ผ่าตัดมะเร็งสุดฉงน ค่ามะเร็งไม่มี แถมไตหาย

อุดรธานี 7 ธ.ค.-สาววัย 33 ร้องศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี หมอวินิจฉัยเป็นมะเร็ง ตัดรังไข่ มดลูก และลำไส้บางส่วนออก มาตรวจอีกครั้งหมอบอกไม่มีค่ามะเร็ง ซ้ำร้าย “ไต” หายไปด้วย 1 ข้าง ด้าน ผอ.โรงพยาบาล เตรียมตั้งกรรมการสอบเพิ่มเติมกรณี “ไต”


วันนี้ เวลา 10.30 น. ที่ศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี ศาลากลาง จ.อุดรธานี น.ส.ศินวพร หอมกลาง อายุ 33 ปี พร้อมมารดา น.ส.วรรณลี แสนชาติ อายุ 56 ปี อยู่ที่ 37 บ้านไร่สวรรค์ ม.5 ต.หนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี และนายยิ่งศักดิ์ สิงหัดชัย ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และแจ้งความร้องทุกข์กับแพทย์ รพ.ศูนย์อุดรธานี ต่อ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าฯ อุดรธานี โดยมี นายกฤษชานนท์ อุทัยเลี้ยง นักวิชาการนโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ ศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี มาเป็นผู้รับหนังสือ


น.ส.วรรณลี แสนชาติ อายุ 56 ปี เล่าว่า เป็น อสม. มีความรู้เรื่องสุขภาพอยู่บ้าง มีลูกสาวเป็นเสาหลักของบ้าน เคยทำงานอยู่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลาออกเพื่อเตรียมไปเปิดเนอสเซอรี่กับแฟนชาวสิงคโปร์ ที่ประเทศสิงคโปร์ ลูกมีอาการปวดท้องจึงกลับมารักษาที่อุดรธานี หมอวินิจฉัยโรคผิดพลาดว่าลูกสาวเป็นมะเร็ง ได้ตัดรังไข่ มดลูก และลำไส้บางส่วนออก ที่ผ่านมาลูกสาวเคยร้องเรียนหลายหน่วยงานมาแล้ว และมีการใช้ ม.41 เยียวยามาเป็นเงิน 240,000 บาท เรายังไม่พอใจ จึงได้อุทธรณ์ อยู่ระหว่างรอผล พบว่าลูกสาวถูกตัดไตออกไปด้วย 1 ข้าง จึงออกมาร้องขอความเป็นธรรมอีก   

น.ส.ศินวพร หอมกลาง อายุ 33 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2561 มีอาการปวดท้องจึงไปหาหมอที่ รพ.หาดใหญ่ วินิจฉัยว่าลำไส้อุดตัน จะต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เมื่อปรึกษาแม่จึงกลับมารักษาที่ จ.อุดรธานี โดยเดินทางมาถึงอาการกำเริบ จึงเข้ารักษาที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีทันที ต้องนอนที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจหาสาเหตุ รับแจ้งว่าพบคล้ายๆ ก้อนที่รังไข่ และลำไส้ แต่หมอเวรบอกว่าไม่ต้องผ่าตัด จะฉีดยาให้ซีสช็อคโกแลตฝ่อหลุดไปเอง ตอนนั้นอาการก็ดีขึ้นตามลำดับ ต่อมาหมอใหญ่ (ศัลยกรรมลำไส้) มาแจ้งว่าเป็นมะเร็งแน่นอน 80% และเคยร้องขอให้หมอส่องกล้อง ตัดชิ้นเนื้อมาตรวจเพื่อความแน่ใจ ซึ่งเป็นวิธีที่ยังไม่ได้ตรวจ ก็ถูกปฏิเสธว่ากล้องมีไว้รักษาโรค ไม่ได้มีไว้ตรวจหาโรค ไม่ผ่าก็ได้ถ้าไม่พร้อม คนไข้มีอีกเยอะ รอคนเดียวไม่ได้ จึงต้องเข้ารับการผ่าตัดเช้ามืดวันที่ 26 มิ.ย.61 โดยหมอใหญ่เป็นคนผ่าตัด ไม่มีหมอสูตินารีเวชมาร่วม ทั้งที่เคยแจ้งว่าจะมาร่วม

น.ส.ศินวพร เล่าต่อว่า ต่อมาแม่ได้ไปติดต่อเรื่องให้ฮอร์โมน ตามขั้นตอนของผู้หญิงถูกตัดมดลูก หลังจากอยู่โรงพยาบาลได้ 1 เดือน 7 วัน จึงรู้ว่าประวัติคนไข้มีพียงผ่าตัดเท่านั้น ไม่มีการตัดมดลูกและรังไข่ออก จึงตัดสินใจร้องขอความเป็นธรรม วันที่ 22 ต.ค. ที่ สนง.สาธารณสุข จ.อุดรธานี ให้ ม.41 เยียวยา 240,000 บาท ซึ่งเรายังอุทธรณ์และรอผลอยู่


ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พ.ย.61 ไปตรวจร่างกายที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เตรียมย้ายทวารกลับที่เดิม เพราะถุงทวารใหม่ยังห้อยอยู่ที่เดิม หลังตรวจร่างกายหมอบอกว่า ให้ระมัดระวัง รักษาตัวให้ดี เพราะมีไตเพียงข้างเดียว หากทำงานหนักจะไม่มีอีกข้างช่วย ทำให้รู้ว่านอกจากมดลูกและรังไข่ถูกตัด ยังมีไตอีกข้างถูกตัดออกไปด้วย ซึ่งเราจะต้องทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต นอกจากจะมีบุตรไม่ได้ ยังต้องมีสภาพทำงานหนักไม่ได้ จากเดิมเป็นหลักให้ครอบครัว ตอนนี้เรามาเป็นภาระให้ท่าน และแฟนชาวสิงคโปร์จะแต่งงานปีหน้าก็ดูจะถอยห่าง เพราะเขาอยากมีลูก แต่เรามีให้ไม่ได้แล้ว มันท้อใจจนเคยคิดจะฆ่าตัวตาย ก่อนเลือกมาร้องรอความเป็นธรรม

น.ส.ศินวพร หอมกลาง กล่าวตอนท้ายว่า คิดไปเองว่าการกระทำของหมอ เจตนาเพื่อเอาไตไปหาประโยชน์หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อประชาชน หากยังปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยอยู่ จะนำมาซึ่งความเสียหายต่อชื่อเสียงโรงพยาบาล ที่ประชาชนทั่วไปให้การยอมรับ อีกทั้งอาจกระทำการยุ่งเหยิง ต่อพยานหลักฐานทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขอให้ ผู้ว่าฯ อุดรธานี มีคำสั่งพักงานหมอรายนั้น และดำเนินการทางวินัยและคดีอาญา

ด้าน นพ.ณรงค์ ธาดาเดช ผอ.โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ชี้แจงทางโทรศัพท์ว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนไปหลายส่วน รวมทั้งร้องเรียนไปสำนักนายกรัฐมนตรี ทางโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีได้ดำเนินการตามขั้นตอน รายงานไปยัง สนง.สาธารณสุข จ.อุดรธานี และมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ หลังจากมีการเยียวยาตาม ม.41 ผู้เสียหายได้อุทธรณ์ขอความเป็นธรรมต่อ ซึ่งการสอบสวนครั้งนั้น ไม่มีกรณีของ “ไต” เมื่อมีการร้องเรียนในประเด็นนี้ จะต้องมีกรรมการไปสอบสวนเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]