fbpx

กฟภ.หนุนจัดงาน Thailand Lighting Fair 2018

กรุงเทพฯ 11 ต.ค. – กฟภ.จับมือเมสเซ่แฟรงเฟิร์ตจัดงาน Thailand Lighting Fair 2018 ระหว่าง 8 – 10 พ.ย.นี้


นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. และเมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต  แถลงความพร้อมในการจัดงาน Thailand Lighting Fair 2018 งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีนานาชาติด้านแสงสว่างที่รวบรวมสินค้านวัตกรรมไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดในอาเซี่ยน ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ภายใต้แนวคิด The Future of Light : smart, sustainable, human-centric ระหว่างวันที่ 8 – 10 พฤศจิกายนนี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทคบางนา 

ตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนยกลางด้านนวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างในภูมิภาคอาเซี่ยน รวมทั้งต้องการผลักดันให้เป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการประหยัดพลังงานให้กับผู้ประกอบการในธุรกิจไฟฟ้าแสงสว่างและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้นำความรู้ไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างมั่งคงในระยะยาว


ปีนี้ กฟภ.ได้จัดนิทรรศการนำเสนอนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ อาทิ PEA HOME CONNEXT,  PEA IHAPM รวมถึง ESCO Facilitator ซึ่งเป็นธุรกิจด้านการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพและธุรกิจของบริษัทในเครือ กฟภ. คือ บริษัท PEA ENCOM International เช่น Solar Rooftop, รถยนต์ไฟฟ้า FOMM , PEA Volta และรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า เป็นต้นไป

กฟภ.คาดหวังว่า งาน Thailand Lighting Fair 2018 นอกจากเป็นเวทีในการเจรจาธุรกิจ ซื้อขายผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและแสงสว่างสำหรับผู้ซื้อและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ช่วยส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกภาคส่วนแล้ว ยังมุ่งหวังให้งานนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างองค์ความรู้เรื่องแสงในมิติอื่น ๆ ให้กับนิสิต นักศึกษาและผู้สนใจทั่วไปอีกด้วย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553