“ข้าวหอมมะลิ” ราคาสูงขึ้น

กทม. 19 ก.พ.- พ.ร.บ.ข้าว ผ่านหรือไม่รอลุ้นวันพรุ่งนี้…แต่ที่ไม่ต้องรอ คือ คนซื้อข้าวหอมมะลิ มีข้อมูลชัด ราคาเพิ่มขึ้นแน่


วันพรุ่งนี้ หลายคนจับตา พ.ร.บ.ข้าว จะผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.หรือไม่ โดยยังมีหลากหลายความเห็นทั้งเห็นด้วยและคัดค้าน ซึ่งก็ยังต้องผลลัพธ์ที่จะออกมาจริงหาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ ผ่านความเห็นชอบออกมาประกาศใช้จริง แต่ที่ไม่ต้องรอและมีผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคไปแล้ว เพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยที่บางคนรวมทั้งคนที่วิจารณ์เรื่องของ พ.ร.บ.ข้าวและต้องซื้อข้าวกินทุกวัน อาจยังไม่รู้ตัวก็คือ ราคาข้าว โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่ขยับขึ้นมาได้หลายเดือนแล้ว 


มีข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรมาเปรียบเทียบให้ดูราคาข้าวเปลือกหอมมะลิช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จนถึงราคาปีล่าสุด ว่า ราคาขยับขึ้นมามากน้อยแค่ไหน โดยปี 2559 ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเฉลี่ยทั้งปีประมาณตันละ 8,700 บาทเศษ และขยับเพิ่มขึ้นมาเป็นประมาณตันละ 11,400 บาท ในปี 2560 พอมาถึงปี 2561 จนถึงต้นปี 2562 ราคาข้าวหอมมะลิกระโดดขึ้นมาอยู่ที่ 15,000 บาท ดูเหมือนว่า ราคาข้าวหอมมะลิแพง ชาวนาจะได้ประโยชน์ จะมีรายได้มากขึ้น แต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่ เพราะเมื่อไปดูผลผลิตข้าวหอมมะลิในปีนี้ พบว่า ลดลงไปนับล้านตัน 

มีข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงเกษตรฯ ระบุว่า พื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิปี 61 อยู่ที่เกือบ 23 ล้านไร่เพิ่มขึ้นจากปี 60 เล็กน้อย แต่ปรากฏว่า ผลผลิตออกมาน้อยกว่าปี 60 ไปนับล้านตันเศษ โดยปี 61 มีผลผลิตประมาณ 6.6 ล้านตันลดลงจากปี 60 ที่ได้ประมาณ 7.7 ล้านตัน


ส่วนข้าวอื่นๆ ผลผลิตที่ได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วยซ้ำสาเหตุที่ผลผลิตลดลง เพราะปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงในช่วงข้าวกำลังต้องการน้ำ ทำให้ต้นข้าวจำนวนมากยืนตันตาย โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานตอนกลางและตอนล่าง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิแหล่งใหญ่ของประเทศ

สำหรับราคาข้าวหอมมะลิล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่เป็นข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ข้าวเปลือกหอมมะลิ เฉลี่ยตันละ 15,592 บาท เทียบกับช่วงเวลาใกล้เคียงกันของปีที่แล้ว ราคาอยู่ที่ประมาณ 14,570 บาทต่อตัน ก็จะพบว่า ราคาเพิ่มขึ้นให้เห็นชัดเจน ขณะที่ข้าวหอมมะลิที่เป็นข้าวสารในกรุงเทพฯ ราคาขายส่งเฉลี่ยตันละ 34,050 บาท และราคาส่งออกเฉลี่ยตันละ 1,175 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 36,500 บาทต่อตัน

มาดูความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องกันบ้างอย่างนายสมเกียรติ มรรคยาธร เลขาธิการสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย บอกว่า ราคาข้าวที่แพงขึ้น น่าจะเป็นเรื่องของการหมดโปรโมชั่นในบางยี่ห้อและปรับขึ้นไป ซึ่งราคาข้าวในตลาดยังเป็นปกติ ส่วนข้าวบรรจุถุงที่ขายตามห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ที่ราคาลดกว่าหน้าถุงส่วนใหญ่จะเป็นการจัดโปรโมชั่นลดราคาร่วมกับทางห้างสรรพสินค้า เพราะข้าวถุงมีการแข่งขันกันสูง และเมื่อหมดเวลาก็จะปรับราคาขึ้น แต่เป็นการปรับขึ้นในบางยี่ห้อที่หมดโปรโมชั่นเท่านั้นและปรับขึ้นไม่มากนัก เฉลี่ยจากประมาณ 240 บาทต่อถุงเป็นประมาณ 250 บาทต่อถุง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 

มาดูข้อมูลของกรมการค้าภายใน ในฐานะที่กำกับดูแลราคาสินค้าต่างๆ ระบุว่า แม้ข้าวสารจะไม่ใช่เป็นสินค้าควบคุมแต่เป็นกลุ่มสินค้าที่มีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยข้าวหอมมะลิบางยี่ห้อปรับราคาขึ้นไป เนื่องจากเป็นการปรับตามต้นทุนราคาข้าวเปลือกที่มีราคาสูงขึ้น ซึ่งตามปกติ ผู้ผลิตข้าวสารบรรจุถุงก่อนที่จะนำไปขายผ่านห้างสรรพสินค้าจะแจ้งราคาให้กรมการค้าภายในได้ทราบ เช่น ข้าวหอมมะลิบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัม ปีที่ผ่านมาจะเฉลี่ยอยู่ที่ 148-255 บาท แต่ขณะนี้ ยอมรับว่า จากต้นทุนข้าวเปลือกที่แพงขึ้น ทำให้ราคาขายข้าวหอมมะลิบรรจุถุง 5 กิโลกรัมที่แจ้งกับกรมการค้าภายใน ราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 169-285 บาท โดยขยับเพิ่มถุงละ 20-30 บาท แต่ก็ระบุว่า ด้วยระบบการค้าเสรีและการแข่งขัน หากรายใดปรับราคาสูงไปมากทางผู้บริโภคจะหันไปซื้อข้าวยี่ห้ออื่นแทนซึ่งถือเป็นกลไกลตลาด แต่ทางกรมการค้าภายในมีทีมตรวจสอบราคาสินค้าทุกสัปดาห์อยู่แล้ว หากเห็นว่าไม่เกิดความเป็นธรรมหรือเอาเปรียบผู้บริโภคจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ราคาข้าวแพงบวกกับเงินบาทแข็งค่าลามไปถึงข้าวที่ส่งออกไปด้วย นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ บอกว่า ตัวเลขการส่งออกข้าวตามข้อมูลใบอนุญาตส่งออกข้าว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 1.2 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่า 659 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุเพราะประเทศผู้นำเข้าข้าวไทย เช่น จีน อินโดเนียเซีย ฟิลิปปินส์ ที่มีสตอกข้าวในประเทศค่อนข้างมาก ยังไม่มีนโยบายนำเข้าข้าว รวมถึงการแข็งค่าเงินบาทอาจทำให้ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งอยู่บ้าง แต่กรมฯได้ประเมินภาพรวมการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ เบื้องต้นตัวเลขการส่งออกข้าวน่าจะใกล้เคียงกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยที่คาดการณ์ไว้ปริมาณน่าจะอยู่ที่ 9 ล้านถึง 9.5 ล้านตัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ นครพนม จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 […]

หยุดยิง! ชายแดนไทย-กัมพูชา เงียบสนิทตามเดดไลน์ 24.00 น.

29 ก.ค. – ไทย-กัมพูชา ตกลงหยุดยิงพร้อมกัน 24.00 น.ที่ผ่านมา โดยไม่มีเงื่อนไข ถือเป็นก้าวแรกสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ รวมถึงฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง ส่วนเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการประชุมระหว่างแม่ทัพของทั้งสองประเทศ และการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหม 4 ส.ค. วานนี้ (28 ก.ค.) ที่ประชุมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่มีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นคนกลางในการเจรจา สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมบรรลุข้อตกลง 3 ข้อโดยเฉพาะ “ข้อตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข” มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง เช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังของ 2 ประเทศ ได้แก่ กองทัพภาคที่ 1 และ 2 ของฝ่ายไทย และกองทัพภาคที่ […]

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]