กสศ.27 พ.ค..- “ประสาร” ชี้การขจัดความยากจน จากรุ่นพ่อแม่สู่รุ่นลุกทำได้ด้วยความเสมอภาคทางการศึกษา อนาคตวางโครงการทุนสำหรับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลให้เป็นครูรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรียนของชุมชน ปีละ 300 คน ต่อเนื่อง 5 ปี
ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดเผยในงานแถลงผลงาน “กอปศ. รายงานประชาชน 2 ปีปฏิรูปการศึกษาก้าวหน้าอย่างยั่งยืน” ว่า 9 เดือนที่ผ่านมา กสศ. ได้เริ่มดำเนินการช่วยเหลือดูแลกลุ่มเป้าหมาย ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส โดยพุ่งเป้าไปที่การดูแลประชากรกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึงวัยทำงาน เพื่อให้สามารถขจัดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นรากเหง้าของปัญหาอื่นๆ โดยเฉพาะความยากจน ซึ่งหากแก้ไม่ได้ ปัญหานี้จะส่งทอดวนเวียนไปข้ามชั่วคน จากพ่อแม่ ส่งต่อไปถึงรุ่นลูกได้เพราะมีกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงการศึกษา หรือได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพต่างกัน
โดยปัจจัยสำคัญของการทำงานของ กสศ.ให้สำเร็จ คือต้องรู้จักเลือกจังหวะเวลาในการทำงานให้เป็น ต้องมีความชัดเจนว่า ว่าทำอะไรเมื่อไหร่ อย่างไร และมีทักษะในการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงยืดหยุ่นเท่าทันกับปัญหา รวมทั้งสามารถสร้างแนวร่วมหุ้นส่วนความสำเร็จเรื่องความเสมอภาคทางการศึกษาในทุกระดับให้ได้ แม้ว่ากรอบภารกิจของ กสศ. จะค่อนข้างกว้างขวางครอบคลุมประชากรมากกว่า 4 ล้านคน หลายช่วงวัยตั้งแต่แรกเกิดถึงวัยทำงาน รวมทั้งการสนับสนุนการทำงานของครูและสถานศึกษาในพื้นที่ยากลำบาก แต่ภารกิจที่ กสศ. ให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดคือภารกิจด้านการวิจัยพัฒนานวัตกรรมและระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการค้นหากลุ่มเป้าหมายให้แม่นยำ และติดตามประเมินผลเพื่อนำกลับมาพัฒนาระบบงานให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบ iSEE และระบบคัดกรองนักเรียนยากจน
ดร.ประสาร กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของภารกิจช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มเป้าหมายเด็กเยาวชนในครอบครัวผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ กสศ.ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงการให้ทุน แต่ยังได้หามาตรการในการเข้าไปแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น การให้เงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไขเป็นรายบุคคลที่ตรงกับความจำเป็นของเด็กและเยาวชนอย่างแท้จริง (Demand-side Financing) และมีการติดตามผลการมาเรียนและน้ำหนักส่วนสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษา ซึ่งใน ปีการศึกษา 2561 กสศ.ได้จัดสรรเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไขให้แก่นักเรียนยากจนพิเศษ ไปแล้ว กว่า 5.1 แสนคน ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 26,557 แห่งทั่วประเทศ เตรียมขยายผลสู่นักเรียนในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียนสังกัดตำรวจตระเวนชายแดน รวมถึงได้ริเริ่มโครงการสนับสนุนทุนเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ในรูปแบบของทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ร่วมกับ 36 สถานศึกษาสายอาชีพ สร้างโอกาสให้เยาวชนจาก ครัวเรือนที่ยากจนได้เรียนต่อในสายอาชีพชั้นสูง จำนวน 2,107 คน ในปีการศึกษา 2562 และช่วยยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอนสถาบันการศึกษาสายอาชีพให้มีสมรรถนะ และทักษะอาชีพ ตาม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงความต้องการตลาดแรงงานในท้องถิ่น
ในอนาคต จะริเริ่มโครงการทุนสำหรับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล ให้เป็นครูรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรียนของชุมชน ปีละ 300 คน ต่อเนื่อง 5 ปี และเตรียมสร้างสถาบันต้นแบบด้านการพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัยให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 300 แห่งทั่วประเทศ สร้างระะบบตัวอย่างในการช่วยเหลือเด็กเยาวชนนอกระบบการศึกษาครบวงจร เบื้องต้นสามารถช่วยเหลือได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 คนในการดำเนินงานในปีแรกและเริ่มดำเนินการแล้วในบางพื้นที่ของกทม.ผ่านความร่วมมือจากหลากหลายองค์กร.-สำนักข่าวไทย