ลพบุรี 20 ส.ค.- ทีม สธ. ลงพื้นที่ตรวจโรงงานผลิตกัญชาเพื่อการแพทย์ จ.ลพบุรี หลังมีข่าวเกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ พบเป็นโรงงานระบบปิด ผลิตเพื่อส่งออกอย่างเดียว ไม่สามารถเข้าออกได้ง่าย
นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ ลงพื้นที่โรงงานผลิตกัญชาเพื่อการแพทย์ จังหวัดลพบุรี โดยโรงงานแห่งนี้ อยู่ในบัญชีรายชื่ออย่างถูกต้อง ระบุการลงพื้นที่วันนี้ เนื่องจากมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าโรงงานแห่งนี้ อาจเกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ จึงนำคณะลงมาตรวจสอบว่ายังปฏิบัติตามกฎกระทรวงอย่างถูกต้องหรือไม่ และเกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุอย่างที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยหรือไม่ เบื้องต้นพบว่าโรงงานนี้ เป็นโรงงานระบบปิด ไม่สามารถเข้าไปได้โดยง่าย มีการขออนุญาตกับกรมแพทย์แผนไทยตามที่กำหนด ผลิตเพื่อส่งออกอย่างเดียว และส่งให้กับโรงงานที่ใช้ผลิตยารักษาโรคเท่านั้น ในพื้นที่มีความปลอดภัยสูง มีวงจรปิดชัดเจน แนะนำว่าพยายามเพิ่มรั้วให้สูงขึ้น เพื่อปกปิดทัศนียภาพได้ชัดเจนมากขึ้น เท่าที่ตรวจสอบ ยังถือว่าปลอดภัย และไม่พบการกระทำความผิดส่วนอื่น ไม่ได้ดูค่าเช่า ดูเพียงเอกสารที่ต้องยื่นกับกรมแพทย์แผนไทย
ด้านผู้จัดการบริษัท เปิดเผยว่าเจ้าของบริษัทแห่งนี้ เช่าพื้นที่ส่วนหนึ่งของใจฟ้าฟาร์ม เพื่อตั้งโรงงาน โดยเช่าพื้นที่เท่าที่มีการล้อมรั้วไว้เท่านั้น ยืนยันว่าบริษัทแห่งนี้ จัดตั้งและผลิตถูกต้องตรงตามระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และเป็นการแปรรูปกัญชาเพื่อการแพทย์สำหรับส่งออก ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับหลวงพ่ออลงกต พูดได้แค่ในส่วนงานที่ตนเองรับผิดชอบเท่านั้น หากถามเกี่ยวกับเรื่องกัญชา สามารถตอบคำถามได้หมด ยืนยันว่าสำหรับผู้ป่วยบางราย กัญชายังถือว่ามีประโยชน์ต่อการบำบัดรักษาโรค และมั่นใจว่าทำถูกต้องทุกอย่าง แต่ในส่วนประเด็นอื่นๆ ไม่สามารถพูดได้เนื่องจากไม่รู้ข้อมูล หากหลังจากนี้ มีคำสั่งให้ออกจากพื้นที่ ต้องทำตามนั้น
นายกองตรี ดร.ธนกฤต ยังเปิดเผยว่า วันนี้ได้เข้าพบหลวงพ่ออลงกตเป็นการส่วนตัว พูดคุยกัน หลวงพ่ออลงกตกังวลเล็กน้อย เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย จึงอธิบายว่า กรณีอาคารธรรมสังเวชที่มีศพอยู่ กรมอนามัยมองว่าไม่ถูกสุขลักษณะ เพราะผู้ป่วยเป็นร่างที่มีเชื้อโรค มีโอกาสแพร่กระจายได้ จึงแจ้งว่าให้นำศพฌาปนกิจ และหากจะต้องมีศพไว้ศึกษา ควรต้องประสานสาธารณสุขจังหวัดว่าต้องทำอย่างไร ส่วนสถานชีวาภิบาล ไม่ควรมีหมออยู่ที่นี่ หลวงพ่อชี้แจงว่ามีหมอแวะเวียนมาดูบ้าง จึงบอกว่าในวิธีปฏิบัติไม่สามารถทำได้ หากต้องการให้มีหมอ จำเป็นต้องขอจัดตั้งคลินิก อีกส่วนคือพื้นที่ดูแลผู้ป่วย HIV ก็แนะนำว่าต้องขึ้นทะเบียนเป็นเนอสซิ่งโฮมให้เป็นไปตามระเบียบ
ส่วนอาคารเมตตาธรรม สันนิษฐานว่าน่าจะเคยใช้เป็นสถานพยาบาลมาก่อน เพราะมีอุปกรณ์บางอย่างบ่งบอกว่าเป็นสถานพยาบาล ต้องถือว่าอาจผิดกฎหมายอาญา ต้องให้สาธารณสุขจังหวัดร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สอบสวน และร้องทุกข์กล่าวโทษต่อทางวัด หลวงพ่อยืนยันว่าจะยังคงช่วยเหลือประชาชนต่อ แต่ต้องปรับปรุงแก้ไข ต้องไปพิจารณาในคณะทำงาน เรื่องคดีความตอนนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา แม้ว่าหลวงพ่อลาออกพ้นสภาพเจ้าอาวาสทางกฎหมายแล้ว ต้องให้เจ้าคณะตำบลเป็นผู้บริหารจัดการตรงนี้ก่อน ส่วนหลวงพ่อในฐานะพระลูกวัด ก็อาจอยู่ในส่วนของการให้คำแนะนำ .-สำนักข่าวไทย