กรุงเทพฯ 16 เม.ย.-กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เกาะติดสถานการณ์ส่งออกข้าวและการปรับตัวของเวียดนาม หลังอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว กดดันราคาข้าวโลก แนะผู้ประกอบการหันไปผลิตข้าวคุณภาพสูง ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวออร์แกนิก และข้าวเพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์ตลาดพรีเมียม หนีการแข่งขันด้านราคา
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทย ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวอุษาศรี เขียวระยับ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้า ณ นครโฮจิมินห์ เวียดนาม ถึงการติดตามสถานการณ์การส่งออกข้าวของเวียดนาม หลังจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว และแนวทางการปรับตัวของรัฐบาลเวียดนามในการส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวให้กับเกษตรกร เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคา
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์แจ้งว่า นับตั้งแต่อินเดียได้ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกข้าวขาว ส่งผลให้ราคาข้าวขาวในตลาดโลกปรับตัวลดลง แต่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในแอฟริกาที่นิยมข้าวราคาถูก รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของจีนที่มีความต้องการข้าวหักสูง และอุตสาหกรรมผลิตเอทานอลสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพที่คาดว่าจะเพิ่มการสั่งซื้อข้าวหักเช่นกัน
โดยเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากอินเดียและไทยได้ส่งออกข้าวประมาณ 9.18 ล้านตันในปี 2567 คิดเป็นมูลค่า 5,750 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดหลัก ได้แก่ ฟิลิปปินส์ จีน มาเลเซีย และโกตดิวัวร์ แต่หลังจากที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว ทำให้เวียดนามได้รับผลกระทบจากราคาข้าวที่ลดลง รัฐบาลเวียดนามจึงได้มีแผนปรับกลยุทธ์การส่งออกข้าวโดยตั้งเป้าลดปริมาณการส่งออกเหลือ 4 ล้านตันต่อปีภายในปี 2573 เพื่อมุ่งเน้นการผลิตข้าวคุณภาพสูง รับประกันความมั่นคงทางอาหารภายในประเทศ และปกป้องสิ่งแวดล้อม
อินเดียเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก มีสัดส่วนเกือบร้อยละ 40 ของปริมาณการค้าข้าวทั่วโลก การกลับเข้าสู่ตลาดครั้งนี้ ทำให้ปริมาณข้าวในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ส่งผลให้ราคาข้าวขาวหัก 5% และข้าวขาวหัก 25% จากประเทศผู้ส่งออกรายอื่น ๆ โดยเฉพาะจากไทย เวียดนาม และปากีสถาน ต้องเผชิญแรงกดดันและมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เวียดนามต้องปรับกลยุทธ์ในการเพาะปลูกข้าว และส่งออกข้าวใหม่ ดังนั้น ไทยก็ต้องปรับกลยุทธ์ โดยเน้นการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพสูง เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวออร์แกนิก และข้าวเพื่อสุขภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดระดับพรีเมียมที่มีกำลังซื้อสูง เช่น สหภาพยุโรปตะวันออกกลาง และญี่ปุ่น โดยกรมฯพร้อมที่จะช่วยทำตลาด เพื่อให้ข้าวไทยเป็นที่ต้องการต่อไป
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169.-511.-สำนักข่าวไทย