เจ้าหนี้ “นกน้อย” พร้อมไกล่เกลี่ยขอโฉนดที่ดินคืน

อุดรธานี 28 ส.ค.-เจ้าหนี้ “นกน้อย อุไรพร” ยื่นหนังสือขอให้ตำรวจช่วยไกล่เกลี่ยขอโฉนดที่ดินคืน ยืนยันไม่ได้ร่วมลงทุน แต่ให้คู่กรณียืมโฉนดไปจำนองเพื่อกู้เงิน มาเปิดวงเดินสายแสดง


ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี วันนี้เวลา 13.45 น. นางสุดารัตน์ ภูผานี นักธุรกิจ ที่แจ้งความกล่าวหา “นกน้อย อุไรพร” ว่าฉ้อโกง พร้อมนายพีระนัทธ์ วงศ์สวัสดิ์ ทนายความ และญาติของนางสุดารัตน์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ และ พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.สอบสวน เจ้าของคดี เพื่อยื่นหนังสือร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรม ต้องการได้โฉนดที่ดินคืน หลังจากที่ นกน้อย อุไรพร เปิดบ้านแถลงข่าว ว่าไม่ได้เป็นการยืมเงิน แต่เป็นการร่วมลงทุนด้วยกัน ซึ่งการแถลงข่าวของ นกน้อย อุไรพร ไม่เป็นความจริง เกรงจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และความเสียหาย

ตำรวจอุดรฯ เร่งสอบคดี “นกน้อย อุไรพร” ยันเป็นธรรมทุกฝ่าย


นายพีระนัทธ์ วงศ์สวัสดิ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมานางสุดารัตน์ ได้เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี ตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินนอกระบบ และขอความเป็นธรรม เพื่อจะเอาโฉนดที่ดินคืนมา ซึ่งที่ผ่านมาทางนางสุดารัตน์ ได้ให้ข้อเท็จจริงกับทางศูนย์ดำรงธรรม จนมาถึงชั้นพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เมืองอุดรธานี และได้ให้ปากคำข้อเท็จจริงไปแล้ว แต่ปรากฏว่าทางฝ่ายนกน้อย ออกมาโต้แย้งว่า ไม่เคยได้รับเงิน หรือเป็นการร่วมลงทุนการทำธุรกิจ ทางเราจึงมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม เพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนช่วยไกล่เกลี่ย 


“หรือหากไกล่เกลี่ยไม่ได้ ก็ขอให้สอบประเด็นเพิ่มเติม เกี่ยวกับที่ทางนกน้อย อ้างว่าเป็นการร่วมลงทุน เงิน 3.8 ล้านบาท ที่อ้างว่าร่วมลงทุน ได้มีการแบ่งผลประโยชน์ให้นางสุดารัตน์ จริงหรือไม่ หรือหากไม่เคยแบ่งเงิน จะอ้างว่าเป็นการร่วมลงทุนได้อย่างไร โดยที่ผานมาทางเรามีหลักฐานที่มอบให้พนักงานสอบสวนไปแล้วว่า เงิน 3.8 ล้านบาท หรือการจ่ายดอกเบี้ยต่างๆ ว่าใครเป็นคนรับ หรือ ใครเป็นคนจ่าย ส่วนข้อเท็จจริงในเรื่องของคดีความ อยากให้พนักงานสอบสวนสรุปสำนวน เพื่อไกล่เกลี่ยให้ เพราะอยากได้ที่ดินที่เป็นสมบัติของพ่อแม่คุณสุดารัตน์ ไม่อยากให้เป็นคดีความ เพราะต้องเดินทางกลับอเมริกาในเดือนกันยายน นี้”

ส่วนนางสุดารัตน์ ภูผานี นักธุรกิจที่แจ้งความ นกน้อย อุไรพร ฉ้อโกง เปิดเผยว่า รู้จักกับแม่นกน้อย ผ่านทางหลวงพ่อรูปหนึ่ง ที่ตนนับถือเป็นพ่อ โดยตนส่งให้หลวงพ่อเรียนจบปริญญาเอก ส่วนตนจบเพียงแค่ชั้น ป.6 เท่านั้น ซึ่งหลวงพ่อพูดอะไร เราก็ต้องฟัง ตอนนั้นท่านมาขอให้ตนช่วยแม่นกน้อย ที่ตนก็รู้จักมานานเกือบ 20 ปี โดยตนเคยขึ้นไปมอบดอกไม้ให้แม่นกน้อย บนเวที หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน จนประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นตนเดินทางกลับไทย หลวงพ่อท่านบอกให้ตนช่วยแม่นกน้อยด้วย ถ้าตนไม่ช่วยตอนนั้น แม่นกน้อย                    

“ตอนนั้นแม่นกน้อย ติดหนี้ติดสินมากมาย ค่าข้าวก็ติดหนี้เป็นแสน ฉันจึงคิดว่า ถ้าเราไม่ช่วยลูกวงกว่า 200 ชีวิต จะอยู่กันอย่างไร ภาระเขามี ครอบครัวเขามี จึงตัดสินใจ นำที่ดินแปลงนี้มาช่วย โดยหลวงพ่อท่านเป็นผู้รับรองให้ โดยตอนทำแรกๆ ไม่ได้ทำสัญญาอะไร คือ เรารักหลวงพ่อ เราจึงต้องเชื่อคำของหลวงพ่อ จึงต้องทำตามที่หลวงพ่อขอให้ช่วย โดยตอนนั้นเราเข้าช่วยเมื่อประมาณ 4 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งทางแม่นกน้อย บอกว่า 2 เดือน เขาจะเอาโฉนดมาคืนให้ จนถึงวันนี้ที่มีการทวงอยู่ตลอด ก็บอกปัดว่า สปอนเซอร์ยังไม่ให้เงิน”

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ทางทนายความของแม่นกน้อย บอกพร้อมไกล่เกลี่ยเรี่องที่เกิดขึ้น นางสุดารัตน์ ตอบว่า ตนพร้อมและยอมที่จะไกล่เกลี่ย เรายินดีมาที่จะมาเจรจา เพียงแต่ขอแค่โฉนดที่ดินคืนเท่านั้น เรื่องก็จบกัน และจะไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น เราอยากได้โฉนดคืนมา เพื่อนำมาแบ่งขาย ซึ่งยอมรับว่าตอนนี้ตนเองลำบากมาก ธุรกิจที่ทำต้องลงทุนเพิ่ม จึงอยากได้ที่ดินคืน เพื่อนำมาแบ่งขายไปลงทุนของเราที่อเมริกา ที่ทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ และหวยลอตโต้ ตนยอมที่จะเจรจาทั้งหมด เพียงขอโฉนดคือมาเท่านั้นเอง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงไม่ฟ้องทางแพ่ง แต่มาฟ้องอาญาเรื่องฉ้อโกง นางสุดารัตน์ ตอบว่า คือเราก็ไม่ได้ฟ้องเรื่องฉ้อโกง เพียงแต่เราตามทวงโฉนดที่ดิน ที่ทวงมาถึง 4 ปี แล้วก็ถูกตอบปัดมาตลอด บางครั้งเราโทรศัพท์จากอเมริกากลับมาหา ซึ่งเวลาที่นั่นก็ไม่ตรงกัน เพราะเราเป็นกลางวัน ทางไทยก็เป็นกลางคืน จนทำให้เราไม่ได้หลับได้นอน เพราะโทรมาแล้วก็ไม่รับโทรศัพท์เราเลย มาไทยเที่ยวนี้ทางเขาก็โทรบอกให้เราบินกลับมา ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม ว่าจะไถ่โฉนดคืนให้ โดยเขาบอกว่าจะได้เงินวันที่ 30 พฤษภาคม พอเรามาถึงก็บอกว่าเงินถูกขโมย แล้วก็บอกว่ารอเปิดบริษัทใหม่ แล้วก็บอกว่าสปอนเซอร์ที่จะเขียนเช็คให้ไม่อยู่ไปเมืองนอก และส่วนมากเทื่อเราโทรหาก็แทบจะไม่ยอมรับสายเลย น้อยมากที่เขาจะยอมรับสายเรา จนเราต้องเข้าไปที่บ้านเขาเอง วันเว้นวันเลย ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม เป็นต้นมา 

“ถ้าแม่นกน้อย จะไกล่เกลี่ย ให้ไปไถ่คืนโฉนดมาเลย เราขอแค่โฉนดคืนเท่านั้น ไม่ขอรับเงินสด ทั้งนี้ตอนนำโฉนดไปจำนอง ฉันเป็นคนทำสัญญา ที่เราต้องเป็นผู้เซนต์ชื่อเอง ถ้าเราจะมอบอำนาจทางนายทุนเขาไม่ยอมอยู่แล้ว แต่ตอนที่ไปขอเงินจากนายทุนตอนนั้น ทางแม่นกน้อยก็เข้าไปด้วยกัน และมีอีกหลายคนที่เข้าไปในตอนนั้น และยืนยันว่าตนถึงวันนี้จะไม่มีการฟ้องอะไรเพิ่มอีก เราแค่ต้องการเจรจากัน ขอโฉนดคืนเท่านั้น และจะไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น เพราะตอนที่เขาลำบาก เราก็ยื่นมือเข้าช่วย แต่มาถึงตอนนี้เราลำบาก เราขอความเห็นใจบ้าง ขอความเป็นธรรมกับเราบ้าง”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังจะขอท้าไปสาบานกับเจ้าปู่ศรีสุทโธ ที่คำชะโนดอีกหรือไม่ นางสุดารัตน์ ตอบว่า ถ้าเขามาเจรจาก็คงไม่ต้องไปสาบาน คือการสาบานมันอยู่ที่จิตใจของเรา หากเราบริสุทธิ์ใจ คำที่เราพูดมาเป็นความจริง เจ้าปู่ศรีสุทโธเราก็นับถือตั้งแต่เราเกิดมา คืออยู่ที่จิตใจเราที่บริสุทธิ์ใจ ถึงท้าสาบาน ทั้งนี้ตั้งแต่มีข่าวเรื่องนี้ ตนกับทางแม่นกน้อยก็ยังไม่เคยได้เจอกัน มีเมื่อบ่ายโมงวันพุธ สัปดาห์ก่อน ทางแม่นกน้อยเขาโทรมาหา บอกว่า รอโทรศัพท์แม่นะ แม่จะเอาโฉนดมาคืนลูก เราก็บอกว่า ค่ะแม่ กี่วันคะ เขาก็บอกว่า 3-4 วัน เราบอกว่า คะแม่หนูจะรอ แต่พอมาวันเสาร์ กลับเปิดแถลงข่าว ซึ่งเป็นคนละอย่างกันเลย 

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อทั้งสองฝ่ายพร้อมเจรจาไกล่เกลี่ย ตำรวจขอเวลาสอบสวนปากคำเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย  และจะนัดทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ย หากทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยกันได้ ก็จะถือว่าคดีสิ้นสุด แต่ถ้าเจรจาไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจะนัดเจรจาให้เสร็จก่อนวันที่ 13 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่นางสุดารัตน์ ต้องเดินทางกลับอเมริกา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]