รมว. เกษตรฯ มอบคูปองลดหย่อนภาษีแก่บริษัทล้อยาง ชี้ราคายางพาราปรับสูงขึ้น 3 บาทกว่า ภายใน 2 สัปดาห์

กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. – รมว. เกษตรฯ มอบส่งมอบคูปองลดหย่อนภาษี “โครงการช้อปช่วยชาติ ” พร้อมเปิดตัวผู้แทนจำหน่ายยางล้อที่เข้าร่วมโครงการ ยืนยัน จากการเร่งดำเนินมาตรการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ ทำให้วันนี้ราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้นจากเมื่อต้นเดือนสูงขึ้นกว่า 3 บาทต่อกิโลกรัม


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานมอบคูปองลดหย่อนภาษีที่จัดสรรให้กับบริษัทผู้ผลิตยางล้อแก่บริษัท IRC , Maxxis ,  N.D Rubber , ดีสโตน และโอตานิ ซึ่งตกลงรับซื้อวัตถุดิบยางจาก กยท. เพื่อนำไปผลิตล้อยางแล้วรวม 1,706,000 กิโลกรัม ซึ่งคูปองลดหย่อนภาษีที่จัดสรรให้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ คูปองสำหรับยางล้อรถยนต์ประเภท 4 ล้อ ได้รับคูปองจำนวน 100 ใบต่อการซื้อวัตถุดิบ 1 ตันและคูปองสำหรับยางล้อรถจักรยานยนต์หรือรถจักรยานประเภทรถ 2 ล้อได้รับคูปองจำนวน 500 ใบ ต่อการซื้อวัตถุดิบ 1 ตัน 

นอกจากนี้ยังมีบริษัทผู้ผลิตยางล้อของต่างประเทศซึ่งมีโรงงานในประเทศไทยสนใจเข้าร่วมโครงการเพื่อซื้อยางช่วยชาติเพิ่มเติมอีก แต่ยังไม่สามารถจัดซื้อได้ทันที เนื่องจากต้องประสานงานกับบริษัทแม่ในต่างประเทศเรื่องการทดสอบคุณภาพยางแผ่นและยางแท่งที่จะจัดซื้อจากสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่ กยท. จะรวบรวมให้ ทั้งนี้ได้แสดงความจริงใจที่จะร่วมมือโดยการทำสัญญาซื้อขายยางไว้ล่วงหน้า แล้วนำสัญญามาแสดงต่อ กยท.เพื่อรับคูปอง จากนั้นนำคูปองไปกระจายต่อบริษัทหรือร้านค้าที่จำหน่ายยางได้ 


สำหรับประชาชนที่ซื้อล้อยางรถยนต์ที่รับซื้อจากวัตถุดิบในประเทศไทยสามารถนำรายจ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท โดยต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ และคูปองที่ กยท. ออกให้ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใช้หักลดหย่อนภาษีในปีที่ซื้อ หากซื้อช่วงปีไหนก็หักลดหย่อนภาษีปีนั้น โดยเริ่มช้อปสินค้าได้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2561 จนถึง 16 มกราคม 2562 รวมระยะเวลา 1 เดือน 

ผู้ประกอบการผลิตล้อยางได้แก่ โอตานิแจ้งว่า มีร้านค้าตัวแทนจำหน่าย 200 สาขา ดีสโตน 800 สาขา แม็กซิส 40 สาขา ส่วนไออาร์ซีมีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยผู้แทนของโอตานิระบุว่า เดิมซื้อยางพาราจากสหกรณ์ 5 สหกรณ์ที่สามารถผลิตยางแผ่นและยางแท่งได้มาตรฐาน GMP อยู่แล้วซึ่ง อยู่แล้วซึ่งมีค่าความหนืด ความยืดหยุ่น และความสะอาดดีตามที่บริษัทต้องการ ทั้งนี้แม้จะหมดโครงการช้อปช่วยชาติแล้วยินดีจะรับซื้อจากสถาบันเกษตรกรมากขึ้น โดยขอให้ กยท. ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกรผลิตยางให้มีคุณภาพ รวบรวมปริมาณยางได้ตามคำสั่งซื้อ และส่งมอบตรงตามสัญญา

นายกฤษฎา กล่าวว่า ขณะนี้มีสหกรณ์ชาวสวนยางมี 841 สหกรณ์ ใน 59 จังหวัด โดยครม. มีมติเห็นชอบให้กรมส่งเสริมสหกรณ์คัดเลือกสหกรณ์ที่มีศักยภาพขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้ 5,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ 200 ล้านบาท โดยสหกรณ์ที่ได้รับคัดเลือกจะทำหน้าที่รวบรวมยางพาราจากสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรในพื้นที่ นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งนี้มี 6 สหกรณ์ที่รวบรวมและแปรรูปได้ ส่วนอีก 12 สหกรณ์มีศักยภาพในการรวบรวม แล้วนำส่งโรงงานแปรรูป ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ จะพัฒนาสหกรณ์ชาวสวนยางให้ยกระดับการดำเนินกิจการให้ได้เทียบเท่ากับสหกรณ์อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรีซึ่งสามารถแปรรูปยางพาราส่งออกไปยังเมืองชิงเต่า ประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดซื้อขายยางพาราที่แห่งใหญ่ได้ด้วย


นายกฤษฎากล่าวเพิ่มเติมถึง โครงการทำถนน 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตรว่า กำลังประสานกับกระทรวงมหาดไทยขอให้เชิญองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 7,000 กว่าแห่งมาประชุมเพื่อทำความเข้าใจแบบรายการยางมาตรฐานทำถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพาราซึ่งออกแบบโดยกรมทางหลวงซึ่งได้ปรับจากเดิมที่กำหนดให้ใช้น้ำยางข้นที่ผสมสารเพิ่มจากโรงงานแปรรูปน้ำยางในกรุงเทพฯ 9 แห่งซึ่งทำให้เกษตรกรกังวลว่า ต้องขายน้ำยางแก่คนกลางเพื่อส่งมาแปรรูป แล้วผู้ได้รับประโยชน์คือ คนกลางและโรงงานแปรรูปเท่านั้น ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานไปยังกรมทางหลวงให้ออกแบบรายการยางมาตรฐานใหม่เพื่อให้สามารถผสมสารเพิ่มที่ภาคสนามได้เลย (Mix in Place) แบบนั้นเปิดให้สามารถใช้ได้ทั้งน้ำยางสดและน้ำยางข้น ส่วนราคากลางที่กำหนดโดยกรมบัญชีกลาง ราคาน้ำยางสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 39 บาทซึ่งเป็นราคาที่สอดคล้องกับแบบที่ออกโดยกรมทางหลวงเพื่อให้ใช้คำนวณราคากลางสำหรับการก่อสร้างได้ แต่ในวันที่ อปท. รับซื้อจากสถาบันเกษตรกรอาจแตกต่างไปจากราคากลางบ้าง ขอย้ำว่า ราคากลางก่อสร้างถนนอยู่ที่กิโลเมตรละประมาณ 1.2 ล้านบาทในกรณีจ้างเหมา หากท้องถิ่นดำเนินการเองอยู่ที่ 900,000 ถึง 1,000,000 บาท ยืนยันว่า ที่ปรากฏเป็นข่าวว่า ค่าก่อสร้างถนนอยู่ที่ 2.1 ล้านบาทนั้นเป็นราคากลางเดิมที่คำนวณจากการนำน้ำยางมาผสมที่โรงานแปรรูปน้ำยางในกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ได้ปรับลดลงแล้ว และผู้ได้รับประโยชน์คือ เกษตรกรโดยตรงที่จะขายน้ำยางแก่ อปท. ผ่านสถาบันเกษตรกร

สำหรับข้อห่วงใยที่ว่า ถนนงานดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพาราจะไม่ได้มาตรฐานนั้น ยืนยันว่า ก่อนที่ อปท. จะรับมอบต้องมีขั้นตอนตรวจสอบโดยต้องขุดดินที่ราดด้วยน้ำยางแล้วใช้รถเกลี่ยจนเป็นเนื้อเดียวกันไปทดสอบในสถาบันอุดมศึกษาที่มีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งจะต้องได้มาตรฐานความแน่น ความยืดหยุ่น และสมรรถนะการรับน้ำหนักได้ตามที่กรมทางหลวงกำหนด

นายกฤษฎากล่าวว่า การเร่งดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางพาราทำให้ราคาปรับสูงขึ้นแล้ว โดยราคายางแผ่นรมควันวันนี้ (18 ธันวาคม 61) อยู่ที่ 43.19 บาท จากเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมอยู่ที่ 39.17 บาท ปรับขึ้นมา 3.40 บาท คิดเป็นร้อยละ 8.5 ในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์กว่า เชื่อมั่นว่า เมื่อมีการสร้างถนนในหมู่บ้านเกือบ 80,000 แห่งทั่วประเทศราคายางพาราจะปรับสูงขึ้นอีกแน่นอน . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]