รวบหนุ่มป่วนยิงหนังสติ๊กใส่รถยนต์ 20 คัน

ชุมพร 18 เม.ย.-หนุ่มวัย 37 ปี ก่อเหตุยิงหนังสติ๊กใส่รถยนต์ที่วิ่งอยู่บนถนนเพชรเกษม จ.ชุมพร เสียหายกว่า 20 คัน ขณะถูกบุกเข้าจับกุมอยู่ในอาการมึนเมาพบประวัติเคยติดคุกกว่า 7 ปี  


 

ตั้งแต่ช่วง 21.00 น.จนถึงเกือบๆ 01.00 น. ของเมื่อคืนนี้ ตำรวจสภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร รับแจ้ง มีคนร้ายใช้ของแข็งปาใส่รถยนต์ที่สัญจรบนผ่านถนนสายเพชรเกษมฝั่งขาล่องใต้กว่า 20 คันได้รับความเสียหาย 


สองสามีภรรยาชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า กำลังขับรถมุ่งหน้ากลับบ่านที่จ.สุราษฎร์ธานี มาถึงที่เกิดเหตุ เห็นรถยนต์จอดเปิดไฟกระพริบขอทางอยู่ริมถนนหลายคัน ครั้งแรกคิดว่าเกิดเหตุรถเฉียวชนกัน จึงได้ชะลอความเร็วมาเรื่อยๆจนใกล้ที่บรรดารถจอดอยู่ ก็ได้ยินเสียงมีของแข็งมากระทบข้างรถด้านซ้ายดังปัง จึงได้หันไปมองริมถนน พบว่ามีคนยืนถือหนังสติ๊กเล็งยิงใส่รถคันอื่นที่ตามหลังมา จึงขับรถไปจอดใกล้กับรถที่จอดอยู่ก่อนแล้ว จึงทราบว่าโดนยิงด้วยหนังสติ๊กเหมือนกัน 


ด้านนายมณเฑียร ต้นเกตุ เหยื่ออีกรายเล่าวว่า ขับรถบรรทุกหกล้อพ่วง บรรทุกสินค้ามาถึงที่เกิดเหตุสังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่ง ยืนอยู่ริมถนนมีกระเป๋าสะพาย พอรถวิ่งเข้ามาใกล้ ชายคนดังกล่าวได้ยกหนังสติ๊กยิงก้อนหินเข้าใส่รถ  ถูกเข้าที่กระจกหน้า แตกเป็นรูทะลุ แต่ไม่กล้าจอดรถเนื่องจากเป็นที่มืดเกรงว่าจะถูกปล้นจึงได้ขับรถไปจอดที่ป้อมตำรวจข้างหน้าเพื่อแจ้งเหตุ หลังเกิดเหตุตำรวจระดมกำลังปิดล้อมบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุจนสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ คือนายสุรินทร์ จันทร์ทอง อายุ 36 ปี ขณะนั่งซุ่มอยู่ในป่าข้างทาง ห่างจากจุดจอดรถที่เสียหายไปประมาณ 200 เมตร ค้นในตัวพบหนังสติ๊ก 1 อัน ก้อนหินทรงกลมขนาดใหญ่จำนวนมากในกระเป๋าสะพาย โดยผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมา พูดจาไม่ค่อยจะรู้เรื่อง จึงได้นำตัวสอบปากคำที่ สภ.ท่าแซะ  

นายสุรินทร์อ้างว่าก่อเหตุเพราะโมโห ที่ถูกรถบรรทุกสิบล้อขับรถบาดหน้ารถจักรยานต์ตัวเอง และยิงใส่รถไฟเพียง 3 คัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อเนื่องจากพบหนังสติ๊กและก้อนหินจำนวนมากในกระเป๋า ประกอบมีประวัติเคยถูกจับติดคุกนานกว่า 7 ปี และที่เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นานในข้อหาพรากผู้เยาว์จากเรือนจำหลังสวนอีกด้วย ตลอดเวลาที่สอบสวน มีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความต่อเนื่อง โดยมีการซักถามเหตุจูงใจในการก่อเหตุ แต่มีการตอบยียวนกันจนบางรายคุมอารมณ์ไม่อยู่ผ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่เข้าตบหน้านายสุรินทร์ จนเจ้าหน้าที่ต้องจับแยก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือนายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข