กรุงเทพฯ 25 มี.ค. – ประธาน ส.อ.ท.เชื่อพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล บรรยากาศทางเศรษฐกิจภายในประเทศจะดีขึ้น ต่างประเทศยอมรับมากขึ้น ห่วงการยอมรับผลการเลือกตั้ง แนะผู้ได้คะแนนน้อยทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มองทิศทางเศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้งและได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ว่า มั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างชัดเจน เพราะนอกจากคะแนนเสียงที่ได้มามากแล้ว ยังมีสมาชิกวุฒิสภาที่สนับสนุน จึงเชื่อว่าจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ หากตั้งรัฐบาลแล้วก็จะสานต่อนโยบายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ได้วางไว้ ซึ่งจะช่วยให้บรรยากาศทางเศรษฐกิจในประเทศ น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าเดิม ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ ส่งผลให้การเจรจาการค้ากับต่างประเทศก็จะง่ายขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมีความจำเป็นต้องขยายตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดสหภาพยุโรป (อียู) ที่ผ่านมาติดขัดเรื่องต่าง ๆ มาโดยตลอด
สำหรับทิศทางเศรษฐกิจไทยในภาพรวมภายหลังการเลือกตั้งก็จะมีทิศทางที่ดีขึ้นด้วย และการที่ประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว นักลงทุนทั้งในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศจะยอมรับมากขึ้น ด้านโครงการลงทุนขนาดใหญ่และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซีก็จะได้รับการสานต่อ โดยเห็นว่า อีอีซี เป็นโครงการที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยมั่นคงยั่งยืนมากขึ้นควรสานต่อไป
ด้านจีดีพีประเทศและการส่งออกปีนี้ เชื่อว่าจะไม่ดีขึ้นแน่นอน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกไม่ดี สงครามการค้ายังมีอยู่และเป็นอุปสรรคในการส่งออก ซึ่งคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จะประเมินตัวเลขเศรษฐกิจไทยใหม่อีกครั้งสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม คนไทยส่วนใหญ่อยู่ในภาคการเกษตรมากกว่าภาคส่งออก จึงเชื่อว่าบรรยากาศทางเศรษฐกิจภายในประเทศน่าจะดีขึ้น ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลและทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน คือ หาแนวทางเพิ่มรายได้ประชากรต่อหัวต่อปีมากขึ้น ประชาชนจะมีความสุขมากขึ้น และทำให้มีชนชั้นกลางมากขึ้น
ส่วนสิ่งที่อยากได้จากรัฐบาล คือ การทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนเข้มข้นยิ่งขึ้นผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) ซึ่ง กกร.จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการภาคเอกชนด้วยกันเพื่อจัดทำเอกสารสรุปสิ่งที่รัฐบาลควรจะดำเนินการและควรสนับสนุนอะไรบ้าง วันนี้มีหลายเวทีแล้วแต่ก็ต้องการมากขึ้น โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมเวทีประชุมกับภาคเอกชนด้วย และสิ่งที่น่าห่วง คือ การยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งเห็นว่าหากพรรคใดสามารถรวบรวมเสียงและจัดตั้งรัฐบาลได้ก็น่าจะให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนผู้ที่มีเสียงข้างน้อยก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ดีที่สุด เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบให้กับประชาชน “หากไม่เกิดปัญหาไม่ยอมรับเกิดขึ้น จนถึงขึ้นมีการออกมาทำลายทรัพย์สิน หรือออกมาประท้วง ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง” นายสุพันธุ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย