“สนธิรัตน์” นำทัพอ้อนขอคะแนนชาวสุรินทร์

สุรินทร์ 1 มี.ค.- “สนธิรัตน์” นำทัพอ้อนขอคะแนนชาวสุรินทร์ กวาด 7 เก้าอี้ ปลดนักการเมืองของเก่า พร้อมนำความเจริญ สร้างความร่ำรวยสู่เมืองช้าง “สุริยะ” เผยเลือก ส.ส.ของพรรคทั้งจังหวัด ขับเคลื่อนนโยบายสะดวก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 มี.ค.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน  นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง นายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำภาคอีสาน  น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ  ขึ้นปราศรัยหาเสียงช่วยนายอนันต์ ปาลีคุปต์ ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 8 เขต 1 จ.สุรินทร์ บริเวณลานบริษัทไอคิว สี่แยกสลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่เราได้พบกัน เพราะในชีวิตของคนหนึ่งคน ที่ไม่เคยรู้จักกันแต่มาพบกัน ตนถือเป็นบุญของชีวิต สำหรับ จ.สุรินทร์ มีพร้อมทุกอย่าง


“สุรินทร์มีข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุด แต่เดี๋ยวนี้โดนแย่ง สุรินทร์ คือ เมืองช้าง ไม่มีที่ไหนคล้องช้างเก่งเท่า สุรินทร์ ผ้าไหมสุรินทร์ เส้นสวย ทอมาไม่มีใครสู้ได้ การค้าชายแดนบริเวณด่านช่องจอมที่ติดกับชายแดนกัมพูชา เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆแต่ จังหวัดอื่นๆกลับรวยเอาๆ ในขณะที่ จ.สุรินทร์ ไม่รวยเหมือนอย่างเขา คงเป็นเพราะ จ.สุรินทร์ อาจยังไม่มี ส.ส.ที่ดีๆ มีแต่ ส.ส.ที่กระจัดกระจาย แต่ตนไม่ได้ว่า ส.ส.เก่า เพราะเขาก็ทำมาเต็มที่แล้ว  สุรินทร์มี ส.ส.7 คน แต่ยังไม่สามารถทำให้สุรินทร์ดีขึ้นได้ ดังนั้นวันนี้หากคนสุรินทร์ เลือกพรรคเก่าก็จะได้ของเก่า จ.สุรินทร์ ก็จะเหมือนเก่า ดังนั้นขอให้ลองเปลี่ยนมาเลือกคนของพรรคพลังประชารัฐ อย่าง นายอนันต์ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า เราไม่ได้มาปากหวาน แต่อยากให้ดูนโยบายของพรรค ว่า วันนี้มีพรรคการเมืองไหนที่นโยบายเข้าไปสู่หัวใจประชาชนเหมือนกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นจากคนของพรรคพลังประชารัฐ

“บัตรสวัสดิการเแห่งรัฐ ถือเป็นหัวใจหลักของพรรค อย่าให้ใครเอาไป วันนี้พรรคจะทำให้ดีขึ้น เพราะยังมีพี่น้องประชาชนที่สมัครแล้ว หรือมีคุณสมับติเข้าเกณฑ์ แต่ยังไม่ได้อีกจำนวนมาก ดังนั้นหากพรรคพลังประชารัฐได้เข้าไปเป็นรัฐบาล จะตรวจสอบให้ เพราะบัตรนี้ คือสิ่งที่พรรคจะทำให้ดีกว่าเดิม ทำให้ประชาชนมีความสุข พรรคไม่ได้มีแค่นโยบายกินได้ แต่มีออกมาเรื่อย ๆ อย่างนโยบายมารดาประชารัฐที่ให้ความสำคัญตั้งแต่ท้อง คือท้องปั๊บ รับ 3,000 บาท จำนวน 9 เดือน รวม 27,000 บาท จากนั้นเมื่อคลอดก็จะได้รับอีก 10,000 บาท รวมเป็น 37,000 บาท ยังไม่พอ เพราะมีค่าเลี้ยงดูให้อีกเดือนละ 2,000 อีก 6 ปี รวมค่าดูแลทั้งสิ้น  181,000 บาท ขอยืนยันพรรคไม่ได้มาแจกเงิน เราต้องกล้าลงทุน ต้องดูแลคนไทยด้วยกัน พลังประชารัฐมาแบบมีความหวัง หวังในการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ถ้า จ.สุรินทร์ รักพลังประชารัฐ ก็ต้องเลือก ส.ส.ของพรรค ทั้ง 7 เขต เพราะผมตั้งใจว่า ถ้าพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล ผมเป็นรัฐมนตรีจะมารับใช้คนสุรินทร์ อาสามาเป็นคนสุรินทร์ เพื่อพาพี่น้องสุรินทร์สู้จังหวัดใกล้เคียงให้ได้ ดังนั้น 24 มีนาคม เลือกพลังประชารัฐยกจังหวัด” นายสนธิรัตน์ กล่าว


ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า ขอให้คนสุรินทร์เลือกพรรคพลังประชารัฐทั้ง 7 เขต ในการเข้าไปสานต่อและผลักดันนโยบายของพรรคเพื่อประชาชน เพราะหาก ได้ ส.ส.เข้าไปน้อย นโยบายที่พรรคนำเสนอจะได้รับการผลักดันอย่างลำบาก เพราะที่ผ่านมา ส.ส.สุรินทร์ยังไม่มีความเป็นปึกแผ่น ทั้งที่เป็นจังหวัดใหญ่ ดังนั้นหากได้รับเลือกทั้งจังหวัด จ.สุรินทร์จะได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งเกษตรและชาวนาและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนแน่นอน

ขณะที่นายอนุชา กล่าวว่า วันนี้เราต้องรักประเทศชาติ รักประชาชน ต้องไม่ยอมให้คนไทยออกมาเดินบนถนนเพื่อเข่นฆ่า หรือ ขัดแย้งกันกันอีก เพราะขัดแย้งมานานแล้วกว่า 10 ปี แต่ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศสงบ แม้ปัญหาเศรษฐกิจยังไม่ดี เพราะเป็นผลมาจาความขัดแย้ง แต่รัฐบาลชุดนี้พยายามแก้ปัญหาให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 

“ไม่ว่าจะเป็นการออกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ตั้งใจให้พี่น้องที่ตกทุกข์ได้ยากมีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต แม้ไม่ได้ทำให้ร่ำรวย แต่ก็ช่วยให้ประชาชนมีเงินใช้จ่าย ขณะเดียวกันเมื่อประเทศชาติสงบ เราก็พบแสงสว่าง เราจึงมารวมตัวกันอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ เพื่อต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง มีนโยบายที่ดีเพื่อตอบสนองคนไทย คนยากคนจน ชาวไร่ ชาวนา ที่ถูกทอดถิ้ง โดยเฉพาะชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ แต่ปัจจุบันชาวนามีแต่หนี้  ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐตั้งใจ ในการจะสร้างประวัติศาสตร์ ทุ่มเททำเพื่อให้คนเหล่านี้ได้ลืมตาอ้าปาก หายจากความยากจนให้สำเร็จให้ได้ พรรคพูดจริง ทำจริง และประชาชนได้ประโยชน์อย่างแน่นอน  ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมสามารถลง ส.ส.ได้อีกครั้ง หลังถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ดังนั้นจึงขอประกาศว่า หากผมช่วยเกษตรกร คนยากคนจนให้พ้นจากความยากจน หากพรรคเป็นรัฐบาล ดูแลบริหารบ้านเมืองครบ 4 ปี แล้วความเป็นอยู่ของประชาชนยังไม่ดีขึ้น ก็จะขอเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย