ตำรวจคาดใช้เวลา 1 เดือน สรุปสำนวนคดีสาดพริกป่น

กรุงเทพฯ 18 พ.ย. – เจ๊ดา ผู้ว่าจ้างสาดพริกป่นผสมน้ำใส่สาวขับเบนซ์  ถูกคุมตัวไปฝากขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง หลังไม่มีใครมายื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ขณะที่เจ้าตัวขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น  ตำรวจคาดใช้เวลาไม่เกิน  1 เดือน สรุปสำนวนคดีนี้ส่งให้อัยการ


หลังตำรวจนำตัวนางแสงอรุณ  ประทุมพวง หรือ เจ๊ดา ผู้จ้างวานให้นางสาวนิภาพร สมุทรคีรี สาดพริกป่นผสมน้ำใส่นางวาสนา  เวสารัชเวศย์ ขณะขับรถเบนซ์จอดติดไฟแดงบริเวณแยกศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร จนได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา  ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 พฤศจิกายน 2561 ในข้อหาร่วมกันพยายามชิงทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายร่างกาย  และคัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้อง เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เข้าข่ายชิงทรัพย์  ปรากฏว่าไม่มีใครมายื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวแต่อย่างใด  เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปฝากขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

ขณะที่จากการสอบสวน ผู้ต้องหาไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน แต่ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น  ในเรื่องนี้  พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี  ผู้กำกับการ สน.บางซื่อ  เปิดเผยว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ และนางแสงอรุณ เข้ามอบตัวกับตำรวจเอง ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า นางแสงอรุณ รู้จักกับผู้เสียหาย และเจ๊ซ้ง ที่อ้างว่าเป็นคนบงการอีกทอดนั้นมีตัวตนหรือไม่ หากพบว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องอีกจะดำเนินคดีเพิ่มเติม คดีไม่มีอะไรซับซ้อนคาดใช้เวลา 1 เดือน ก็สามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการได้


ขณะที่ผู้เสียหายจากการถูกสาดพริกป่นผสมน้ำยืนยัน ไม่เคยรู้จักและมีประเด็นความขัดแย้งทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องธุรกิจกับ เจ๊ดา มาก่อน   มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เจ๊ดา เคยขึ้นทะเบียนเป็นนายประกันที่ศาลอาญา ต่อมาถูกดำเนินคดีฐานละเมิดอำนาจศาล แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบในบริเวณศาลอาญา เมื่อปี 2560 

สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 20.30 น. ขณะที่ น.ส.วาสนา  ขับรถเบนซ์ ซี 250 สีขาว แบบสปอร์ต ทะเบียน 5 กฮ 6804 กรุงเทพมหานคร ไปตามถนนกำแพงเพชร เมื่อมาถึงแยกด่วนโรงปูนหรือหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร แขวงและเขตจตุจักร กทม. ได้หยุดรถรอสัญญาณไฟ ปรากฏว่า น.ส.นิภาพร สมุทรคีรี ผู้ต้องหาที่ศาลอาญาอนุญาตฝากขังไปก่อนนี้  ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอด แล้วเคาะกระจกรถฝั่งคนขับทำทีจะสอบถามเส้นทาง  พอผู้เสียหายลดกระจกลง น.ส.นิภาพรได้สาดพริกผสมน้ำใส่ใบหน้า ทำให้ตาทั้งสองข้างบาดเจ็บ ประกอบกับในกระเป๋ามีเงินสดจำนวน 800,000 บาท และกำไลเพชร มูลค่า 65,000 บาท วางไว้บนเบาะด้านซ้าย  เชื่อว่า น.ส.นิภาพร ประสงค์ชิงทรัพย์ ผู้เสียหายจึงรีบขับรถขึ้นทางด่วนไปรักษาอาการบาดเจ็บ ก่อนแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.บางซื่อ

จากการสืบสวนมีพยานยืนยันว่า น.ส.นิภาพร ได้รับการว่าจ้างจาก น.ส.แสงอรุณ หรือเจ๊ดา ผู้ต้องหา ให้นำพริกป่นมาสาดใส่หน้าผู้เสียหาย และให้ชิงเอาทรัพย์สินภายในรถมาให้ผู้ต้องหา ก่อนเกิดเหตุ น.ส.นิภาพรได้มาชักชวนพยานให้ร่วมก่อเหตุแต่พยานไม่ร่วมกระทำผิด หลังก่อเหตุ น.ส.นิภาพร ได้โทรศัพท์มาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พยานฟัง พร้อมกับบอกว่าไม่ได้รับเงินค่าจ้าง เพื่อความบริสุทธิ์ใจพยานจึงเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ. -สำนักข่าวไทย 


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว