fbpx

วัยรุ่นชอบ Gen Z เป็น CEO ลุย ทำ MOU กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เชียงใหม่ 28 ม.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์เผยกลุ่มวัยรุ่นชื่นชอบโครงการปั้น Gen Z เป็น CEO ของกรมส่งเสริมการค้านะหว่างประเทศมากเสียงตอบรับปี 64 หลายหมื่นคนเข้าร่วมกิจกรรมมาก พร้อมตั้งเป้าปี 65 เดินหน้าจัดโครงการนี้ให้มากขึ่น ลุยลงนามทำ MOU กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่หวังดึงคนรุ่นใหม่เป็น CEO เพื่อสร้างผลผลิตสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จึงและดึงรายได้ทั้งในและต่างประเทศด้วย


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายใต้โครงการปั้น Gen Z เป็น CEO พร้อมด้วยนายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับการลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการ (MoU) ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการเพิ่มพูนองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศให้กับน้องๆนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่หรือน้องๆ Gen Z ซึ่งเป็นความหวังของครอบครัวและประเทศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต ซึ่งเป็นนโยบายที่ตนมอบให้กับกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการเพราะทราบว่าเด็กยุคใหม่ส่วนใหญ่อยากเป็นนายตัวเอง จึงเป็นที่มาของนโยบายที่ตนมอบให้กับกระทรวงพาณิชย์จัดหลักสูตร ปั้น Gen Z เป็น CEO เพื่อให้มีโอกาสเติบโตเป็นนายของตัวเองตามฝันที่เรามี ในประเทศมีน้องๆ Gen z ประมาณ 13,000,000 คน มีความสำคัญอย่างยิ่ง และมีความพร้อมในเรื่องการศึกษาการใช้เทคโนโลยี เติบโตในสังคมเทคโนโลยี ถ้าได้รับองค์ความรู้สามารถเติบโตเป็น CEO ในอนาคตได้ จะกลายเป็นแม่ทัพทางเศรษฐกิจให้กับครอบครัว ตนเองและประเทศได้ต่อไป


อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ได้ทำมาปีกว่าแล้ว จนถึงสิ้นปี 64 ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสถาบันการศึกษา 94 สถาบัน สามารถปั้น Gen Zให้มีองค์ความรู้เพื่อเตรียมเป็น CEOในอนาคตได้ถึง 20,000 คน และตั้งเป้าหมายปี 65 จะทำให้ได้อีก 20,000 คน คาดว่าจะได้รับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ในปีก่อนหน้านี้ เฉพาะภาคเหนือ เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยฟาร์ อีสเทอร์น มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นต้น และยังมีสถาบันอาชีวศึกษาอีกหลายสถาบันทางภาคเหนือที่เข้ามาร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแม่ทัพทางการค้าเศรษฐกิจในอนาคต

ทั้งนี้ หลักสูตรที่เตรียมไว้สำหรับปีใหม่นี้ เช่นความรู้เบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก ความรู้ขั้นตอนศุลกากร พิธีการศุลกากร สิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร ซึ่งเกิดจากความตกลงทางการค้าทั้งระบบทวิภาคีและพหุภาคี เช่น อาเซียนหรือ ไทย-uk และ RCEP ที่เป็นข้อตกลงทางการค้าใหญ่ที่สุดในโลกครอบคลุม GDP 1 ใน 3 ของโลกครอบคลุมประชากร 1 ใน 3 ของโลก มีสมาชิก 15 ประเทศ บังคับใช้เมื่อ 1 ม.ค. 65 มีผลให้ประเทศไทยส่งสินค้าออกไปยังผู้ค้าอีก 14 ประเทศภาษีเป็นศูนย์ 39,000 กว่ารายการ หรือหลักสูตรเจาะลึกแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์และระบบโลจิสติกส์ในระบบการค้าออนไลน์แบบครบวงจร ที่มีเจ้าของแพลตฟอร์มระดับโลกให้ความรู้ทั้ง True HUAWEI  TikTok เป็นต้น และวิชาทรัพย์สินทางปัญญาการจดทะเบียนเพื่อคุ้มครองผลิตภัณฑ์ของเราไม่ให้ถูกละเมิด และสินค้าและบริการที่คาดว่าจะมีศักยภาพในอนาคตแนะแนวธุรกิจวิเคราะห์สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศโดยผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ส่งออกตัวจริงที่ประสบความสำเร็จ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเราทุกคนต่อไปและที่สำคัญเป็นพิเศษปีนี้ตนมอบเป็นนโยบายว่าจะนำ Soft Power เป็นคีย์หลักสำหรับการให้องค์ความรู้ ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพความหลากหลายและไม่แพ้ใครในโลก เราจะเป็นมหาอำนาจด้าน Soft Power ได้ไม่ยาก หรือนำความเป็นคนไทยมาขายคือทรัพยากรล้ำค่าที่สุด ที่เป็นพลังหลักของ Soft Power ของประเทศไทยทั้งวันนี้และวันหน้า เพื่อสอดแทรกในภาพยนตร์อนิเมชั่นดิจิทัลคอนเทนท์ เมื่อเรียนจบแล้วหรือระหว่างเรียนจะมีการฝึกงานกับแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงระดับโลกเพื่อเป็นช่องทางส่งออกในอนาคต ทั้ง EXIM Bank และ Bitkub ที่กำลังมีชื่อเสียง โดยหลักสูตรนี้คือความคุ้มค่าที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะได้ลงนามกับกระทรวงพาณิชย์ในวันนี้ว่าจะเป็นประโยชน์กับพวกเราทั้งสถาบันและน้องๆ Gen Z ขอแสดงความยินดีกับน้องๆและในอนาคตเมื่อเรียนเข้าใจทั้งหมดและปฏิบัติได้จริงแล้ว เราจะกลายเป็นแม่ทัพทางเศรษฐกิจทั้งของตนเองครอบครัวและประเทศชาติต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เรือสินค้าชนสะพานพังในสหรัฐ

บัลติมอร์ 26 มี.ค.- สื่อในสหรัฐรายงานว่า เกิดเหตุเรือสินค้าชนสะพานสำคัญในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ทำให้สะพานพังลงไปในแม่น้ำ เว็บไซต์บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์รายงานว่า มีผู้โพสต์คลิปผ่านเอ็กซ์ (X) ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่เรือลำใหญ่ชนกับคานรองรับของสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นจากเรือ จากนั้นสะพานได้ทยอยพังลงไปในแม่น้ำ ขณะที่สำนักงานเครื่องกลเบย์แอเรียถ่ายทอดสดทางยูทูบเมื่อเวลา 01:28 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เห็นเรือลำใหญ่ชนสะพานดังกล่าว จากนั้นเมื่อเวลา 03:00 น.เห็นโครงสร้างสะพานแตกเป็นส่วน ๆ และจมอยู่ในแม่น้ำ บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์ได้ตรวจสอบแผนที่การเดินเรือในเว็บไซต์เวสเซิล ไฟน์เดอร์ (VesselFinder) พบว่า เมื่อเวลา 02:50 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เรือดาลี (Dali) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าติดธงชาติสิงคโปร์ ยังคงจอดนิ่งอยู่ใต้สะพาน สะพานแห่งนี้เปิดใช้งานเมื่อเดือนมีนาคม 2520 มีความยาวทั้งหมด 2,632.3 เมตร.-814.-สำนักข่าวไทย

ศาลยกฟ้อง “ชวน หลีกภัย” หมิ่นประมาท “ทักษิณ”

“ชวน” อดีตนายกรัฐมนตรี เผยศาลยกฟ้องคดี “ทักษิณ” ฟ้องหมิ่นประมาท ชี้มีสิทธิ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่ได้ประสบมาเพราะเป็นนักการเมืองและเป็นอดีตนายกรัฐมนต

“ทนายตั้ม” แฉเส้นทางเงินเว็บพนันโยง “ส่วยตัวท็อป” น็อก “บิ๊ก ตร.”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ตั้งโต๊ะเปิดหลักฐานแฉขบวนการส่วยตัวท็อปแบบม้วนเดียวจบ โยงบิ๊กตำรวจรับเงินเว็บพนัน

ข่าวแนะนำ

ให้ประกันตัว “จักรภพ” นัดพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.

ตำรวจกองปราบฯ อนุญาตประกันตัว “จักรภพ เพ็ญแข” วางหลักทรัพย์ข้อหาละ 200,000 บาท นัดหมายพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.นี้

“ทนายตั้ม” มอบหลักฐานแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยง “บิ๊ก ตร.” ให้ “บิ๊กเต่า”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด นำหลักฐานมอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังออกมาแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยงถึงบิ๊กตำรวจ

“จักรภพ เพ็ญแข” ถึงกองปราบฯ รายงานตัวตามหมายจับ

“จักรภพ เพ็ญแข” ถึงกองปราบฯ รายงานตัวตามหมายจับคดีครอบครองอาวุธปืน -อั้งยี่ เมื่อปี 2560 ด้านทนายความเตรียมหลักทรัพย์ 2-3 แสนบาทต่อคดี ไว้ยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวน

พบร่างเหยื่อสะพานถล่มแล้ว 2 ราย

ทีมนักประดาน้ำสหรัฐ พบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุสะพานพังถล่มในเมืองบัลติมอร์ แล้ว 2 ราย เป็นคนงานชาวเม็กซิโกและชาวกัวเตมาลา