กรมอุตุฯ เตือนพายุ “ปาบึก” เข้าอ่าวไทยวันนี้

ภูมิภาค 2 ม.ค.- ชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดสงขลา นำเรือขึ้นฝั่งหยุดทำการประมง หลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือน พายุ “ปาบึก” จะเข้าอ่าวไทยวันนี้ ขณะที่สภาพคลื่นลมในทะเลทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนเรื่อง พายุ “ปาบึก” ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวน และเคลื่อนลงอ่าวไทยในช่วงวันที่ 2-3 มกราคมนี้โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3 – 5 มกราคม ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง นั้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้จะรับผลกระทบ ขณะนี้สภาพคลื่นลมบริเวณชายฝั่งเริ่มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ชาวประมงพื้นที่บริเวณชายฝั่งของจังหวัดสงขลา ทั้ง 6 อำเภอตั้งแต่ อำเภอระโนด สทิงพระ สิงหนคร อำเภอเมือง จะนะ และอำเภอเทพา ต้องหยุดออกเรือชั่วคราว เช่นที่ชุมชนชาวประมงพื้นบ้านที่บ้านบ่ออิฐ ตำบลเกาะแต้ว อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ชาวประมงได้ช่วยนำเรือประมง ขึ้นจอดบนฝั่งบริเวณชายหาดอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันคลื่นซัดเสียหาย 


ขณะที่หมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้าน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้พากันอพยพเรือประมงเล็กไปเก็บไว้ตามลำคลองชั้นใน และนำขึ้นริมฝั่งเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้จากสภาพคลื่นลมที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น และเฝ้าเพื่อติดตามสถานการณ์ของพายุปาบึกอย่างใกล้ชิด นายเจริญ โต๊ะอีแต นายกสมาคมชาวประมงพื้นบ้านอ่าวท่าศาลา ยอมรับว่ามีความวิตกเนื่องจากสภาพอากาศมีลมตะวันตกพัดเข้ามาด้วย และตามภูมิปัญหาชาวประมงพื้นบ้านจะรู้ว่าเหมือนเป็นสัญญาณเตือนก่อนลมใหญ่จะเข้าหาฝั่ง

ส่วนบริเวณท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการขนส่งบุคลากรของแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมกลางอ่าวไทย ล่าสุดนั้นได้มีการนำเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงเจ้าหน้าที่จากแท่นขุดเจาะขึ้นฝั่งเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นไปตามมาตรการตามลำดับในความปลอดภัยของบุคลากรคือการอพยพออกจากพื้นที่เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยบุคลากรได้กระจายไปพัดอยู่ตามสถานที่พักต่างๆ ในนครศรีธรรมราชและใกล้เคียง


พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมการรับมือพายุซึ่งคาดว่าจะมีคลื่นสูงถึง 5 เมตรรวมถึงลมที่จะพัดกระโชกแรง โดยให้เตรียมการเรื่องระบบไฟฟ้าและสาธารณูปโภค เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงเร่งการระบายน้ำลงสู่ทะเล ส่วนระบบเตือนภัยได้เตรียมพร้อมแล้ว

  

เช้านี้นายมาหะมะพีสกรี วาแม ผอ.ศูนย์ ปภ.เขต 12 สงขลาประชุมด่วนผู้บริหารประชุมติดตามสภาพอากาศ พร้อมสั่งการตามนโยบายอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมพร้อมกำลังพลและเครื่องจักร กระจายลงในเขตพื้นที่รับผิดชอบ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ทั้งเรือกู้ภัย เรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ รถปฏิบัติเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ระหว่างวันที่ 2-5 มกราคม 2562 ซึ่งจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์ ปภ.เขต 12 สงขลา ประกอบ สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล 

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน จะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2- 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2562.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว