กรุงเทพฯ 12 พ.ค.-บริษัทศูนย์วิจัยไทยปรับคาดการณ์ผลกระทบภัยแล้งที่มีแนวโน้มลากยาวถึงก.ค. จะกระทบต่อเกษตรกรเพิ่มมากขึ้นโภยเฉพาะชาวนาและชาวไร่อ้อย มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจอาจแตะ 1.73 หมื่นล้านบาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ปรับคาดการณ์สถานการณ์ภัยแล้งในปี 2562 ว่าหากลากยาวต่อเนื่องออกไปอีก 2 เดือนข้างหน้า คือราวเดือนก.ค. จากที่จะยุติในเดือนพ.ค. โดยผลกระทบก็น่าจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากยังไม่ถึงฤดูกาลเพาะปลูกพืชสำคัญอย่างข้าวนาปี รวมถึงระดับความรุนแรงของภัยแล้งน่าจะลดน้อยลงกว่าในช่วงรุนแรงที่สุดในเดือนมี.ค.-เม.ย. ผนวกกับฝนที่อาจมีมาบ้าง แม้ว่าจะยังเป็นภาวะฝนทิ้งช่วงในเดือนก.ค.-มิ.ย. ทำให้ในภาพรวมแล้วสภาพอากาศต่อจากนี้ในอีก 2 เดือนข้างหน้าจะนับว่ายังคงแห้งแล้ง ซึ่งแม้ผลจากภัยแล้งจะช่วยดันราคาข้าวและอ้อยให้ขยับขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมรายได้เกษตรกรที่เดิมก็แย่อยู่แล้วให้เผชิญความยากลำบากเพิ่มขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่อาจเพิ่มขึ้นอีกราวเดือนละ 1,000 ล้านบาท จนอาจประเมินได้ว่า หากภัยแล้งลากยาวไปจนถึงเดือนก.ค.2562 ก็อาจทำให้เกิดมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจรวมที่ราว 17,300 ล้านบาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า สัญญาณภัยแล้งในปี 2562 ที่มีความเป็นไปได้ว่าอาจลากยาวไปจนถึงเดือนก.ค.2562 เมื่อเทียบกับคาดการณ์เดิมที่ภัยแล้งน่าจะสิ้นสุดในเดือนพ.ค.2562 พิจารณาได้จากปริมาณน้ำในเขื่อนที่ยังอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงแนวโน้มภาวะฝนทิ้งช่วงในเดือนมิ.ย.-ก.ค.2562
หากภัยแล้งลากยาวกินเวลาต่อไปอีก 2 เดือนข้างหน้า ก็จะกระทบต่อผลผลิตข้าวนาปรังที่ยังทยอยออกสู่ตลาดและผลผลิตอ้อยที่จะอยู่ในช่วงการปลูกอ้อยต้นฝน (ในเขตอาศัยน้ำฝน) ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ราคาข้าวและอ้อยอาจขยับขึ้นได้ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2562 แต่ในแง่ของภาพรวมราคาเฉลี่ยทั้งปี 2562 อาจยังให้ภาพที่หดตัวอยู่ ด้วยปัจจัยด้านการแข่งขันในตลาดโลกที่ยังรุนแรง รวมถึงปริมาณผลผลิตที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยคาดว่า ภาพรวมราคาข้าวเฉลี่ยในปี 2562 อาจอยู่ที่ 10,700-10,800 บาทต่อตัน หรือหดตัวร้อยละ 0.3-1.2 (YoY) สำหรับราคาอ้อยเฉลี่ยในปี 2562 อาจอยู่ที่ 700-710 บาทต่อตัน หรือหดตัวร้อยละ 0.4-1.8 (YoY)
รายได้เกษตรกรในปี 2562 อาจให้ภาพที่แย่ลงไปอีก โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ผลจากภัยแล้งในปี 2562 หากกินเวลาเพิ่มขึ้นอีก 2 เดือน จะยิ่งส่งผลกดดันซ้ำเติมรายได้เกษตรกร จากผลของแรงฉุดด้านผลผลิต ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมรายได้เกษตรกรในปี 2562 ให้หดตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 2.1-2.4 (YoY) เมื่อเทียบกับคาดการณ์เดิมที่หดตัวร้อยละ 1.2-1.6 (YoY)-สำนักข่าวไทย