สุพรรณบุรี 24 ธ.ค.- ตำรวจไม่ละความพยายามตามหาเด็ก 2 ขวบชาวเมียนมา หายตัวลึกลับในไร่อ้อย 8 วัน โดยผู้ว่าฯ ประชุมเครียด มั่นใจเด็กไม่ได้อยู่ในไร่อ้อย มุ่งปมสืบสวนใหม่ อาจถูกลักพาตัว หรือถูกฆ่า แต่ล่าสุดชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมาจากไร่อ้อย เจ้าหน้าที่จึงปูพรมค้นหาอีกครั้ง
การหายตัวอย่างลึกลับนานถึง 8 วันของเด็กชายวัย 2 ขวบ ลูกของแรงงานเมียนมาที่เข้ามาหางานทำในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ทำให้ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และชาวบ้านในพื้นที่ระดมค้นหาทั่วพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไร่อ้อยมีพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ขณะเดียวกัน ยังนำสุนัขมาช่วยดมกลิ่น แต่ล่าสุดการปูพรมค้นหาทั่วทุกจุดที่ชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่ายังไร้วี่แวว
ขณะที่นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยภายหลังประชุมสืบสวน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประมวลและสรุปความคืบหน้าการค้นหาว่าขณะนี้ให้ความสำคัญแต่ละประเด็นต่างกัน โดยเฉพาะประเด็นเด็กพลัดหลงในไร่อ้อย ซึ่งการค้นหาตลอด 8 วัน ทุกฝ่ายยืนยันว่าตรวจค้นโดยละเอียดทุกตารางนิ้วในทุกวัน รวมถึงมีการขยายพื้นที่และตรวจค้นซ้ำในจุดต้องสงสัย เช่น บ่อน้ำ 5 บ่อ ที่คาดว่าเด็กอาจพลัดตกบ่อ และเมื่อนักประดาน้ำงมหาต้องเจออย่างแน่นอน แต่ก็ยังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ละความพยายามได้ใช้อุปกรณ์โซนาร์สแกนในพื้นที่บ่อ ก็ยังไม่พบ ทำให้ขณะนี้สรุปได้ว่าเด็กไม่ได้พลัดหลงอยู่ในไร่อ้อย รวมถึงไม่ตกลงไปในบ่อน้ำ
และจากนี้จะเน้นไปที่การสืบสวนสอบสวน มุ่งประเด็น เด็กอาจถูกลักพาตัว เพราะพยานให้ข้อมูลว่ามีคนจูงเด็กไป หรือเด็กอาจถูกฆ่า แต่คดีนี้มีพยานเป็นเด็กวัย 3 ขวบ และเป็นชาวเมียนมา การขอข้อมูลจึงต้องใช้เวลา ขณะที่พรุ่งนี้เตรียมย้ายฐานการปฏิบัติการภาคสนามจากพื้นที่ไร่อ้อยมาเป็นที่ สภ.สระยายโสม และให้นายอำเภออู่ทอง และผู้กำกับการ สภ.สระยายโสม เป็นแม่งานตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง แต่ปรับรูปแบบ โดยจะไม่เดินเท้าหาเหมือนตลอด 8 วันที่ผ่านมา แต่จะเน้นสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลจากคนในพื้นที่
นอกจากนี้ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ทหารได้ใช้ ม.44 นำกำลังค้นบ้านตำหนักร่างทรง ซึ่งอยู่ใกล้จุดที่เด็กหายตัวไป และชาวบ้านเชื่อว่าเด็กอาจถูกลวงไปทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ แต่การตรวจค้นพบเพียงภรรยาผู้ต้องสงสัยให้ข้อมูลว่า สามีไม่อยู่บ้าน ไปขับรถอ้อยกับเถ้าแก่ ส่วนเจ้าของบ้านเสียชีวิตไปแล้ว 2 ปี ขณะที่ภายในบ้านที่เป็นตำหนักร่างทรง พบมีพระพุทธรูป เครื่องราง ของขลังตั้งอยู่จำนวนมาก โดยไม่พบตัวเด็กแต่อย่างใด
คดีนี้แม้จะใช้เวลานานถึง 8 วันในการค้นหาเด็ก แต่พ่อแม่เด็กยังหวังให้ลูกชายยังอยู่ที่ใดที่หนึ่ง โดยที่ไม่เป็นอันตราย และขอบคุณชาวไทยที่ช่วยระดมค้นหา.-สำนักข่าวไทย