กทม. 16 ส.ค.-พปชร.รับไม่ได้ สื่อกำมะลอบิดเบือนข้อมูลใส่ร้ายประเทศไทย จี้รัฐบาลต้องรีบดำเนินคดีและห้ามเข้าประเทศไทยตามกฏหมาย
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า “จากกรณีที่มีการแชร์ภาพโดยมีการอ้างว่า นายไมเคิล อัลฟาโร (Michael Alfaro) เป็นนักข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองและความมั่นคง ประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ชายแดนที่จุดผ่านแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว (ตามคำเชิญของกัมพูชา) และมีถ้อยคำ หลายประการที่เป็นข้อความอันเป็นเท็จ และ มีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและก่อให้เกิดความ เสียหายแก่ประเทศไทย นั้น
“กรณีดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก และข้อความหลายข้อความเป็นข้อความอันเป็นเท็จซึ่งคนไทยส่วนใหญ่รับไม่ได้ การกระทำของนายไมเคิลฯ ดังกล่าวถือว่าเป็นการสมคบคิดกับบุคคลซึ่งกระทำการเพื่อประโยชน์ของรัฐต่างประเทศ ด้วยความประสงค์ที่จะก่อให้เกิดการดำเนินการรบต่อรัฐ หรือในทางอื่นที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐ หรือประเทศไทย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 120,128,129 และ มาตรา83 ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และกรณีดังกล่าวแม้ว่าการกระทำจะเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรก็ตาม แต่สามารถดำเนินคดีได้ในประเทศไทยโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 7 (1) ประมวลกฎหมายอาญา ที่กำหนดว่า การกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 107 ถึงมาตรา 129 ที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรนั้น ผู้กระทำจะต้องได้รับโทษในราชอาณาจักรด้วย“พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวย้ำว่า ”กฎหมายบอกไว้ชัดเจน ว่า ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงนอกราชอาณาจักร คือ การกระทำความผิดที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ แต่ยังคงอยู่ภายใต้กฎหมายไทยและ สามารถลงโทษในราชอาณาจักรได้ โดยมีอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน และเป็นผู้รับผิดชอบ
นอกจากนี้การกระทำของนายไมเคิล ยังเป็นความผิด ตามมาตรา 12(7) พระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ถือว่ามีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคมหรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ประเทศไทยสามารถประกาศ ห้ามเข้าประเทศหรือเป็นบุคคลต้องห้าม ได้อีกส่วนหนึ่ง
“รัฐบาลนิ่งเฉยไม่ได้ รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ต้องทำหนังสือประท้วงไปยังสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เพื่อทำการตรวจสอบว่า นายไมเคิลฯมีความเกี่ยวข้องใดใดกับหน่วยงานรัฐของสหรัฐอเมริกา และ เป็นนักข่าวและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองและความมั่นคง ประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯ จริงหรือไม่ และนำคำตอบอย่างเป็นทางการมาแจ้งให้หน่วยงานและประเทศต่างๆ ได้รับทราบ นอกจากนี้ ยังมีภาพการที่นายซอย สุภาพ นักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลกัมพูชา และ นายซุน จันทอล รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไปรับอัลฟาโรถึงสนามบินและที่ทำงานรองนายกฯ ซึ่งกรณีดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่า มีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลกัมพูชาจ้างอัลฟาโรมาเป็นเครื่องมือบิดเบือนด้วยข้อมูลเท็จโดยใช้การไลฟ์สดและโพสต์บนโซเชียลใส่ร้ายประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ขณะที่กอง IO ของกัมพูชานำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ซ้ำในเพจต่างชาติ เพื่อสร้างภาพว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายถูกกระทำ ทั้งที่ข้อเท็จจริงคือกัมพูชาเป็นผู้รุกราน ซึ่งกรณีนี้ รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ต้องรีบดำเนินการ”.-315.-สำนักข่าวไทย