เชียงใหม่ 17 ต.ค.- คณะแพทยศาสตร์ มช.หารายได้สมทบทุนสร้างอาคารเก็บร่างอาจารย์ใหญ่เป็นสถานที่ศึกษาวิจัยทางการแพทย์ จัดงานแข่งขันฟุตบอลมหากุศล 10 พ.ย.นี้ “ต๊อด-ปิติ เต๋า-สมชาย” นำทีมสิงห์ออลสตาร์ชุดใหญ่ลงสนาม
วันนี้ (17 ต.ค.) ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะ รวมทั้งนายสมชาย หรือเต๋า เข็มกลัด และนักแสดงชื่อดัง ร่วมแถลงจัดงานแข่งขันฟุตบอลมหากุศล วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ณ สนามกีฬากลาง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นการแข่งขันระหว่างทีมสิงห์ออลสตาร์ นำโดย ต๊อด-ปิติ ภิรมย์ภักดี, เต๋า-สมชาย เข็มกลัด หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ มอส-ปฏิภาณ, และจอหน์ บราโว พบกับทีม VIP คณะแพทย์ มช. นำโดย ศ.นพ.บรรณกิจ นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมคลินิกฟุตบอลให้กับเยาวชนด้วย ซึ่งการจัดงานฟุตบอลมหากุศลครั้งนี้เป็นไปตามโครงการ“สร้างบ้านหลังใหม่..แด่อาจารย์ใหญ่ผู้มีพระคุณ”เพื่อสมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก จัดสร้างอาคารที่ได้มาตรฐานเป็นสถานที่รักษาสภาพร่างของอาจารย์ใหญ่ และห้องปฏิบัติงานวิจัย รวมทั้งพัฒนาระบบการบริหารจัดการร่างอาจารย์ใหญ่ทางวิชาการ เป็นทั้งสถานที่ศึกษาดูงานและการศึกษา
ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) พญ.ผาสุก มหรรฆานุเคราะห์ หัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ กล่าวว่า สถานที่เก็บรักษาสภาพร่างอาจารย์ใหญ่เป็นส่วนสำคัญ ปัจจุบันคณะแพทยศาสตร์ มช. มีพื้นที่จำกัดและไม่เพียงพอต่อการรองรับร่างอาจารย์ใหญ่ ประกอบกับบริเวณโดยรอบเป็นอาคารเรียน และห้องปฏิบัติการต่าง ๆ ทำให้ไม่สามารถขยายพื้นที่ได้ คณะแพทยศาสตร์จึงมีโครงการสร้าง “บ้านหลังใหม่…แด่อาจารย์ใหญ่ผู้มีพระคุณ” ซึ่งสถานที่จัดสร้างได้รับความอนุเคราะห์จากวัดลัฏฐิวัน (พระนอนขอนตาลศักดิ์สิทธิ์) ในการบริจาคที่ดินของวัดประมาณ 1 ไร่ เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้าง ซึ่งใช้งบประมาณก่อสร้างอาคารประมาณ 30 ล้านบาท โดยตัวอาคารเป็นลักษณะอาคาร 2 ชั้น ประกอบด้วยห้องดองร่างห้องจัดทำโครงกระดูกอาจารย์ใหญ่ ห้องจัดเก็บโครงกระดูก และห้องปฏิบัติงานวิจัยอาจารย์ใหญ่
ด้านเต๋า สมชาย กล่าวว่า กว่า 20 ปี ที่ร่วมตั้งทีมฟุตบอลมาเพื่อทำกิจกรรมการกุศลของศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดง เช่นเดียวกับครั้งนี้รู้สึกดีใจมากได้มีส่วนร่วม และเตรียมจัดชุดใหญ่มาสร้างกุศลร่วมกัน ขอเชิญชวนผู้ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลและแฟนคลับสิงห์ออลสตาร์ร่วมเชียร์และให้กำลังใจในงานมหากุศลครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย
