ปทุมธานี 16 ต.ค. – ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา พ่อและแม่เลี้ยงที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายเด็กวัย 14 ปี จนเด็กทนไม่ไหวต้องปั่นจักรยานหนีข้ามจังหวัดไปหาแม่แท้ๆ เบื้องต้นพ่อให้การยอมรับ แต่แม่เลี้ยงยังให้การภาคเสธ
น.ส.นรินทร แม่เลี้ยง และนายอัครเศรษฐ์พร พ่อของเด็กชายวัย 14 ปี ถูกตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี คุมตัวมาสอบปากคำ กรณีแม่ชาวระยองพาเด็กชายวัย 14 ปี เข้าแจ้งความว่าถูกแม่เลี้ยงทำร้ายร่างกายมานานถึง 7 ปี จนทนไม่ไหว อาศัยจังหวะที่แม่เลี้ยงไม่อยู่ ปั่นจักรยานหนีออกจากบ้านใน จ.ปทุมธานี มาที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนโทรให้แม่แท้ๆ ที่อยู่ระยองมารับ เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และกระทำการอันเป็นความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งนายอัครเศรษฐ์พร พ่อเด็ก ให้การยอมรับทำไปเพื่อสั่งสอนลูก แต่แม่เลี้ยงยังคงให้การภาคเสธ
ขณะที่ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า คดีนี้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง ได้เข้าไปดูแลเด็กและผู้ปกครอง พร้อมประสานตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีตรวจสอบ ตำรวจจึงจัดรถไปรับเด็กและแม่มาจากระยอง เพื่อสอบปากคำผ่านสหวิชาชีพ ขณะเดียวกันได้สอบปากคำพยานและสืบค้นพยานแวดล้อม พบว่าพ่อและแม่เลี้ยงทำทารุณกรรมกับเด็กจริง จึงขอศาลออกหมายจับ จากนั้นชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามตัวแม่เลี้ยงและพ่อเด็ก พบว่าหนีจากบ้านพัก จ.ปทุมธานี ไปซ่อนตัวอยู่กับญาติในเขตสายไหม จึงตามไปจับกุม ส่วนที่แม่เลี้ยงยังให้การภาคเสธ เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอผลตรวจร่างกายของแพทย์ เพื่อพิสูจน์ว่าบาดแผลทั้งเก่าและใหม่ของเด็ก สอดคล้องกับเหตุการณ์และวัตถุพยานที่ตรวจยึดมา รวมถึงนำพยานแวดล้อมอื่นๆ มาประกอบสำนวน ขณะนี้ได้สอบพยานไปหลายปาก เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องทำให้เด็กอยู่ในสังคมได้โดยไม่มีปมในใจ. – สำนักข่าวไทย