รวบคู่หูโจรแสบ ตระเวนทุบกระจกรถฉกทรัพย์กลางกรุง

กทม. 27 พ.ค. – สืบนครบาล รวบคู่หูโจรแสบ ก่อเหตุเหิมเกริม ตระเวนทุบกระจกรถฉกทรัพย์กลางกรุง สารภาพนำเงินซื้อยาเสพติด พบประวัติก่อคดีเพียบ


ตำรวจสืบนครบาลจับกุมตัวนายณธกร หรือต้น อายุ 40 ปี และนายวชรกร หรือเก่ง อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ฯ และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสาร, ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม” โดยจับกุมนายณธกร ได้ที่หน้าอู่ซ่อมรถ ซอยเทพลีลา 12 เขตวังทองหลาง พร้อมของกลาง 5 รายการ ได้แก่ แท่งเหล็กปลายสว่าน 2 แท่ง (ใช้สำหรับงัด/ทุบกระจกรถยนต์), โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone รุ่น 12 Pro Max 1 เครื่อง, อาวุธปืนแบลงค์กันพร้อมซองกระสุน 1 กระบอก และรถยนต์ Nissan รุ่น Fairlady 1 คัน ซึ่งเป็นรถผิดกฎหมาย ส่วนนายวชรกร จับกุมได้ที่อพาร์ตเมนต์ในซอยแจ่มจันทร์ เขตบึงกุ่ม โดยตรวจค้นพบยาเสพติดได้ 3 รายการ ได้แก่ ไอซ์ 6 ถุง น้ำหนักรวม 5.79 กรัม, ยาอี 0.55 กรัม และเคตามีน 0.85 กรัม

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา ผู้เสียหายขับขี่รถยนต์ป้ายแดง มาจอดที่อาคารจอดรถของโรงแรมแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 23 จากนั้นเข้าไปสัมมนาภายในโรงแรมฯ จนกระทั่งช่วงเย็นกลับมาที่รถ ก็พบว่ากระจกรถประตูหลังด้านซ้ายถูกทุบจนแตกละเอียด และพบว่ากระเป๋าเป้สีดำ กระเป๋าคาดเอวสีน้ำเงิน และกระเป๋าสะพายที่วางอยู่เบาะหลัง หายไป โดยภายในกระเป๋าทั้งสามใบ มีทรัพย์สินคือ บัตรเครดิตหลายธนาคาร, เงินสดประมาณ 5,000 บาท หูฟังแอร์พอดโปร 5 อัน ราคา 6,990 บาท, สมุดบัญชีธนาคารหลายแห่ง บัตรประชาชน และเอกสารส่วนตัวอื่นๆ


ต่อมาผู้เสียหายได้รับการแจ้งเตือนผ่านทางโทรศัพท์มือถือ แจ้งว่ามีการใช้บัตรเครดิตหลายครั้ง ดังนี้ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2567 เวลา 15.13 น. มีการใช้บัตรเครดิต ไปใช้ที่ภายในห้างสรรพสินค้า แยก ลาดพร้าว-วังหิน แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จำนวน 498 บาท เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2567 เวลา 15.21 จำนวน 31,500 บาท และ เวลา 15.22 น. จำนวน 37,500 บาท ที่ร้านค้า สาขาวังหิน ถนนลาดพร้าววังหิน แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นร้านขายปลีกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์, เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2567ฃ เวลา 16.27 น. จำนวน 97,800 บาท ที่ร้านขายโทรศัพท์ ภายในห้างสรรพสินค้า แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป

จากการซักปากคำ นายณธกร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าได้ร่วมกับพวก คือนายวชรกร ก่อเหตุจริง ซึ่งตนเองทำหน้าที่ ตัวซ้อนรถและทุบกระจก นายวชรกรทำหน้าที่ คนขับขี่รถ โดยหลังก่อเหตุ ตนได้นำบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปรูดซื้อโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง เพื่อนำไปขายต่อ เงินที่ได้จะนำไปซื้อยาเสพติดเพื่อเสพ ที่เลือกทุบรถ เพราะว่าสถานที่ดังกล่าวปลอดคน และมองเห็นสิ่งของมีค่าในรถได้ชัด ส่วนนายวชรกร ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าว แต่ให้การว่ารู้จักนายณธกร หรือต้น เนื่องจากเป็นเพื่อนกินเที่ยวด้วยกัน และรับว่ายาเสพติดที่ตรวจพบ เป็นของตนที่มีไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายจริง

ทั้งนี้จากการตรวจสอบในฐานระบบข้อมูล พบประวัติดังนี้


  • ตรวจสอบประวัติของ นายณธกร หรือต้น ดังนี้
  1. ตัวการมี อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต (ครอบครองปืนไม่มีทะเบียน),ตัวการพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชน (สน.โคกคราม)
  2. ร่วมกันลักทรัพย์ (สน.คันนายาว)
  3. ร่วมกันลักทรัพย์ (สน.คันนายาว)
  • ตรวจสอบประวัติของ นายวชกร หรือเก่ง ดังนี้
  1. มีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (นอกเหนือจากแอลเอสดี หรือเมตแอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 3 กรัมขึ้นไป ( สภ.แก่งคอย จังหวัดสระบุรี )

จากนั้นได้ตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนและห่วงใยประชาชน ปัญหาการถูกทุบกระจกรถขโมยทรัพย์สินเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระบาดแพร่สะพัดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สร้างความเดือดร้อนทั้งต่อทรัพย์สินและการเสียเวลา ฉะนั้นฝากเตือนว่าควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของโจร ไม่จอดรถในที่เปลี่ยว ที่ไม่มีผู้คนผ่านไปมาหรือตามตรอกซอกซอยลึก เลี่ยงการจอดรถริมถนนยามค่ำคืน แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องจอดริมถนน ควรเลือกบริเวณที่มีแสงสว่างมากที่สุดและมีผู้คนสัญจรไปมา ไม่ทิ้งของมีค่าไว้ในรถ ถ้าคุณไม่สามารถเลือกที่จอดได้ และต้องรถในที่เปลี่ยวและมืด ไม่ควรทิ้งของมีค่าไว้ในรถ ทั้งคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป กล้องถ่ายรูป กระเป๋าราคาแพง และอื่นๆ เพราะจะล่อตาล่อใจโจรที่ตระเวนออกล่าเหยื่อ ทางที่ดีควรหยิบของมีค่าติดมือลงจากรถไปด้วย ติดสัญญาณกันขโมย ถึงแม้สัญญาณอาจจะไม่สามารถป้องกันการถูกลักทรัพย์ได้เต็ม 100% แต่ก็ยังช่วยชะลอการก่อเหตุหรืออาจทำให้โจรเตลิดหนีไปได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

จับตานายกฯ นัดคุยหัวหน้าพรรคร่วม ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – จับตานายกฯ เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน คาดจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม ความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน ภายหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 8 ตำแหน่ง คาดว่าจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม โดยเมื่อเวลา 12.26 น. รถยนต์ของนายกรัฐมนตรีได้เลี้ยวเข้าโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ.-316-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” สั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ไทยปิดด่านช่องสายตะกู

22 มิ.ย.- “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา ออกคำสั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ทางการไทยปิดด่าน “ช่องสายตะกู” เมื่อเวลา 07.00 น. “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์หนังสือคำสั่ง โดยระบุว่า ให้ปิดด่านบ้านจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จนกว่าไทยจะเปิดด่านช่องสายตะกู พร้อมระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ได้รับแจ้งจากกองทัพภาคที่ 2 ของไทย ว่า จะมีการปิดด่านชายแดนช่องสายตะกูอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชา ยังได้อนุมัติให้ปิดด่านช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และจะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ของไทย รับทราบ สำหรับคำสั่งปิด 2 ด่านดังกล่าว เป็นจุดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด่านช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ -สำนักข่าวไทย