เกษตรฯ กำหนดพื้นที่ต้นแบบวิสาหกิจแปลงใหญ่ 10 แปลง

กรุงเทพฯ 9 เม.ย. – เกษตรฯ เดินหน้าวิสาหกิจแปลงใหญ่ กำหนดพื้นที่ รูปแบบการทำเกษตรกรรม และแนวทางการพัฒนา เร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมเร็วที่สุด เพื่อส่งต่อ ครม.ใหม่


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากปลัดกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นประธานคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการวิสาหกิจแปลงใหญ่ เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกร ซึ่งวันนี้ได้ประชุมกำหนดพื้นที่แปลงต้นแบบตามที่กรมส่งเสริมการเกษตรเสนอ 10 แปลง ได้แก่ ภาคเหนือเป็นแปลงสับปะรด อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง พื้นที่  1,016.75  ไร่ เกษตรกร 159 ราย รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่สับปะรดปลอดภัยบ้านเสด็จ ซึ่งจะพัฒนาด้วยการปรับเปลี่ยนสายพันธุ์จากสับปะรดโรงงานเป็นบริโภคผลสดแบบเกษตรปลอดภัยและส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่า

ภาคกลางเป็นแปลงโคนม อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท พื้นที่ 1,000 ไร่ เกษตรกร 63 ราย  เลี้ยงโคนมรายละ 10 ตัวและปลูกพืชอาหารสัตว์อย่างน้อยคนละ 3 ไร่ รวมตัวเป็นสหกรณ์โคนมไพรนกยูง ซึ่งจะพัฒนาโดยปรับโครงสร้างศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบให้สามารถรับน้ำนมดิบจากฟาร์มเกษตรกรได้ พัฒนาฟาร์มให้เข้าสู่มาตรฐานฟาร์ม และพัฒนาการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ให้เข้มแข็ง แปลงใหญ่อ้อยโรงงาน อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี พื้นที่ 1,498 ไร่ เกษตรกร 30 ราย รวมกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ใช้น้ำแจงงามพัฒนา 99 พัฒนาเพื่อเพิ่มผลผลิตอ้อย เพิ่มพื้นที่ปลูกอ้อยในเขตเพาะปลูกข้าวนาดอน จัดแปลงให้รองรับสำหรับใช้รถตัดอ้อยแทนแรงงานคนได้  ภาคตะวันออกเป็นแปลงมันสำปะหลัง ตำบลทุ่งพระยา อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา พื้นที่ 1,488 ไร่ เกษตรกร 53 ราย ซึ่งจะรวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนพัฒนาโดยการสร้างมูลค่าด้วยการทำมันเส้นสะอาดเพื่อส่งโรงงาน เพิ่มผลผลิตและยกระดับเปอร์เซ็นต์แป้งซี่งจะใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน และการใช้ระบบน้ำในการปลูกมันสำปะหลัง  


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นแปลงพืชอาหารสัตว์ไที่อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ พื้นที่ 1,043 ไร่ เกษตรกร 70 ราย รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนปลูกมันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หญ้าเลี้ยงสัตว์ ซึ่งพัฒนาด้านคุณภาพการผลิต ปรับพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และหญ้าเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น เพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปอาหารสัตว์สำหรับใช้ในกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์  แปลงเกษตรผสมผสาน ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ใช้พื้นที่ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดยจัดให้ผู้ไร้ที่ดินเข้าทำกินตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ทำการเกษตร 5 ไร่ และปลูกที่อยู่อาศัย 1 ไร่ เกษตรกร  85 ราย ตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรปลูกผัก ไม้ผล ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และเลี้ยงโคนม ซึ่งจะพัฒนาโดยทำการเกษตรผสมผสานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ยกระดับสินค้าเกษตรให้เป็นเกษตรปลอดภัย รวมถึงจัดทำฟาร์มเสตย์เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร 

ภาคใต้ ได้แก่ แปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน สหกรณ์นิคมพนม จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่ 22,702 ไร่ เกษตรกร 1,210 ราย ซึ่งจะส่งเสริมการทำเกษตรผสมผสานโดยการปลูกผักในพื้นที่ปาล์มน้ำมัน เพื่อลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว แปลงเกษตรผสมผสาน ตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่จัดให้ผู้ไร้ที่ดินทำกิน คทช.  972 ไร่  เกษตรกร  114 ราย รวมกลุ่มเป็นสหกรณ์การเกษตร-ไทรทอง จำกัด ปลูกปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน มะพร้าว โกโก้ ทุเรียน มังคุด ผัก พืชไร่ ซึ่งจะพัฒนาอาชีพรูปแบบเกษตรกรรมยั่งยืน สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า จัดทำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร แปลงยางพารา สหกรณ์กองทุนสวนยางหนองบัว จำกัด ตำบลหนองบัว อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง พื้นที่ 1,000 ไร่ เกษตรกร  370 ราย ซึ่งจะพัฒนารูปแบบการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ให้มีศักยภาพในการรวบรวมยางพารา จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ในการแปรรูปยาง รวมทั้งส่งเสริมให้สหกรณ์ส่งขายต่างประเทศเองได้ แปลงยางพาราสหกรณ์การเกษตร กรป.กลาง มะปรางมัน ปัตตานี จำกัด ตำบลช้างให้ตก อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี พื้นที่ 2,000 ไร่ เกษตรกร  556 ราย จะพัฒนาโดยลดการปลูกยางในพื้นที่ไม่เหมาะสม แล้วปลูกพืชแซมและพืชร่วมยาง เลี้ยงโคเนื้อ ผสมปุ๋ยใช้เอง เป็นต้น ให้เป็นต้นแบบของการปรับเปลี่ยนทำกิจกรรมทางการเกษตรเสริมเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น

“ที่ประชุมยังเพิ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าวอีก 2 แปลง โดยให้คณะทำงานไปศึกษาพื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งแปลงต้นแบบทั้ง 12 แปลงจะเริ่มดำเนินการต้นฤดูกาลผลิตใหม่เดือนพฤษภาคมนี้” นายกฤษฎา กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย