อุตตมระบุ ไทยพร้อมแล้วที่จะปรับสู่ยุค 4.0

กรุงเทพฯ 12 พ.ย.- “อุตตม” ฟันธงประเทศไทยพร้อมและโอกาสมาถึงแล้วในการปรับเปลี่ยนประเทศตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 เพื่อนำพาประเทศก้าวสู่เศรษฐกิจที่แข่งขันได้ ยืนหยัดได้ในเวทีโลก มีความสามารถในการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ คนไทยต้องใช้โอกาสเหล่านี้ ในการสร้างพันธมิตรหุ้นส่วนการค้าการลงทุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในการสัมมนา TRANSFORM  เศรษฐกิจไทย ก้าวไกลสู่อนาคต จัดโดย บมจ.มติชน ว่า ตามที่ประเทศไทยมีนโยบายประเทศไทย 4.0 เพื่อปรับเปลี่ยนประเทศนั้น ขณะนี้ประเทศไทย มีความพร้อมและเริ่มต้นแล้วที่จะปรับเปลี่ยนประเทศและโอกาสได้มาถึงแล้ว แต่ต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน  โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจ ที่เริ่มต้นผ่านความร่วมมือแบบเป็นหุ้นส่วนที่แท้จริง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคม ประชาสังคมและภาคสถาบันการศึกษา โดยร่วมกันจัดทำแผนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อย่างจริงจัง  โดยคาดหวังได้ว่า การปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจ จะนำไปสู่การเป็นเศรษฐกิจ ที่สามารถสร้างความเข้มแข็ง สามารถสร้างความมั่งคั่งได้อย่างกระจายและครอบคลุม เกิดความยั่งยืนและช่วยแก้ไขปัญหาเดิมๆที่สั่งสมอยู่ได้ เช่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำและการเข้าถึงโอกาส เป็นต้น


นายอุตตม เชื่อว่า เศรษฐกิจที่ต้องการจะเห็นจากการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ คือ ประเทศไทยจะมีเศรษฐกิจที่แข่งขันได้ สามารถยืนหยัดได้ในเวทีโลก และมีความสามารถในการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ ขณะเดียวกันก็เป็นเศรษฐกิจที่เปิดโอกาส ให้คนไทยสร้างอาชีพได้ ตั้งแต่กลุ่มสตาร์อัพ ที่เกิดขึ้นใหม่ และคนที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ ขณะที่กำลังคนจะต้องมีความพร้อมในการขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรม อีกส่วนคือ บทบาทประเทศไทยในเวทีโลกเวทีภูมิภาค ต้องเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ของยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงประเทศ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีจุดเด่นหลายด้านในเวทีโลก ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งประเทศ ทรัพยากรและกำลังคนที่มี ดังนั้นต้องใช้โอกาสเหล่านี้ ในการสร้างพันธมิตรหุ้นส่วนการค้าการลงทุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศตามความเหมาะสมมาเป็นอีกส่วนหนึ่ง วันนี้คนไทยจะต้องร่วมมือกัน

“วันนี้ประเทศไทยมีความพร้อมและโอกาสมาถึง โดยไทยมีความพร้อมจากเศรษฐกิจเข้มแข็งพอในการปรับเปลี่ยนได้ แต่ยังมีจุดที่ต้องดำเนินการต่อจากปัญหาสะสมมาแต่เดิม โอกาสของประเทศมีเพราะไทยมีความโดดเด่นทั้งในเวทีระดับภูมิภาคและเวทีโลก ยุโรปเห็นว่า ประเทศไทยได้รับการจับตามองที่จะร่วมมือกัน โดยหลังการเมืองเดินหน้าปีหน้า ยุโรปสนใจเพราะประเทศไทย มีบทบาทเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค จึงต้องการมีความสัมพันธ์ที่ปกติกับประเทศไทย และยินดีที่ประเทศไทยเริ่มการปรับเปลี่ยนประเทศ ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับการใช้โอกาสอย่างพลาดไม่ได้ เพื่อที่จะสร้างหุ้นส่วนประโยชน์ร่วมกันกับประเทศต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด” นายอุตตม กล่าว

การที่ประเทศไทยมียุทธศาสตร์ ประเทศไทย 4.0 ในการปรับเปลี่ยนประเทศ โดยปรับเปลี่ยนสังคม  และเศรษฐกิจ ด้านเศรษฐกิจ ประเด็นแรก คือ มุ่งเศรฐษกิจเสริมแกร่งโครงสร้างเดิมที่มีอยู่ ซึ่งใช้ส่งออกเป็นหัวใจหลัก จะเน้นเรื่องความเข้มแข็งภายในประเทศให้มากขึ้น เพราะจะส่งผลต่อการส่งออกที่ดีตามมา และที่สำคัญเมื่อเศรษฐกิจเข้มแข็งจากภายในจะสามารถแก้ไขปัญหาสะสมได้ เช่นปัญหาความเหลื่อมล้ำ การเข้าถึงโอกาส และก้าวให้พ้นการรับจ้างผลิตสินค้า แต่ใช้นวัตกรรมสร้างสรรสิ่งใหม่ ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้


การปรับเปลี่ยนจะเป็นการเสริมแกร่งโดยปรับเปลี่ยนในมิติหลัก ๆ ได้แก่ เกษตรกรรมที่เป็นจุดเด่นของประเทศ เพราะมีความหลากหลายทางชีวะภาพ มีพืชผลเด่น ๆ หลายประเทศไม่มี แต่ต้องบริหารจัดการโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย และล้างปัญหาเดิม ๆ สินค้าล้นตลาดเกษตรกรรายได้ไม่เพียงพอ เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข โดยยกระดับขีดความสามารถด้านการเกษตรขึ้นมา เช่น เกษตรต้องก้าวสู่เกษตรชาญฉลาดใช้เทคโนโลยีเหมาะสมกับสิ่งที่มีอยู่และช่วยกันยกระดับอย่างครบวงจร ตั้งแต่ตลาดมาถึงการผลิต การแปรรูป การเพิ่มมูลค่า และถอยมาถึงเรื่องการปลูกที่เหมาะสม รวมถึงการทำวิจัย โดยดำเนินการอย่างเป็นระบบ และการก้าวสู่อุตสาหกรรมชีวภาพ ที่เป็นการต่อยอดอุตสาหกรรมการเกษตร จากอาหารกระป๋อง ให้สามารถใช้เกษตรต้นทางไปสร้างสรรสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้นไปอีก วันนี้กำลังส่งเสริมให้เกิดจริงจัง

อีกภาคคือ ภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรม จะเน้นการนำเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนาเข้ามาข่วยอย่างเหมาะสม เช่น ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาช่วย ซึ่งผู้ประกอบการอย่ากลัวแต่ต้องมีแผนมีเป้าหมายอย่างชัดเจน หากไม่นำมาใช้จะไม่สามารถแข่งขันได้ 

เรื่องสำคัญที่สุดคือ “คน” จะต้องพัฒนาร่วมกัน มี 2 เรื่องสำคัญ เติมเต็มศักยภาพสร้างโอกาสและเตรียมความพร้อมกำลังคนเพื่อเข้าสู่เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต โดยต้องมีนโยบายเศรษฐกิจที่จะบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ เน้นธุรกิจสตาร์อัพ วิสาหกิจรายใหม่ โดยจะต้องเติมเต็มเพิ่มเติบโตต่อไป ในโรงงานสามารถใช้ 5G เติมเต็มศักยภาพคนไทยทุกกลุ่มอายุ 

เตรียมความพร้อมคนไทยในอุตสาหกรรมเดิมและอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เตรียมความพร้อมโดยเฉพาะรายกลางและรายเล็ก ปัจจุบันประเทศไทยมีเอสเอ็มอีประมาณ 5 ล้านราย แต่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานรัฐเพียง 600,000 รายเท่านั้น ที่เหลือจึงไม่ทราบความพร้อม

วันนี้กระทรวงการคลังกำลังส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีบัญชีเดียว ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือต่างจากภาครัฐได้ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมเริ่มช่วยเหลือตั้งแต่ เอ็มเอสเอ็มอี คนตัวเล็ก ผู้ประกอบการใหม่สตาร์ทอัพ โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center: ITC 4.0) ขณะนี้มี 13 แห่งทั่วประเทศช่วยเหลือในการพัฒนาตัวเอง อีกส่วนคือ เอสเอ็มอีที่ล้ม แต่ยังมีศักยภาพ จะไม่ทอดทิ้งแต่จะช่วยให้สามารถลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง โดยช่วยเตรียมความพร้อมเข้าสู่โลกสมัยใหม่

อีกเรื่องที่สำคัญมากคือ การลงทุน เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานซึ่งจำเป็นรองรับเศรษฐกิจที่จะขยายตัว โดยแต่ละโครงการยึดโยง และลงทุนตามยุทธศาสตร์ให้เกิดพลังขับเคลื่อน เช่น โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต ซึ่งถูกออกแบบให้ยึดโยงกิจกรรมทางเศรษฐกิจออกไปทั่วประเทศไม่เฉพาะ 3 จังหวัดที่เป็นเขตอีอีซี เท่านั้น

นายอุตตม ย้ำว่า วันนี้ความพร้อมมี โอกาสมาประเทศ ไทยมีความพร้อมมีจุดเด่นในเวทีโลก ภูมิภาค ต้องสร้างหุ้นส่วนให้เต็มที่ ให้เวทีโลกเห็นการขับเคลื่อนของไทย ปีหน้าไทยเป็นประธานอาเซียน นายกรัฐมนตรีเตรียมการไว้แล้ว รัฐบาลไหนมาก็ใช้ประโยชน์ได้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นนั่งนายกฯ ควบ มท.1 เร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน

พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย.- “อนุทิน” ลั่นไม่ติดหนี้บุญคุณใคร นอกจากประชาชน โพล่งนั่งนายกฯ ควบ มท.1 ประกาศเร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน ยันไม่มีแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. ทุกอย่างกางบนโต๊ะโปร่งใส ไม่ยัดเยียดปรุงแต่ง หรือกลั่นแกล้งใคร เหมือนที่เคยโดน สั่งล่วงหน้า ครม.หนู เวลาน้อยแค่ 4 เดือน ต้องไม่เหนื่อย-ไม่ป่วย-ไม่ลา-ทำงานไม่มีวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า นับเป็นพระมหากรุณากรุณาธิคุณ แก่ตัวกระผมอันหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ผมยืนยันด้วยความตระหนักดีว่าการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ อาจมีข้อจำกัดหลายประการหลายด้าน ในการปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ผมให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน ว่า ตนและคณะรัฐมนตรีของผมทุกคน จะมุ่งมั่นทุ่มเททำงานด้วยความไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย จะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรามีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกำลังกาย กำลังสมอง เพื่อให้ประเทศไทยของเราได้หลุดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ โดยเร็วที่สุด ต้องขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความมั่นใจโดยผ่านความไว้วางใจและการลงคะแนนเสียงของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาชนที่ได้ให้การสนับสนุนตนให้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า และได้เสียสละให้ประเทศไทยมีทางออกและหลังจากลงคะแนนเสียงเรียบร้อยแล้ว ได้กลับไปอยู่ในเจตนารมณ์เดิมของพรรคประชาชนคือการเป็นฝ่ายตรวจสอบ ตนได้ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรรกล้าธรรม […]

“อนุทิน” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32

พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย. – “อนุทิน ชาญวีรกูล” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ถวายสัตย์จะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มกําลังความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรม ขณะที่พรรคร่วมฯ เข้ายินดีพร้อมเพรียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 กันยายน 2568) เวลา 11.30 น. ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคภูมิใจไทย โดยได้อัญเชิญไปยังสถานที่ในการรับสนองพระบรมราชโองการฯ ซึ่งพรรคจัดไว้ที่ชั้น 4 ของอาคารที่ทำการพรรคภูมิใจไทย จากนั้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

สส. รวมชื่อยื่นศาลวินิจฉัย “อนุทิน-ณัฐพงษ์” พ้นสมาชิกภาพ ปมทำ MOA

รัฐสภา 7 ก.ย.-เปิดหนังสือ สส. รวมชื่อส่งประธานสภาฯ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “อนุทิน-ณัฐพงษ์” พ้นสมาชิกภาพ ปมทำ MOA ยุบสภา 4 เดือน-ทำประชามติแก้ รธน. แลกโหวตนั่งนายกฯ เหตุเข้าข่ายครอบงำชี้นำพรรคการเมือง ก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ วันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสภาฯ ได้ร่วมกันเข้าชื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็น สส. ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคประชาชน และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (2) ประกอบมาตรา 185 (1) และ (2) ซึ่งประทับตรารับหนังสือโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 เวลา 11.38 น. […]