กรุงเทพฯ 27มี.ค.- พลังประชารัฐจัดรถแห่ ไปยังจุดสำคัญทั่วกรุงเทพฯ 7 จุด “อุตตม” นำทีมแกนนำพรรค – ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้ง30 เขตขอบคุณชาว กทม. ที่ให้การสนับสนุน ยืนยัน สานต่อทุกนโยบาย ทุกเจตนารมณ์ ทุกความหวัง ของประชาชน นำพาประเทศไปสู่ความสงบสุข ยุติความขัดแย้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.09 น. วันนี้ (27 มี.ค.) พรรคพลังประชารัฐจัดรถแห่ ตระเวนขอบคุณชาวกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ให้การสนับสนุน ในการเลือกตั้ง วันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา ใน 7 จุดสำคัญ นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ กทม. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือ มาดามเดียร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้สมัคร ส.ส.กทม.30 เขต ซึ่งผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคพลังประชารัฐ ได้รับเลือกตั้งถึง 14 เขต
ผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียง ขอบคุณประชาชนทุกคน ที่ได้ให้ความไว้วางใจสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส. และพรรคพลังประชารัฐ จนทำให้พรรคพลังประชารัฐมีคะแนนนิยมเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งทุกคนได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ทุกคนต้องการให้ประเทศมีความสงบ เพื่อประเทศเดินหน้าต่อไม่ถอยหลัง ไม่กลับไปทะเลาะกันอีก และวันนี้ พรรคพลังประชารัฐขออาสาเดินหน้าต่อทุกนโยบายที่ได้ให้สัญญาไว้
นอกจากนี้ ยังขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายต่อ วันนี้ พรรคพลังประชารัฐขออาสาเดินหน้าต่อทุกนโยบายที่ได้ให้สัญญาไว้ ทำได้จริง ทำทันที ให้เป็นจริง ไม่ขายฝัน พร้อมย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ เพื่อนำพาประเทศสู่ความสงบสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนแห่เริ่มตั้งขบวนจากที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ และจะเดินทางไปยัง 7จุด สำคัญทั่วกรุงเทพ จุดที่ 1 เข้าสู่เส้นประชาชื่น จุดที่ 2 เข้าสู่เส้นพระรามหก โรงพยาบาล รามาธิบดี จุดที่ 3 สะพานขาว ราชเทวี ถนนเพชรบุรี จุดที่ 4 เข้าสู่เขตปทุมวัน สยาม เอ็มบีเค จามจุรีสแควร์ จุดที่ 5 เข้าสู่ถนนสีลม สีลมทาวเวอร์ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี จุดที่ 6 เข้าสู่ถนนเจริญกรุง และจุดที่ 7 เข้าสู่เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์ และจะสิ้นสุดเส้นทางการเดินรถในเวลา 12.00 น. มีกองทัพสื่อติดตามมากกว่าปกติ หลังมีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะรวมเสียงจากพรรคการเมืองได้มากกว่า 250 เสียง ..- สำนักข่าวไทย