รัฐสภา 14 ส.ค.-โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ขอบคุณประชาชนบริจาครั้วลวดหนามให้กองทัพภาคที่ 2 ชี้ฝ่ายการเมืองไม่เข้าใจ ความเร่งด่วนทางการทหาร เพราะแต่ละวินาที หมายถึงชีวิต
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวขอบคุณประชาชน ที่ร่วมกันบริจาครั้วลวดหนาม ให้กับกองทัพภาค 2 และสามารถรวบรวมเงินบริจาคและรั้วลวดหนามได้ในวันเดียว ซึ่งทางกองทัพภาค 2 ได้ย้ำความสำคัญของลวดหนามหีบเพลง ในการลดความเสี่ยงต่อชีวิต-ความปลอดภัยของกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน และประชาชน รวมทั้งการป้องกันอธิปไตยของชาติและความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดหาในเวลาจำกัดและในจำนวนมาก ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันลวดหนามฯ ดังกล่าว ในท้องถิ่นเริ่มหายาก ซึ่งนับแต่ ส.อ.ธีรพล เพียขันที เป็นเหยื่อกับระเบิดรายที่ 5 ในรอบไม่กี่วัน จึงมีความจำเป็นต้องใช้รั้วลวดหนามอย่างเร่งด่วน ทางกองทัพและทหารคงเห็นว่า การขอจากงบประมาณจากทางรัฐบาลอาจจะมีความล่าช้า อาจใช้เวลา 3-5 วัน หรือเป็นสัปดาห์ หรือ และหากใช้กระบวนการปกติกว่าจะได้งบประมาณมาก็ใช้เวลาเป็นเดือน กว่าจะใช้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบฯ ก็จะใช้เวลานานกว่า 1 เดือนหรือใช้เวลากว่านั้น
“ฝ่ายการเมืองไม่เข้าใจคำว่าความเร่งด่วน ทางการทหาร เพราะแต่ละวินาที หมายถึงชีวิตของทหารภายใต้บังคับบัญชา ซึ่งกรณีดังกล่าว รัฐบาลต้องให้ความสำคัญและเข้าใจกระบวนการปฏิบัติเพราะสามารถจัดงบประมาณลงไปให้กองทัพภาค 2 ก่อนได้เลย โดยไม่จำเป็นให้กองทัพภาค 2 ร้องขอขึ้นมาให้เสียเวลา ไม่ว่าจะเป็นงบฉุกเฉินหรืองบลับ ตามความจำเป็นของสถานการณ์ เพราะบางกรณีการใช้กระบวนการงบประมาณตามวิธีการปกติจะมีความล่าช้าและไม่สามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ทันเวลา“พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า รัฐบาลนี้ทำอะไรที่เร่งด่วนบ้าง นับตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ที่มีการปะทะกันครั้งแรก เราสูญเสียพี่น้องประชาชนและทหารในวันแรก จนถึงวันนี้รวมเวลาแล้ว นานกว่า 20 วัน เท่าที่ทราบ รัฐบาลมีแค่คำให้สัมภาษณ์หลังจากที่ฝ่ายค้านและสังคมกดดัน ว่าจะมีการดำเนินคดีนายฮุนเซนฯ ตามกฏหมายไทย ในประเทศตามกฎหมายไทยนั้น ยังไม่มีปรากฎหลักฐานการร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายฮุนเซนฯแต่อย่างใด
”เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องยาก สำคัญว่า จะทำหรือไม่ทำ หรือ ทำเป็นหรือทำไม่เป็นเท่านั้น เรื่องนี้ทางพรรคพลังประชารัฐ ได้แนะนำวิธีและข้อกฏหมายไว้ให้หมดแล้ว สามารถเอาไปดำเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์และขวัญกำลังใจของพี่น้องประชาชนชาวไทย“ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า การสั่งการให้ใช้กำลังทหารและมีผลต่อพลเรือนไทยของนายฮุนเซนฯที่ผ่านมาเป็นความผิด ฐาน สนับสนุน หรือจ้าง วาน ใช้ หรือร่วมกันฆ่าผู้อื่น และความผิดความมั่นคงภายนอกอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา(ป.อาญา) มาตรา 83, 84, 86, 288 และมาตรา 289 และยังเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับความมั่นคงนอกราชอาณาจักร ตาม ป.อาญา มาตรา 119, 120, 127, 128 และ 129อย่างชัดเจน อัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เมื่อสอบปากคำญาติผู้ตายผู้เสียหาย สอบพยานเกี่ยวข้อง คดีนี้ อัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินกว่าสามปี สามารถขอศาลอาญาหรือศาลจังหวัดแล้วแต่กรณี ออกหมายจับได้เลย โดยไม่ต้องออกหมายเรียกก่อน ซึ่งเป็นไปตาม ประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อาญา )มาตรา 66
“เรื่องนี้เป็นเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน แม้จะมีการชดเชยบางส่วนแล้ว แต่ก็ไม่เทียบเท่ากับความสูญเสียที่เกิดขึ้น รัฐบาลต้องใส่ใจให้มากกว่านี้ อย่าปล่อยล่าช้าเหมือนซ้ำรอย 4 ลูกเรือประมง ที่ถูกทางการพม่าจับ ไปควบคุมนานกว่า 120วัน กว่าจะได้รับการปล่อยตัวกลับมา ในที่สุด พี่น้องประชาชน จะเห็นได้เองว่าในสถานการณ์เช่นนี้เราต้องการมืออาชีพอย่างแท้จริงที่มาแก้ปัญหาของประเทศชาติ ไม่ใช่เอามือใหม่มาเอาประเทศเป็นหนูทดลอง” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย