“ข้าวหอมมะลิ” ราคาสูงขึ้น

กทม. 19 ก.พ.- พ.ร.บ.ข้าว ผ่านหรือไม่รอลุ้นวันพรุ่งนี้…แต่ที่ไม่ต้องรอ คือ คนซื้อข้าวหอมมะลิ มีข้อมูลชัด ราคาเพิ่มขึ้นแน่


วันพรุ่งนี้ หลายคนจับตา พ.ร.บ.ข้าว จะผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.หรือไม่ โดยยังมีหลากหลายความเห็นทั้งเห็นด้วยและคัดค้าน ซึ่งก็ยังต้องผลลัพธ์ที่จะออกมาจริงหาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ ผ่านความเห็นชอบออกมาประกาศใช้จริง แต่ที่ไม่ต้องรอและมีผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคไปแล้ว เพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยที่บางคนรวมทั้งคนที่วิจารณ์เรื่องของ พ.ร.บ.ข้าวและต้องซื้อข้าวกินทุกวัน อาจยังไม่รู้ตัวก็คือ ราคาข้าว โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่ขยับขึ้นมาได้หลายเดือนแล้ว 


มีข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรมาเปรียบเทียบให้ดูราคาข้าวเปลือกหอมมะลิช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จนถึงราคาปีล่าสุด ว่า ราคาขยับขึ้นมามากน้อยแค่ไหน โดยปี 2559 ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเฉลี่ยทั้งปีประมาณตันละ 8,700 บาทเศษ และขยับเพิ่มขึ้นมาเป็นประมาณตันละ 11,400 บาท ในปี 2560 พอมาถึงปี 2561 จนถึงต้นปี 2562 ราคาข้าวหอมมะลิกระโดดขึ้นมาอยู่ที่ 15,000 บาท ดูเหมือนว่า ราคาข้าวหอมมะลิแพง ชาวนาจะได้ประโยชน์ จะมีรายได้มากขึ้น แต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่ เพราะเมื่อไปดูผลผลิตข้าวหอมมะลิในปีนี้ พบว่า ลดลงไปนับล้านตัน 

มีข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงเกษตรฯ ระบุว่า พื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิปี 61 อยู่ที่เกือบ 23 ล้านไร่เพิ่มขึ้นจากปี 60 เล็กน้อย แต่ปรากฏว่า ผลผลิตออกมาน้อยกว่าปี 60 ไปนับล้านตันเศษ โดยปี 61 มีผลผลิตประมาณ 6.6 ล้านตันลดลงจากปี 60 ที่ได้ประมาณ 7.7 ล้านตัน


ส่วนข้าวอื่นๆ ผลผลิตที่ได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วยซ้ำสาเหตุที่ผลผลิตลดลง เพราะปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงในช่วงข้าวกำลังต้องการน้ำ ทำให้ต้นข้าวจำนวนมากยืนตันตาย โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานตอนกลางและตอนล่าง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิแหล่งใหญ่ของประเทศ

สำหรับราคาข้าวหอมมะลิล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่เป็นข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ข้าวเปลือกหอมมะลิ เฉลี่ยตันละ 15,592 บาท เทียบกับช่วงเวลาใกล้เคียงกันของปีที่แล้ว ราคาอยู่ที่ประมาณ 14,570 บาทต่อตัน ก็จะพบว่า ราคาเพิ่มขึ้นให้เห็นชัดเจน ขณะที่ข้าวหอมมะลิที่เป็นข้าวสารในกรุงเทพฯ ราคาขายส่งเฉลี่ยตันละ 34,050 บาท และราคาส่งออกเฉลี่ยตันละ 1,175 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 36,500 บาทต่อตัน

มาดูความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องกันบ้างอย่างนายสมเกียรติ มรรคยาธร เลขาธิการสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย บอกว่า ราคาข้าวที่แพงขึ้น น่าจะเป็นเรื่องของการหมดโปรโมชั่นในบางยี่ห้อและปรับขึ้นไป ซึ่งราคาข้าวในตลาดยังเป็นปกติ ส่วนข้าวบรรจุถุงที่ขายตามห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ที่ราคาลดกว่าหน้าถุงส่วนใหญ่จะเป็นการจัดโปรโมชั่นลดราคาร่วมกับทางห้างสรรพสินค้า เพราะข้าวถุงมีการแข่งขันกันสูง และเมื่อหมดเวลาก็จะปรับราคาขึ้น แต่เป็นการปรับขึ้นในบางยี่ห้อที่หมดโปรโมชั่นเท่านั้นและปรับขึ้นไม่มากนัก เฉลี่ยจากประมาณ 240 บาทต่อถุงเป็นประมาณ 250 บาทต่อถุง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 

มาดูข้อมูลของกรมการค้าภายใน ในฐานะที่กำกับดูแลราคาสินค้าต่างๆ ระบุว่า แม้ข้าวสารจะไม่ใช่เป็นสินค้าควบคุมแต่เป็นกลุ่มสินค้าที่มีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยข้าวหอมมะลิบางยี่ห้อปรับราคาขึ้นไป เนื่องจากเป็นการปรับตามต้นทุนราคาข้าวเปลือกที่มีราคาสูงขึ้น ซึ่งตามปกติ ผู้ผลิตข้าวสารบรรจุถุงก่อนที่จะนำไปขายผ่านห้างสรรพสินค้าจะแจ้งราคาให้กรมการค้าภายในได้ทราบ เช่น ข้าวหอมมะลิบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัม ปีที่ผ่านมาจะเฉลี่ยอยู่ที่ 148-255 บาท แต่ขณะนี้ ยอมรับว่า จากต้นทุนข้าวเปลือกที่แพงขึ้น ทำให้ราคาขายข้าวหอมมะลิบรรจุถุง 5 กิโลกรัมที่แจ้งกับกรมการค้าภายใน ราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 169-285 บาท โดยขยับเพิ่มถุงละ 20-30 บาท แต่ก็ระบุว่า ด้วยระบบการค้าเสรีและการแข่งขัน หากรายใดปรับราคาสูงไปมากทางผู้บริโภคจะหันไปซื้อข้าวยี่ห้ออื่นแทนซึ่งถือเป็นกลไกลตลาด แต่ทางกรมการค้าภายในมีทีมตรวจสอบราคาสินค้าทุกสัปดาห์อยู่แล้ว หากเห็นว่าไม่เกิดความเป็นธรรมหรือเอาเปรียบผู้บริโภคจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ราคาข้าวแพงบวกกับเงินบาทแข็งค่าลามไปถึงข้าวที่ส่งออกไปด้วย นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ บอกว่า ตัวเลขการส่งออกข้าวตามข้อมูลใบอนุญาตส่งออกข้าว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 1.2 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่า 659 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุเพราะประเทศผู้นำเข้าข้าวไทย เช่น จีน อินโดเนียเซีย ฟิลิปปินส์ ที่มีสตอกข้าวในประเทศค่อนข้างมาก ยังไม่มีนโยบายนำเข้าข้าว รวมถึงการแข็งค่าเงินบาทอาจทำให้ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งอยู่บ้าง แต่กรมฯได้ประเมินภาพรวมการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ เบื้องต้นตัวเลขการส่งออกข้าวน่าจะใกล้เคียงกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยที่คาดการณ์ไว้ปริมาณน่าจะอยู่ที่ 9 ล้านถึง 9.5 ล้านตัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย

“หลวงพ่ออลงกต” ลาออกเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุแล้ว

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. พระธรรมวชิรสุนทร เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ได้มีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เรื่อง ให้พระสังฆาธิการลาออกจากตำแหน่ง ด้วย พระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต ติกฺขปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ นั้น อาศัยอำนาจตามความในข้อ 37 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2551) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่2) พ.ศ.2535 จึงอนุญาตให้พระราชวิสุทธิประชานาถ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 19 ส.ค.2568.-สำนักข่าวไทย

ทอ.โชว์ความพร้อมของเครื่องบินโจมตี แอลฟาเจ็ต

กทม. 19 ส.ค.-ทอ.โชว์ความพร้อมของเครื่องบินโจมตี แอลฟาเจ็ต (Alpha Jet TH) หรือที่รู้จักกันในนาม “Hunter” “นักล่า ผู้พิฆาตไพรี” พร้อมเสิร์ฟไข่เบอร์ศูนย์ให้กับผู้รุกรานประเทศไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจกองทัพอากาศไทย ได้โพสต์ข้อความพร้อมปฏิบัติการของเครื่องบินโจมตีแอลฟาเจ็ต (Alpha Jet TH) ฝูงบิน 231 กองบิน 23 ระบุว่า พร้อมปฏิบัติการด้วยจิตใจที่ห้าวหาญของนักรบทางอากาศ และศักยภาพของเครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 (Alpha Jet TH) ที่ได้รับการปรับปรุงขีดความ ให้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยสามารถใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายภาคพื้นได้อย่างแม่นยำ เพื่อดำรงให้กองทัพอากาศไทย มีความพร้อมในการรับมือต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคง ในการพิทักษ์รักษาอธิปไตย ผลประโยชน์แห่งชาติ และปกป้องพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัยจากการรุกรานของข้าศึกศัตรู ดังคำกล่าวที่ว่า “น่านฟ้าไทย จะไม่ให้ใครย่ำยี”.-313.-สำนักข่าวไทย