้ง 3 ราย ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9
จากการสอบถามเบื้องต้นเด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า นั่งมาในรถกำลังเดินทางไปหาพ่อกับแม่ที่ จ.ระยอง โดยในรถมีน้าและอา หลานสาว รวมทั้งหมด 10 คน โดยทั้งสองคนที่ได้รับบาดเจ็บเป็นจังหวะที่ลงมายืนท้ายรถ เพื่อหยิบผ้าอ้อมไปเปลี่ยนให้หลาน และกำลังจะพากันเดินกลับขึ้นรถ แต่ถูกรถชนท้ายจนกระเด็น
ด้านนายกวางแก้ว อายุ 51 ปี คนขับรถบรรทุกที่จอดคันแรก เล่าว่า ขับรถบรรทุกน้ำมันพืชจาก จ.ชุมพร จะไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.ปราจีนบุรี จนมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่องทางจอดรถฉุกเฉิน จึงพากันจอดรถหวังจะกินข้าวกันในรถ แต่พอจอดได้ไม่ถึง 5 นาที ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งความแรงของการชนทำให้รถขยับไถลไปข้างหน้าหลายสิบเมตร

รอสอบคนเจ็บ-ตรวจกล้องวงจรปิด หาสาเหตุอุบัติเหตุ
พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ระบุว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น รถเอสยูวีจอดรถในช่องทางฉุกเฉิน หรือจุดพักรถชั่วคราว โดยจอดต่อท้ายรถบรรทุกน้ำมันพืช เพื่อให้คนในรถลงมาหยิบผ้าอ้อมไปเปลี่ยนให้เด็ก ก่อนที่รถบรรทุกคันก่อเหตุจะวิ่งเข้ามาและพุ่งชนท้ายรถเอสยูวีอย่างรุนแรง ขณะนี้ติดต่อญาติรถเอสยูวีได้แล้ว อยู่ระหว่างเดินทางมายังโรงพยาบาล ส่วนรายละเอียดพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำคนขับและผู้บาดเจ็บอีกครั้ง พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุต่อไป
ล่าสุดคนขับรถบรรทุกยังอาการสาหัส รักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน เช่นเดียวกับผู้บาดเจ็บที่โดยสารมากับรถเอสยูวีอีก 1 คน ส่วนผู้บาดเจ็บที่เป็นหญิงอายุ 12 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย อยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้ามาร่วมสอบปากคำ.-สำนักข่าวไทย