นายกฯ พร้อมผลักดันเขตการค้าเสรีไทย-ชิลี

 สิงคโปร์ 14 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐชิลี พร้อมผลักดัน FTA ระหว่างกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด 


“จิตตานันท์ นิกรยานนท์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 33 ที่สาธารณรัฐสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2561 รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หารือทวิภาคีกับนายเซบัสเตียน ปิญเญรา เอเชนิเก ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐชิลี  ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 33 ที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการซันเทค สาธารณรัฐสิงคโปร์

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการหารือทวิภาคี ว่า  นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐชิลีแสดงความยินดีที่ได้พบปะหารือทวิภาคีระหว่างกันเป็นครั้งแรก ไทยและชิลีเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกันและมีความสัมพันธ์ราบรื่นมาโดยตลอด และความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศจะครบ 60 ปี ในปี 2022 การหารือกันครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองประเทศจะได้กระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น  


“เรื่องความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าจะใช้ FTA ระหว่างกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไทยและชิลียังมีศักยภาพที่จะขยายความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจได้อีกมาก โดยเฉพาะความร่วมมือในการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจให้ภาคเอกชน ซึ่งเป็นสาขาที่ชิลีมีความเชี่ยวชาญและสอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลไทย นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐชิลี จึงพร้อมสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน นอกจากนี้ ไทยและชิลีพร้อมร่วมมือกันศึกษาโอกาสและศักยภาพที่จะใช้ประโยชน์จากโครงการ EEC เพื่อเพิ่มพูนผลประโยชน์การค้าและการลงทุนของทั้งสองประเทศให้มากยิ่งขึ้น” พล.ท.วีรชน กล่าว  

 ส่วนความร่วมมือไทย-ชิลีในกรอบอาเซียน พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียินดีที่ชิลีได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ ในฐานะแขกของประเทศเจ้าภาพ ในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียนปีหน้า ไทยพร้อมจะส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศภายนอกภูมิภาค รวมถึงภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งไทยเห็นว่า ชิลีมีศักยภาพที่จะเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคทั้งสองได้.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง