รวบหญิงวัย 44 สุดแสบ! อ้างเป็นหมอนวด สบโอกาสฉกทรัพย์หลบหนี

กทม. 28 ก.พ.-รวบหญิงวัย 44 ปี สุดแสบ ตระเวนหาเหยื่อ อ้างตัวเป็นหมอนวด สบโอกาสฉกทรัพย์หลบหนี สารภาพก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งหลายพื้นที่ใน กทม. พบประวัติเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่


วานนี้ (27 ก.พ.) เมื่อเวลา 22.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลดินแดง พ.ต.อ.มนชัย ศรีประเสริฐ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ต่อเกียรติ พรหมบุตร ผกก.สน.ดินแดง พ.ต.ท.พีรรัฐ โยมา รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.นักสิทธิ์ คณะนัย และ ร.ต.ท.พันศักดิ์ ไพรศรีคำ รอง สว.สส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม น.ส.ปานั่นทรัพย์สิน อายุ 44 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ หมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีขาว 1 ใบ และเสื้อที่ใส่ในการก่อเหตุ 3 ตัว โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยรางน้ำ

พ.ต.ท.พีรรัฐ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากประมาณช่วงเดือนกันยายน 2561-กุมภาพันธ์ 2562 มีผู้เสียหายจำนวนหลายรายเดินทางเข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายเป็นหญิง อายุประมาณ 40-50 ปี รูปร่างท้วม สูงประมาณ 150 ซม. ผมสั้น ผิวขาว มาตีสนิท ก่อนจะเสนอตัวนวดจับเส้น เมื่อเหยื่อหลงเชื่อให้นวด สบโอกาสจะฉกทรัพย์หลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงออกหาข่าวจนทราบว่าผู้ก่อเหตุจะขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามชุมชน ร้านค้า และสถานเสริมความงาม โดยจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้สูงอายุทั้งชายและหญิง เมื่อคนร้ายได้เหยื่อเป้าหมายจะเข้าไปพบทำทีชวนพูดคุยอวดสรรพคุณว่าตนเองสามารถนวดผ่อนคลายและจับเส้นได้ โดยคิดราคาถูกกว่าร้านนวดทั่วไป เมื่อเหยื่อหลงเชื่อจะหลอกล่อให้เหยื่อพาเข้าไปในบ้าน ในร้านหรือที่ลับตาคน จากนั้นหลอกให้เหยื่อถอดเครื่องประดับและทรัพย์สินที่มีค่าวางไว้ข้างตัว โดยออกอุบายว่าเพื่อให้สะดวกแก่การนวด เมื่อสบโอกาสจะแอบลักเอาทรัพย์สินของเหยื่อเก็บไว้ จากนั้นออกอุบายขอออกไปเอาของที่รถ จากนั้นจะรีบหลบหนีไป


ด้านนางไพรศรี วงษ์รัตน์ อายุ 55 ปี ตัวแทนผู้เสียหายกว่า 10 คน ที่มารอชี้ตัวคนร้าย เล่าว่า ตนเองเปิดร้านขายของชำอยู่ย่านใต้ทางด่วนดินแดงมานานหลายปี จนเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คนร้ายซึ่งมีลักษณะเป็นทอมบอย ประกอบอาชีพหมอนวดนอกสถานที่ ได้ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่ร้านตนเอง แล้วถามว่าจะนวดหรือไม่ คิดชั่วโมงละ 100 บาท ตนเป็นคนชอบนวดอยู่แล้วจึงตอบตกลง จากนั้นได้พาเข้าไปหลังร้านเพื่อทำการนวด ขณะที่นวดจะให้ถอดทรัพย์สินออก อ้างว่าจะได้สะดวกในการนวดตามจุดต่างๆ เมื่อนวดไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง คนร้ายได้ขอตัวออกไปข้างนอก เพื่อไปนวดอีกเจ้าที่อยู่ใกล้ๆ เดี๋ยวจะกลับมานวดให้ใหม่ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่กลับมา จึงเกิดความสงสัย ลองตรวจดูทรัพย์สินในกระเป๋า ปรากฏว่าแหวนทองและเงินสดที่เก็บไว้ในกระเป๋าหายไปทั้งหมด ตนจึงตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบพฤติกรรมคนร้ายกำลังล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์สินที่ตนวางไว้ไป จึงเข้าแจ้งความ พร้อมนำคลิปมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

พ.ต.อ.มนชัย กล่าวว่า ฝากพี่น้องประชาชน หากมีบุคคลที่ตนเองไม่รู้จักมาทำทีตีสนิท โดยออกอุบายต่างๆ ไม่ว่าจะมานวด ขอดูลายมือ โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่อยู่คนเดียว อย่าหลงเชื่อ เพราะอาจตกเป็นเหยื่อได้ และฝากถึงผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อในลักษณะดังกล่าวให้มาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ สน.ดินแดง

รายงานข่าวระบุว่า จากการตรวจสอบประวัติ น.ส.ปานั่น พบว่าเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลังพ้นโทษช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2561 ก็กลับมาตระเวนก่อเหตุอีกครั้ง เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาลักทรัพย์ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย