อุตตมระบุ ไทยพร้อมแล้วที่จะปรับสู่ยุค 4.0

กรุงเทพฯ 12 พ.ย.- “อุตตม” ฟันธงประเทศไทยพร้อมและโอกาสมาถึงแล้วในการปรับเปลี่ยนประเทศตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 เพื่อนำพาประเทศก้าวสู่เศรษฐกิจที่แข่งขันได้ ยืนหยัดได้ในเวทีโลก มีความสามารถในการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ คนไทยต้องใช้โอกาสเหล่านี้ ในการสร้างพันธมิตรหุ้นส่วนการค้าการลงทุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในการสัมมนา TRANSFORM  เศรษฐกิจไทย ก้าวไกลสู่อนาคต จัดโดย บมจ.มติชน ว่า ตามที่ประเทศไทยมีนโยบายประเทศไทย 4.0 เพื่อปรับเปลี่ยนประเทศนั้น ขณะนี้ประเทศไทย มีความพร้อมและเริ่มต้นแล้วที่จะปรับเปลี่ยนประเทศและโอกาสได้มาถึงแล้ว แต่ต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน  โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจ ที่เริ่มต้นผ่านความร่วมมือแบบเป็นหุ้นส่วนที่แท้จริง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคม ประชาสังคมและภาคสถาบันการศึกษา โดยร่วมกันจัดทำแผนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อย่างจริงจัง  โดยคาดหวังได้ว่า การปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจ จะนำไปสู่การเป็นเศรษฐกิจ ที่สามารถสร้างความเข้มแข็ง สามารถสร้างความมั่งคั่งได้อย่างกระจายและครอบคลุม เกิดความยั่งยืนและช่วยแก้ไขปัญหาเดิมๆที่สั่งสมอยู่ได้ เช่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำและการเข้าถึงโอกาส เป็นต้น


นายอุตตม เชื่อว่า เศรษฐกิจที่ต้องการจะเห็นจากการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ คือ ประเทศไทยจะมีเศรษฐกิจที่แข่งขันได้ สามารถยืนหยัดได้ในเวทีโลก และมีความสามารถในการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ ขณะเดียวกันก็เป็นเศรษฐกิจที่เปิดโอกาส ให้คนไทยสร้างอาชีพได้ ตั้งแต่กลุ่มสตาร์อัพ ที่เกิดขึ้นใหม่ และคนที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ ขณะที่กำลังคนจะต้องมีความพร้อมในการขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรม อีกส่วนคือ บทบาทประเทศไทยในเวทีโลกเวทีภูมิภาค ต้องเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ของยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงประเทศ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีจุดเด่นหลายด้านในเวทีโลก ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งประเทศ ทรัพยากรและกำลังคนที่มี ดังนั้นต้องใช้โอกาสเหล่านี้ ในการสร้างพันธมิตรหุ้นส่วนการค้าการลงทุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศตามความเหมาะสมมาเป็นอีกส่วนหนึ่ง วันนี้คนไทยจะต้องร่วมมือกัน

“วันนี้ประเทศไทยมีความพร้อมและโอกาสมาถึง โดยไทยมีความพร้อมจากเศรษฐกิจเข้มแข็งพอในการปรับเปลี่ยนได้ แต่ยังมีจุดที่ต้องดำเนินการต่อจากปัญหาสะสมมาแต่เดิม โอกาสของประเทศมีเพราะไทยมีความโดดเด่นทั้งในเวทีระดับภูมิภาคและเวทีโลก ยุโรปเห็นว่า ประเทศไทยได้รับการจับตามองที่จะร่วมมือกัน โดยหลังการเมืองเดินหน้าปีหน้า ยุโรปสนใจเพราะประเทศไทย มีบทบาทเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค จึงต้องการมีความสัมพันธ์ที่ปกติกับประเทศไทย และยินดีที่ประเทศไทยเริ่มการปรับเปลี่ยนประเทศ ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับการใช้โอกาสอย่างพลาดไม่ได้ เพื่อที่จะสร้างหุ้นส่วนประโยชน์ร่วมกันกับประเทศต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด” นายอุตตม กล่าว

การที่ประเทศไทยมียุทธศาสตร์ ประเทศไทย 4.0 ในการปรับเปลี่ยนประเทศ โดยปรับเปลี่ยนสังคม  และเศรษฐกิจ ด้านเศรษฐกิจ ประเด็นแรก คือ มุ่งเศรฐษกิจเสริมแกร่งโครงสร้างเดิมที่มีอยู่ ซึ่งใช้ส่งออกเป็นหัวใจหลัก จะเน้นเรื่องความเข้มแข็งภายในประเทศให้มากขึ้น เพราะจะส่งผลต่อการส่งออกที่ดีตามมา และที่สำคัญเมื่อเศรษฐกิจเข้มแข็งจากภายในจะสามารถแก้ไขปัญหาสะสมได้ เช่นปัญหาความเหลื่อมล้ำ การเข้าถึงโอกาส และก้าวให้พ้นการรับจ้างผลิตสินค้า แต่ใช้นวัตกรรมสร้างสรรสิ่งใหม่ ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้


การปรับเปลี่ยนจะเป็นการเสริมแกร่งโดยปรับเปลี่ยนในมิติหลัก ๆ ได้แก่ เกษตรกรรมที่เป็นจุดเด่นของประเทศ เพราะมีความหลากหลายทางชีวะภาพ มีพืชผลเด่น ๆ หลายประเทศไม่มี แต่ต้องบริหารจัดการโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย และล้างปัญหาเดิม ๆ สินค้าล้นตลาดเกษตรกรรายได้ไม่เพียงพอ เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข โดยยกระดับขีดความสามารถด้านการเกษตรขึ้นมา เช่น เกษตรต้องก้าวสู่เกษตรชาญฉลาดใช้เทคโนโลยีเหมาะสมกับสิ่งที่มีอยู่และช่วยกันยกระดับอย่างครบวงจร ตั้งแต่ตลาดมาถึงการผลิต การแปรรูป การเพิ่มมูลค่า และถอยมาถึงเรื่องการปลูกที่เหมาะสม รวมถึงการทำวิจัย โดยดำเนินการอย่างเป็นระบบ และการก้าวสู่อุตสาหกรรมชีวภาพ ที่เป็นการต่อยอดอุตสาหกรรมการเกษตร จากอาหารกระป๋อง ให้สามารถใช้เกษตรต้นทางไปสร้างสรรสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้นไปอีก วันนี้กำลังส่งเสริมให้เกิดจริงจัง

อีกภาคคือ ภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรม จะเน้นการนำเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนาเข้ามาข่วยอย่างเหมาะสม เช่น ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาช่วย ซึ่งผู้ประกอบการอย่ากลัวแต่ต้องมีแผนมีเป้าหมายอย่างชัดเจน หากไม่นำมาใช้จะไม่สามารถแข่งขันได้ 

เรื่องสำคัญที่สุดคือ “คน” จะต้องพัฒนาร่วมกัน มี 2 เรื่องสำคัญ เติมเต็มศักยภาพสร้างโอกาสและเตรียมความพร้อมกำลังคนเพื่อเข้าสู่เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต โดยต้องมีนโยบายเศรษฐกิจที่จะบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ เน้นธุรกิจสตาร์อัพ วิสาหกิจรายใหม่ โดยจะต้องเติมเต็มเพิ่มเติบโตต่อไป ในโรงงานสามารถใช้ 5G เติมเต็มศักยภาพคนไทยทุกกลุ่มอายุ 

เตรียมความพร้อมคนไทยในอุตสาหกรรมเดิมและอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เตรียมความพร้อมโดยเฉพาะรายกลางและรายเล็ก ปัจจุบันประเทศไทยมีเอสเอ็มอีประมาณ 5 ล้านราย แต่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานรัฐเพียง 600,000 รายเท่านั้น ที่เหลือจึงไม่ทราบความพร้อม

วันนี้กระทรวงการคลังกำลังส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีบัญชีเดียว ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือต่างจากภาครัฐได้ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมเริ่มช่วยเหลือตั้งแต่ เอ็มเอสเอ็มอี คนตัวเล็ก ผู้ประกอบการใหม่สตาร์ทอัพ โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center: ITC 4.0) ขณะนี้มี 13 แห่งทั่วประเทศช่วยเหลือในการพัฒนาตัวเอง อีกส่วนคือ เอสเอ็มอีที่ล้ม แต่ยังมีศักยภาพ จะไม่ทอดทิ้งแต่จะช่วยให้สามารถลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง โดยช่วยเตรียมความพร้อมเข้าสู่โลกสมัยใหม่

อีกเรื่องที่สำคัญมากคือ การลงทุน เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานซึ่งจำเป็นรองรับเศรษฐกิจที่จะขยายตัว โดยแต่ละโครงการยึดโยง และลงทุนตามยุทธศาสตร์ให้เกิดพลังขับเคลื่อน เช่น โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต ซึ่งถูกออกแบบให้ยึดโยงกิจกรรมทางเศรษฐกิจออกไปทั่วประเทศไม่เฉพาะ 3 จังหวัดที่เป็นเขตอีอีซี เท่านั้น

นายอุตตม ย้ำว่า วันนี้ความพร้อมมี โอกาสมาประเทศ ไทยมีความพร้อมมีจุดเด่นในเวทีโลก ภูมิภาค ต้องสร้างหุ้นส่วนให้เต็มที่ ให้เวทีโลกเห็นการขับเคลื่อนของไทย ปีหน้าไทยเป็นประธานอาเซียน นายกรัฐมนตรีเตรียมการไว้แล้ว รัฐบาลไหนมาก็ใช้ประโยชน์ได้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย