เจ้าหนี้ “นกน้อย” พร้อมไกล่เกลี่ยขอโฉนดที่ดินคืน

อุดรธานี 28 ส.ค.-เจ้าหนี้ “นกน้อย อุไรพร” ยื่นหนังสือขอให้ตำรวจช่วยไกล่เกลี่ยขอโฉนดที่ดินคืน ยืนยันไม่ได้ร่วมลงทุน แต่ให้คู่กรณียืมโฉนดไปจำนองเพื่อกู้เงิน มาเปิดวงเดินสายแสดง


ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี วันนี้เวลา 13.45 น. นางสุดารัตน์ ภูผานี นักธุรกิจ ที่แจ้งความกล่าวหา “นกน้อย อุไรพร” ว่าฉ้อโกง พร้อมนายพีระนัทธ์ วงศ์สวัสดิ์ ทนายความ และญาติของนางสุดารัตน์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ และ พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.สอบสวน เจ้าของคดี เพื่อยื่นหนังสือร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรม ต้องการได้โฉนดที่ดินคืน หลังจากที่ นกน้อย อุไรพร เปิดบ้านแถลงข่าว ว่าไม่ได้เป็นการยืมเงิน แต่เป็นการร่วมลงทุนด้วยกัน ซึ่งการแถลงข่าวของ นกน้อย อุไรพร ไม่เป็นความจริง เกรงจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และความเสียหาย

ตำรวจอุดรฯ เร่งสอบคดี “นกน้อย อุไรพร” ยันเป็นธรรมทุกฝ่าย


นายพีระนัทธ์ วงศ์สวัสดิ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมานางสุดารัตน์ ได้เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี ตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินนอกระบบ และขอความเป็นธรรม เพื่อจะเอาโฉนดที่ดินคืนมา ซึ่งที่ผ่านมาทางนางสุดารัตน์ ได้ให้ข้อเท็จจริงกับทางศูนย์ดำรงธรรม จนมาถึงชั้นพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เมืองอุดรธานี และได้ให้ปากคำข้อเท็จจริงไปแล้ว แต่ปรากฏว่าทางฝ่ายนกน้อย ออกมาโต้แย้งว่า ไม่เคยได้รับเงิน หรือเป็นการร่วมลงทุนการทำธุรกิจ ทางเราจึงมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม เพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนช่วยไกล่เกลี่ย 


“หรือหากไกล่เกลี่ยไม่ได้ ก็ขอให้สอบประเด็นเพิ่มเติม เกี่ยวกับที่ทางนกน้อย อ้างว่าเป็นการร่วมลงทุน เงิน 3.8 ล้านบาท ที่อ้างว่าร่วมลงทุน ได้มีการแบ่งผลประโยชน์ให้นางสุดารัตน์ จริงหรือไม่ หรือหากไม่เคยแบ่งเงิน จะอ้างว่าเป็นการร่วมลงทุนได้อย่างไร โดยที่ผานมาทางเรามีหลักฐานที่มอบให้พนักงานสอบสวนไปแล้วว่า เงิน 3.8 ล้านบาท หรือการจ่ายดอกเบี้ยต่างๆ ว่าใครเป็นคนรับ หรือ ใครเป็นคนจ่าย ส่วนข้อเท็จจริงในเรื่องของคดีความ อยากให้พนักงานสอบสวนสรุปสำนวน เพื่อไกล่เกลี่ยให้ เพราะอยากได้ที่ดินที่เป็นสมบัติของพ่อแม่คุณสุดารัตน์ ไม่อยากให้เป็นคดีความ เพราะต้องเดินทางกลับอเมริกาในเดือนกันยายน นี้”

ส่วนนางสุดารัตน์ ภูผานี นักธุรกิจที่แจ้งความ นกน้อย อุไรพร ฉ้อโกง เปิดเผยว่า รู้จักกับแม่นกน้อย ผ่านทางหลวงพ่อรูปหนึ่ง ที่ตนนับถือเป็นพ่อ โดยตนส่งให้หลวงพ่อเรียนจบปริญญาเอก ส่วนตนจบเพียงแค่ชั้น ป.6 เท่านั้น ซึ่งหลวงพ่อพูดอะไร เราก็ต้องฟัง ตอนนั้นท่านมาขอให้ตนช่วยแม่นกน้อย ที่ตนก็รู้จักมานานเกือบ 20 ปี โดยตนเคยขึ้นไปมอบดอกไม้ให้แม่นกน้อย บนเวที หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน จนประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นตนเดินทางกลับไทย หลวงพ่อท่านบอกให้ตนช่วยแม่นกน้อยด้วย ถ้าตนไม่ช่วยตอนนั้น แม่นกน้อย                    

“ตอนนั้นแม่นกน้อย ติดหนี้ติดสินมากมาย ค่าข้าวก็ติดหนี้เป็นแสน ฉันจึงคิดว่า ถ้าเราไม่ช่วยลูกวงกว่า 200 ชีวิต จะอยู่กันอย่างไร ภาระเขามี ครอบครัวเขามี จึงตัดสินใจ นำที่ดินแปลงนี้มาช่วย โดยหลวงพ่อท่านเป็นผู้รับรองให้ โดยตอนทำแรกๆ ไม่ได้ทำสัญญาอะไร คือ เรารักหลวงพ่อ เราจึงต้องเชื่อคำของหลวงพ่อ จึงต้องทำตามที่หลวงพ่อขอให้ช่วย โดยตอนนั้นเราเข้าช่วยเมื่อประมาณ 4 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งทางแม่นกน้อย บอกว่า 2 เดือน เขาจะเอาโฉนดมาคืนให้ จนถึงวันนี้ที่มีการทวงอยู่ตลอด ก็บอกปัดว่า สปอนเซอร์ยังไม่ให้เงิน”

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ทางทนายความของแม่นกน้อย บอกพร้อมไกล่เกลี่ยเรี่องที่เกิดขึ้น นางสุดารัตน์ ตอบว่า ตนพร้อมและยอมที่จะไกล่เกลี่ย เรายินดีมาที่จะมาเจรจา เพียงแต่ขอแค่โฉนดที่ดินคืนเท่านั้น เรื่องก็จบกัน และจะไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น เราอยากได้โฉนดคืนมา เพื่อนำมาแบ่งขาย ซึ่งยอมรับว่าตอนนี้ตนเองลำบากมาก ธุรกิจที่ทำต้องลงทุนเพิ่ม จึงอยากได้ที่ดินคืน เพื่อนำมาแบ่งขายไปลงทุนของเราที่อเมริกา ที่ทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ และหวยลอตโต้ ตนยอมที่จะเจรจาทั้งหมด เพียงขอโฉนดคือมาเท่านั้นเอง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงไม่ฟ้องทางแพ่ง แต่มาฟ้องอาญาเรื่องฉ้อโกง นางสุดารัตน์ ตอบว่า คือเราก็ไม่ได้ฟ้องเรื่องฉ้อโกง เพียงแต่เราตามทวงโฉนดที่ดิน ที่ทวงมาถึง 4 ปี แล้วก็ถูกตอบปัดมาตลอด บางครั้งเราโทรศัพท์จากอเมริกากลับมาหา ซึ่งเวลาที่นั่นก็ไม่ตรงกัน เพราะเราเป็นกลางวัน ทางไทยก็เป็นกลางคืน จนทำให้เราไม่ได้หลับได้นอน เพราะโทรมาแล้วก็ไม่รับโทรศัพท์เราเลย มาไทยเที่ยวนี้ทางเขาก็โทรบอกให้เราบินกลับมา ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม ว่าจะไถ่โฉนดคืนให้ โดยเขาบอกว่าจะได้เงินวันที่ 30 พฤษภาคม พอเรามาถึงก็บอกว่าเงินถูกขโมย แล้วก็บอกว่ารอเปิดบริษัทใหม่ แล้วก็บอกว่าสปอนเซอร์ที่จะเขียนเช็คให้ไม่อยู่ไปเมืองนอก และส่วนมากเทื่อเราโทรหาก็แทบจะไม่ยอมรับสายเลย น้อยมากที่เขาจะยอมรับสายเรา จนเราต้องเข้าไปที่บ้านเขาเอง วันเว้นวันเลย ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม เป็นต้นมา 

“ถ้าแม่นกน้อย จะไกล่เกลี่ย ให้ไปไถ่คืนโฉนดมาเลย เราขอแค่โฉนดคืนเท่านั้น ไม่ขอรับเงินสด ทั้งนี้ตอนนำโฉนดไปจำนอง ฉันเป็นคนทำสัญญา ที่เราต้องเป็นผู้เซนต์ชื่อเอง ถ้าเราจะมอบอำนาจทางนายทุนเขาไม่ยอมอยู่แล้ว แต่ตอนที่ไปขอเงินจากนายทุนตอนนั้น ทางแม่นกน้อยก็เข้าไปด้วยกัน และมีอีกหลายคนที่เข้าไปในตอนนั้น และยืนยันว่าตนถึงวันนี้จะไม่มีการฟ้องอะไรเพิ่มอีก เราแค่ต้องการเจรจากัน ขอโฉนดคืนเท่านั้น และจะไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น เพราะตอนที่เขาลำบาก เราก็ยื่นมือเข้าช่วย แต่มาถึงตอนนี้เราลำบาก เราขอความเห็นใจบ้าง ขอความเป็นธรรมกับเราบ้าง”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังจะขอท้าไปสาบานกับเจ้าปู่ศรีสุทโธ ที่คำชะโนดอีกหรือไม่ นางสุดารัตน์ ตอบว่า ถ้าเขามาเจรจาก็คงไม่ต้องไปสาบาน คือการสาบานมันอยู่ที่จิตใจของเรา หากเราบริสุทธิ์ใจ คำที่เราพูดมาเป็นความจริง เจ้าปู่ศรีสุทโธเราก็นับถือตั้งแต่เราเกิดมา คืออยู่ที่จิตใจเราที่บริสุทธิ์ใจ ถึงท้าสาบาน ทั้งนี้ตั้งแต่มีข่าวเรื่องนี้ ตนกับทางแม่นกน้อยก็ยังไม่เคยได้เจอกัน มีเมื่อบ่ายโมงวันพุธ สัปดาห์ก่อน ทางแม่นกน้อยเขาโทรมาหา บอกว่า รอโทรศัพท์แม่นะ แม่จะเอาโฉนดมาคืนลูก เราก็บอกว่า ค่ะแม่ กี่วันคะ เขาก็บอกว่า 3-4 วัน เราบอกว่า คะแม่หนูจะรอ แต่พอมาวันเสาร์ กลับเปิดแถลงข่าว ซึ่งเป็นคนละอย่างกันเลย 

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อทั้งสองฝ่ายพร้อมเจรจาไกล่เกลี่ย ตำรวจขอเวลาสอบสวนปากคำเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย  และจะนัดทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ย หากทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยกันได้ ก็จะถือว่าคดีสิ้นสุด แต่ถ้าเจรจาไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจะนัดเจรจาให้เสร็จก่อนวันที่ 13 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่นางสุดารัตน์ ต้องเดินทางกลับอเมริกา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2,000 ลบ.ม./วินาที หน่วงน้ำเขื่อนป่าสักฯ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ช่วงบ่ายวันนี้ ห่วงผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย จึงปรับลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้น้ำเหนือระบายสู่อ่าวไทยได้มีประสิทธิภาพขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ระบุว่า เช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101 ลบ.ม./วินาที และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที ให้เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย.) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ […]