จ่ายเงินเยียวยาประชาชน​อุบลฯ จังหวัดแรกวันพรุ่งนี้​

ทำเนียบ 25 ส.ค.- ศบ.ทก.เผย​สำนักปลัดฯ สำนักนายก​รัฐมนตรี​ เตรียมจ่ายเงินเยียวยาประชาชน​อุบลราชธานี​​ จังหวัดแรก พรุ่งนี้​ (26 ส.ค.) พร้อมขออภัยเงินเยียวยาล่าช้า ชี้กัมพูชา​ยังละเมิดข้อตกลงหยุดยิงต่อเนื่อง​ หลังพบลอบวางทุ่นระเบิด กองทัพไทย-รัฐบาลพร้อมดูแลความมั่นคงของชาติ ยืนเคียงข้างประชาชนทุกสถานการณ์​ ขณะที่ “มาริษ” เดินหน้าฟ้องประชาคมโลก

พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม​ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และ น.อ.กฤษณัส กาญจนกุล ผู้ช่วยเลขานุการ คณะทำงานบูรณาการระบบอากาศยานไร้คนขับ และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับกองทัพอากาศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​


โดยพลเรือตรีสุร​สันต์ กล่าวว่า​ สถานการณ์บริเวณชายแดนในช่วงที่ผ่านมาถือว่าทั้งสองฝ่ายยังตรึงกำลังในฐานที่ตั้ง ไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวของกำลังที่สำคัญ ในช่วงเวลาดังกล่าวมีการตรวจพบการลักลอบวางทุ่นระเบิดของทหารหน่วย BHQ​ ของกัมพูชา ในพื้นที่อธิปไตยของไทย แม้ว่าฝ่ายไทยจะได้ผลักดันกลับไปแล้ว​ แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าทางฝ่ายกัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างต่อเนื่อง​ โดยฝ่ายไทยยังคงดำรงการเข้าตรวจและระวังป้องกันกำลังของฝ่ายไทยเช่นกัน

ขณะเดียวกันในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) มีการจัดการประชุม RBC วาระ 1 โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และภูมิภาคทหารที่ 5 ของกองทัพบกกัมพูชา จัดให้มีการประชุมความร่วมมือส่วนภูมิภาคสมัยวิสามัญ ณ​ ด่านชายแดนถาวรบ้านผักกาด​ อำเภอโป่งน้ำร้อน​ จังหวัดจันทบุรี โดยมีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งจากผลการประชุมทั้งสองฝ่ายเห็นชอบปฏิบัติตามข้อตกลง 13 ข้อของการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา​ และได้มีประเด็นทั้งสองฝ่ายเสนอความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามสแกมเมอร์หรือขบวนการ​คอลเซ็นเตอร์ โดยฝ่ายไทยยังเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจในการร่วมกันผลักดันภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ยังคงตกค้างอยู่ในพื้นที่ ตลอดจนเรื่องของการปราบปรามเครือข่ายสแกมเมอร์หรือขบวนคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดน ซึ่งต้องรอทางฝ่ายกัมพูชาตัดสินใจและแสดงความจริงใจ


ขณะเดียวกัน ศบ.ทก.ขอบคุณประชาชนชาวไทยทุกคน ที่ได้ส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร​ ตำรวจ​ พลเรือน​ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ทุกนายในการดำรงรักษาที่มั่นอธิปไตยของชาติตามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ซึ่งหนึ่งในสัญลักษณ์ของการแสดงออกถึงอธิปไตยของไทย คือการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสา ซึ่งฝ่ายไทยโดยกองกำลังสุรนารีสร้างเสาธงสแตนเลสถาวร โดยชุดทหารช่างจากกองพันทหารช่างที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 และกองพลทหารราบที่ 11 ร่วมกันสร้างขึ้น โดยใช้ระยะเวลาถึง 3 วัน 3 คืน ท่ามกลางสายฝนบนยอดภูมะเขือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญและไทยสามารถรักษาที่มั่นดังกล่าวได้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ โดยได้เกิดปรากฏการณ์ที่คนไทยเรามีความเชื่อศรัทธา คือ พระอาทิตย์ทรงกลด​ ในระหว่างการปฏิบัติการก่อนที่จะมีพิธีอัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาเมื่อ 23 สิงหาคม 2568

ขณะเดียวกันกองบัญชาการกองทัพไทย​ โดยหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ที่ 53 ได้ปรับปรุงเส้นทางยุทธวิธีของการปฏิบัติงานกองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือและซำแต อำเภอกันทรลักษ์​ จังหวัดศรีสะเกษ โดยหน่วยได้จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็วจำนวน 10 นาย​ พร้อมยุทโธปกรณ์ เข้าดำเนินการขนย้ายสิ่งของและรื้อถอนร้านสะดวกซื้อ สาขาสถานีบริการน้ำมันบ้านผือ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนเมื่อ 24 กรกฎาคม​ จากจรวดโจมตี

พร้อมเน้นย้ำว่าทางกองทัพไทยและรัฐบาลพร้อมดูแลความมั่นคงของชาติและยืนเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ โดยพร้อมเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ชุมชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยปกติโดยเร็วที่สุด


ขณะที่การเยียวยาประชาชน​ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้แจ้งความคืบหน้าในที่ประชุม ศบ.ทก.​มีการสั่งจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือประชาชนไปแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้ 26 สิงหาคม ทางสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะนำงบประมาณสั่งจ่ายไปยังพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดแรกที่จะได้รับเงิน ต่อจากนั้นเป็นจังหวัดบุรีรัมย์​ สุรินทร์​ และศรีสะเกษ จะทยอยรับตามลำดับไป ซึ่งขึ้นอยู่บนหลักฐานและเอกสารต่างๆของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ​ หากสามารถยื่นเอกสารได้อย่างครบถ้วน เงินก็จะถึงได้อย่างเร็วขึ้น

โดยสำนักปลัดฯ​ ยืนยันว่าได้เล็งเห็นถึงปัญหาข้อขัดข้องและความล่าช้าในการสั่งจ่ายงบประมาณออกไปถึงประชาชน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขให้กระบวนการสั่งจ่าย มีความรวดเร็วเพิ่มมากยิ่งขึ้น จึงต้องขออภัยประชาชน

ขณะที่กันความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการตรวจพบการเข้ามาโจมตีระบบทางไซเบอร์ ทั้งระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆ และมีการแฮกข้อมูล ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจ​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ได้ดำเนินการเฝ้าระวังและตรวจสอบภัยคุกคามทางไซเบอร์ตลอด 24 ชั่วโมง​ ทุกวัน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเหตุการณ์ติดตามสถานการณ์และความเสียหายที่เกิดขึ้นและจะร่วมกับทาง ศบ.ทก.​กำหนดมาตรการที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินการระหว่างประเทศต่อไป​ บนข้อมูลที่มีหลักฐานชัดเจน หากตรวจพบเหตุการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ สามารถแจ้งศูนย์ประสานการรักษาระบบคอมพิวเตอร์แห่งชาติ​ หรือ Thai Search

ด้านนายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ระหว่าง วันที่ 26-28 สิงหาคม ซึ่งเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการกระทำที่กัมพูชาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในเขตอธิปไตยของไทย จนเกิดเหตุการณ์ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากระเบิดแล้วหลายครั้ง ซึ่งขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและเป็นการละเมิด อนุสัญญาออตตาวาอย่างร้ายแรง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเข้าพบกับหน่วยงานสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทุ่นระเบิด รวมถึงคณะกรรมการอนุสัญญาออตตาวา เรายืนยันด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์และให้เห็นว่าไทยยึดมั่นในความเปิดเผยอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายโน้มน้าวให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างจริงจัง และร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ระเบิดตามแนวชายแดน ทั้งนี้ไทยยังคงยืนหยัดดำเนินการเชิงรุกโดยพร้อมให้ความร่วมมือกับกลไกสากลทุกขั้นตอน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจและจริงใจ ว่าไทยไม่มีสิ่งใดต้องปกปิด

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังมีกำหนดเข้าพบสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน เพื่อย้ำว่าการดำเนินการทั้งหมดของไทยตั้งอยู่บนพื้นฐานสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ หรือ IHL ซึ่งขอใช้โอกาสนี้แสดงถึงการกระทำของกัมพูชาที่ขัด ต่อหลัก จริยธรรมไม่ว่าจะเป็นการโจมตีเป้าหมาย พลเรือน โดยการนำเด็ก มาใช้ในคลิปวีดีโอ รวมถึงการเปิดการใช้พื้นที่ชุมชนในฐานที่มั่นทางทหาร หรือนำคนชรา ให้ออกมาเป็นด่านหน้าซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรมและขัดต่อกติกาสากลอย่างสิ้นเชิง

นายนิกรเดช​ ย้ำว่า​ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต้องได้รับความคุ้มครองสูงสุด ประเทศไทยจะยังคงร่วมมือกับประชาคมโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธะกรณีของอนุสัญญาออตตาวาและหลักการสากล โดยกฎหมาย มนุษยธรรมระหว่างประเทศและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง

ขณะที่น.อ.กฤษณัส กาญจนกุล ผู้ช่วยเลขานุการ คณะทำงานบูรณาการระบบอากาศยานไร้คนขับ และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับกองทัพอากาศ ชี้แจง แนวปฏิบัติเมื่อตรวจพบโดรนในพื้นที่ต่างๆ กองทัพอากาศได้มีการกำหนดห้ามบินโดนในพื้นที่สำคัญ ที่ตั้งทางทหาร และหน่วยงานราชการ ตลอดจนพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยทุกพื้นที่ที่บินโดรน จะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงาน การบินพลเรือน โดยต้องมีการลงทะเบียน และบินได้เฉพาะกลางวันเท่านั้น ขณะเดียวกันหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมดได้บูรณาการการต่อต้านโดรน และสกัดกั้น รวมถึงการทำลาย และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร โดยร่วมมือกับทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ทั้งนี้หากพบการใช้งานโรนที่เข้าข่ายผิดกฎหมายสามารถแจ้ง วันเวลา สถานที่พบเห็น และภาพถ่ายหรือวิดีโอคลิป ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเร็ว.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย