กรุงเทพฯ20 ก.พ..-กสศ.ผนึก ยูเนสโก จับมือ 5 ประเทศชั้นนำ สร้างเครือข่ายนานาชาติด้านความเสมอภาคทางการศึกษา ชี้ จัดสรรงบประมาณช่วยเด็กด้อยโอกาส ต้องใช้ข้อมูลรายคน และเข้าใจความแตกต่างของเด็ก เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกับ ยูเนสโก ยูนิเซฟ และหน่วยงานด้านความเสมอภาคทางการศึกษาจากหลายประเทศ เช่น ฟินแลนด์, นิวซีแลนด์, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จัดประชุมเครือข่ายองค์กรนานาชาติด้านความเสมอภาคทางทางการศึกษา หรือ The Equitable Education Association : A Kick-off Meeting โดยตัวแทนจากประเทศต่างๆได้นำเสนอความก้าวหน้าด้านการลดความเหลื่อมล้ำและเดินหน้าร่วมเป็นเครือข่ายนานาชาติด้านความเสมอภาคทางการศึกษา
นายอิจิโร่ มิยาซาวา ผู้เชี่ยวชาญด้านการรู้หนังสือและการเรียนรู้ตลอดชีวิต จากยูเนสโก กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายองค์กรนานาชาติด้านความเสมอภาคทางการศึกษา เพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกันได้อย่างตรงจุด แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของแต่ละประเทศ และสร้างความเข้าใจร่วมกัน เราได้เห็นจุดแข็งของหลายๆประเทศ ที่โด่ดเด่นที่สุดคือ ทุกคนต้องการสนับสนุนการศึกษาอย่างเสมอภาคให้เกิดขึ้น ในขณะที่จุดอ่อนก็คือ อุปสรรคในเชิงปฏิบัติที่มีปัญหาอยู่บ้าง ทั้งนี้ขอชื่นชมประเทศไทยที่จัดตั้ง กสศ. ขึ้นเพื่อลงมือแก้ปัญหานี้ นับเป็นตัวอย่างที่ดีที่อยากจะให้โลกได้เห็น
นายอิจิโร่ กล่าวว่า ปัญหาของเด็กๆทั่วโลกที่ไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษา โดยมีเด็กและเยาวชนกว่า 263 ล้านคนทั่วโลกที่ออกจากระบบการศึกษา และเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข แม้รัฐบาลหรือหน่วยงานต่างๆ ทั้ง ยูนิเซฟ ยูเนสโก ได้พยายามอย่างมากที่จะแก้ไขปัญหานี้ แต่ก็ยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ดังนั้นพวกเราต้องร่วมกันจัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างความเสมอภาค เพื่อให้เด็กๆได้รับโอกาสทางการศึกษามากขึ้น และมุ่งหวังให้เติบโตอย่างชาญฉลาด มีคุณภาพทั้งทางความคิด จิตวิญญาณผ่านการศึกษา
ด้านน.ส.ธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วม นวัตกรรมและทุนการศึกษา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า กสศ. ยูเนสโก้ รวมถึงเครือข่ายจาก 5 ประเทศ ได้วางภารกิจร่วมกันไว้ใน 2 ประเด็น คือ 1.การแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการทำงาน นวัตกรรม และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อร่วมกันทำงานด้านความเสมอภาคทางการศึกษาระหว่างประเทศ 2. กสศ. ยูเนสโก รวมถึงเครือข่ายนานาชาติ มุ่งสนับสนุนทางวิชาการและให้คำปรึกษาให้แก่ประเทศที่สนใจแต่ยังไม่มีกลไกการทำงานโดยตรง ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ลงนามตกลงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2573 ร่วมกับ193 ประเทศ ซึ่งประเด็นเรื่องการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาเป็นหนึ่งในเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ การหารือครั้งนี้จึงเป็นโจทย์ร่วมกันที่ทุกฝ่ายต้องทำงานให้บรรลุเป้าหมาย โดยการนำโมเดลและจุดแข็งของ 5 ประเทศมาปรับใช้กับไทย เช่น ฟินแลนด์ มีจุดแข็งด้านการสนับสนุนและสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับกลุ่มเด็กที่เรียนไม่ทัน ผ่านการมีระบบดูแลเด็กรายบุคคล ส่วนนิวซีแลนด์เน้นสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กปฐมวัย มีการจัดสอนเสริมให้แก่เด็กปฐมวัยจากครอบครัวที่ยากจนให้ได้รับการพัฒนาที่ดีและมีการจัดสรรงบประมาณส่วนเพิ่มเติม (Top-up) ขณะที่อเมริกาใช้วิธีการพัฒนาโรงเรียนของชุมชน (Promise Neighborhood School) ในย่านที่มีคนยากจน โดยผสานความร่วมมือทั้งหน่วยจัดการศึกษาและพ่อแม่ ดูแลตั้งแต่แรกเกิดจนถึงมีงานทำ โดย วันที่ 10-12 กรกฎาคม 2563 นี้ กสศ. ยูเนสโก ยูนิเซฟ เครือข่ายองค์กรนานาชาติด้านความเสมอภาคทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวง พ.ม. จะร่วมกันจัดประชุมหน่วยงานที่ขับเคลื่อนด้านความเสมอภาคทางการศึกษาในระดับนานาชาติเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดโอกาสให้นวัตกรรมของไทยและต่างประเทศได้มีโอกาสขยายบทเรียนไปสู่ประเทศอื่นๆ เพื่อขับเคลื่อนประเด็นการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาให้เกิดประโยชน์แก่เด็กทั่วโลก
นายเดเมียน เอ็ดเวิร์ด ผู้ช่วยรองเลขาธิการ สำนักงานนโยบายระบบการศึกษา กระทรวงศึกษา นิวซีแลนด์ กล่าวว่า การสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาควรเพิ่มงบประมาณให้แก่ระบบการศึกษาเพื่อสนับสนุนเด็กเรื่องความเสมอภาค โดยกุญแจสำคัญคือต้องเข้าใจข้อมูลเรื่องราวของเด็กแต่ละคน เพื่อทราบว่าควรจะเพิ่มงบประมาณไปที่จุดไหนและใช้อย่างไร เจาะลึกลงไปสู่ระดับครัวเรือนของเด็กกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือเด็กแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมที่สุด.-สำนักข่าวไทย