จบด้วยดี! “มาริโอ้” ไม่เอาเรื่อง หลังถูกแท็กซี่ยิงหนังสติ๊กใส่กระจกรถ ปมขับปาดหน้า

กรุงเทพฯ 8 ม.ค.-จบด้วยดี! คดีโชเฟอร์แท็กซี่ยิงหนังสติ๊กลูกแก้วใส่กระจกรถ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ดาราชื่อดัง หลังจากขับรถปาดหน้ากันไปมาบริเวณแยกประตูน้ำ โดยดาราดังไม่เอาเรื่องทำให้เสียทรัพย์ กระจกรถแตกเสียหาย ด้านตำรวจเตรียมยื่นขนส่งพักใบขับขี่แท็กซี่วันนี้ 


เมื่อเวลา 17.30 น. วานนี้ (8 ม.ค.) ร.ต.อ.กฤษณะ มั่นศักดิ์ รอง สว. (สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งมีเหตุผู้ขับขี่รถยนต์ทะเลาะวิวาทกันริมถนนราชปรารภ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท


ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณริมถนนราชปรารภฝั่งซ้ายมุ่งหน้าเข้าประตูน้ำ พบรถยนต์ปอร์เช่ รุ่นคาร์เรรา 2 สีดำ จอดอยู่ริมฟุตบาทฝั่งซ้าย ในสภาพกระจกด้านคนขับแตกทั้งบาน ใกล้รถพบนายมาริโอ้ เมาเร่อ อายุ 29 ปี นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่ ขณะเดียวกันพบรถคู่กรณีเป็นรถแท็กซี่โตโยต้า สีเหลือง สภาพกระจกด้านหน้าซ้ายแตก มีนายอุดร สุทธิสน อายุ 37 ปี ชาว ต.เด่นราษฎร์ อ.หนองฮี จ.ร้อยเอ็ด คู่กรณี เป็นผู้ขับขี่

จากการสอบปากคำ นายอุดร โชเฟอร์รถแท็กซี่ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจากถนนพระราม 6 เพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อมาถึงแยกอุรุพงษ์ ถูกรถปอร์เช่ของดาราหนุ่มขับปาดหน้า ตนจึงเปิดกระจกด่า ก่อนที่จะมีการด่ากันไปมา จากนั้นได้มีการขับรถปาดกันไปมาจนมาติดไฟแดงบริเวณแยกประตูน้ำ นายอุดร ได้ใช้หนังสติ๊กยิงลูกหินจากภายในรถทะลุกระจกรถตัวเองฝั่งซ้ายไปโดนกระจกฝั่งขวาด้านคนขับรถของดาราหนุ่มจนแตก จากนั้นตัวนายมาริโอ้ จึงขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชปรารภก่อนจะจอดรถ ก่อนจะมีตำรวจที่อยู่ภายในป้อมตำรวจบริเวณแยกประตูน้ำมาตรวจสอบ จากนั้นจึงได้เชิญตัวทั้งคู่มาสอบปากคำที่ สน.พญาไท


ด้าน พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท เบื้องต้นใช้เวลาสอบปากคำและไกล่เกลี่ยนานกว่า 2 ชั่วโมง ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีกับนายอุดร รวม 2 ข้อหา คือ ทำให้เสียทรัพย์ กับทำร้ายผู้อื่นโดยไม่เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บทางกายและจิตใจ โดยข้อหาทำให้เสียทรัพย์ได้ไกล่เกลี่ยกันลงตัว โชเฟอร์แท็กซี่ยอมรับผิด ขอโทษ และยอมชดใช้ค่าเสียหายให้จำนวน 15,000 บาท แต่มาริโอ้ ไม่เอาความเรื่องกระจกเสียหาย ส่วนอีกข้อหาคือ ทำร้ายผู้อื่นโดยไม่เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บทางกายและจิตใจ ตำรวจได้เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน  200 บาท และในวันพรุ่งนี้ พนักงานสอบสวนจะทำหนังสือส่งไปที่กรมการขนส่งทางบก เพื่อพิจารณาพักใบอนุญาตขับขี่ของนายอุดร ซึ่งจะต้องรอกรมขนส่งทางบกเป็นผู้พิจารณาว่าจะพักการใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือไม่ เนื่องจากเกรงว่าโชเฟอร์รายดังกล่าวจะไปก่อเหตุกับผู้ขับขี่รถรายอื่นบนท้องถนนอีก หากเกิดเหตุการณ์อย่างในวันนี้

จากนั้นเมื่อเวลา 21.00 น. มาริโอ้ ได้เดินทางกลับ และกล่าวสั้นๆ กับผู้สื่อข่าวว่า ยังสบายดีอยู่ จะขอมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังในภายหลัง ก่อนขึ้นรถกระบะสีดำกลับไปทันที

ส่วนโชเฟอร์แท็กซี่อาศัยจังหวะที่กลุ่มผู้สื่อข่าวไปดักสัมภาษณ์มาริโอ้ หลบออกไปทันที จึงยังไม่มีโอกาสให้พูดคุยสัมภาษณ์แต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

แจ้งเอาผิด “โมนิก้า” ด่าทหาร-ประสาน กต.เรียกตัวให้ปากคำ

สุรินทร์ 22 ก.ค.- สภ.พนมดงรักษ์ รับแจ้งความเอาผิด “โมนิก้า” ม.116 – ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ปมชี้หน้าด่าทหารปราสาทตาเมือนธม ประสาน กต.เรียกตัวให้ปากคำ จากกรณี นักท่องเที่ยวหญิงชาวกัมพูชา ก่อความวุ่นวายประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ด้วยการชี้หน้าด่าทหารไทยในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังมีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียว่าผู้หญิงดังกล่าว ชื่อ นโรดม แพน โมนิก้า ล่าสุดสถานีตำรวจภูธรพนมดงรักษ์ (สภ.พนมดงรักษ์) จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนดำเนินคดีข้อหาก่อความวุ่นวาย ดูถูกเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่และการปลุกปั่นยุยงเพื่อนำเข้าในระบบคอมพิวเตอร์ คดีดังกล่าวเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางและเป็นที่สนใจของประชาชน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้รายงานไปยังผู้บังคับการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อแต่งตั้งคณะทำงานสอบสวนดำเนินคดีนี้ เบื้องต้น ทางผู้บังคับการจังหวัดสุรินทร์ ลงนามแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน ไปช่วยทำคดีนี้ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานสอบพยาน พยายานบุคคล พยานแวดล้อม และคลิปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย พร้อมทำหนังสือเรียกผู้ถูกกล่าวหาให้เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.พนมดงรักษ์ โดยประสานผ่านกระทรวงการต่างประเทศ -313 -สำนักข่าวไทย

ครม.ไฟเขียว “วิทัย” นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – ครม.ไฟเขียว “วิทัย” นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ เดินหน้าผลักดันนโยบายการเงิน ควบคู่กับนโยบายการคลัง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแต่งตั้ง นายวิทัย รัตนากร ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจากครบกำหนด นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ครบวาระการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 30 กันยายน 2568 ให้มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป หลังจากพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายเศรษฐพุฒิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ 21 สิงหาคม 2563 หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักเลขาธิการ ครม.ให้ทำหนังสือถึง ปปง., ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ให้ชัดเจนมากขึ้น ตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมายกำหนด การประชุม ครม.วันนี้ กระทรวงการคลังจึงส่งเอกสารเพื่อบรรจุในวาระพิจารณา ครม. […]

17 นักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือถึง ครม. ขอผู้ว่าฯ ธปท.เป็นอิสระ

กรุงเทพฯ 22 ก.ค.- 17 นักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี-ครม. ระบุผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ ต้องเป็นอิสระ ไม่ถูกกดดันให้ลดดอกเบี้ย เพจเฟชบุ๊ก “เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง” โพสต์หนังสือเปิดผนึกถึงคณะรัฐมนตรี เรื่อง ตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เรียน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า กรณีการเสนอชื่อผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568 ขอแสดงความห่วงใยและเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ 1.เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยควรจะต้องเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว แม้จะเข้าใจได้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว รัฐบาลต้องการการเจริญเติบโตของประเทศในระยะสั้น ซึ่งประสบการณ์การของผู้ทำงานธนาคารของรัฐ อาจจะเคยชินในการสนองตอบต่อนโยบายของนักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศ อย่างไรก็ดี เนื่องจากประเทศชาติต้องการการเติบโตที่มีเสถียรภาพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจำเป็นต้องเป็นบุคคลที่สามารถประคับประคอง และลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการมุ่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้นของรัฐบาล 2.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องไม่ถูกกดดันเพื่อลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา ตามความต้องการของฝ่ายการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ เพราะจะทำให้นักการเมืองและคนบางกลุ่ม สามารถแสวงหาประโยชน์ในบางโอกาสจนร่ำรวย แต่ประเทศชาติเสียหาย 3.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเป็นอิสระจากการกดดันของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารและสถาบันการเงินของรัฐ แต่จะต้องกำกับดูแลสถาบันการเงินเพื่อประโยชน์ของประเทศระยะยาว 4.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องได้รับการยอมรับระหว่างประเทศ โดยเฉพาะองค์การการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนและสถาบันของต่างประเทศเกิดความมั่นใจที่จะทำธุรกิจและพันธสัญญาในระยะยาว 5.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเข้าใจการพัฒนาประเทศในระดับมหภาค […]