เจ้าหนี้ “นกน้อย” พร้อมไกล่เกลี่ยขอโฉนดที่ดินคืน

อุดรธานี 28 ส.ค.-เจ้าหนี้ “นกน้อย อุไรพร” ยื่นหนังสือขอให้ตำรวจช่วยไกล่เกลี่ยขอโฉนดที่ดินคืน ยืนยันไม่ได้ร่วมลงทุน แต่ให้คู่กรณียืมโฉนดไปจำนองเพื่อกู้เงิน มาเปิดวงเดินสายแสดง


ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี วันนี้เวลา 13.45 น. นางสุดารัตน์ ภูผานี นักธุรกิจ ที่แจ้งความกล่าวหา “นกน้อย อุไรพร” ว่าฉ้อโกง พร้อมนายพีระนัทธ์ วงศ์สวัสดิ์ ทนายความ และญาติของนางสุดารัตน์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ และ พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.สอบสวน เจ้าของคดี เพื่อยื่นหนังสือร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรม ต้องการได้โฉนดที่ดินคืน หลังจากที่ นกน้อย อุไรพร เปิดบ้านแถลงข่าว ว่าไม่ได้เป็นการยืมเงิน แต่เป็นการร่วมลงทุนด้วยกัน ซึ่งการแถลงข่าวของ นกน้อย อุไรพร ไม่เป็นความจริง เกรงจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และความเสียหาย

ตำรวจอุดรฯ เร่งสอบคดี “นกน้อย อุไรพร” ยันเป็นธรรมทุกฝ่าย


นายพีระนัทธ์ วงศ์สวัสดิ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมานางสุดารัตน์ ได้เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี ตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินนอกระบบ และขอความเป็นธรรม เพื่อจะเอาโฉนดที่ดินคืนมา ซึ่งที่ผ่านมาทางนางสุดารัตน์ ได้ให้ข้อเท็จจริงกับทางศูนย์ดำรงธรรม จนมาถึงชั้นพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เมืองอุดรธานี และได้ให้ปากคำข้อเท็จจริงไปแล้ว แต่ปรากฏว่าทางฝ่ายนกน้อย ออกมาโต้แย้งว่า ไม่เคยได้รับเงิน หรือเป็นการร่วมลงทุนการทำธุรกิจ ทางเราจึงมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม เพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนช่วยไกล่เกลี่ย 


“หรือหากไกล่เกลี่ยไม่ได้ ก็ขอให้สอบประเด็นเพิ่มเติม เกี่ยวกับที่ทางนกน้อย อ้างว่าเป็นการร่วมลงทุน เงิน 3.8 ล้านบาท ที่อ้างว่าร่วมลงทุน ได้มีการแบ่งผลประโยชน์ให้นางสุดารัตน์ จริงหรือไม่ หรือหากไม่เคยแบ่งเงิน จะอ้างว่าเป็นการร่วมลงทุนได้อย่างไร โดยที่ผานมาทางเรามีหลักฐานที่มอบให้พนักงานสอบสวนไปแล้วว่า เงิน 3.8 ล้านบาท หรือการจ่ายดอกเบี้ยต่างๆ ว่าใครเป็นคนรับ หรือ ใครเป็นคนจ่าย ส่วนข้อเท็จจริงในเรื่องของคดีความ อยากให้พนักงานสอบสวนสรุปสำนวน เพื่อไกล่เกลี่ยให้ เพราะอยากได้ที่ดินที่เป็นสมบัติของพ่อแม่คุณสุดารัตน์ ไม่อยากให้เป็นคดีความ เพราะต้องเดินทางกลับอเมริกาในเดือนกันยายน นี้”

ส่วนนางสุดารัตน์ ภูผานี นักธุรกิจที่แจ้งความ นกน้อย อุไรพร ฉ้อโกง เปิดเผยว่า รู้จักกับแม่นกน้อย ผ่านทางหลวงพ่อรูปหนึ่ง ที่ตนนับถือเป็นพ่อ โดยตนส่งให้หลวงพ่อเรียนจบปริญญาเอก ส่วนตนจบเพียงแค่ชั้น ป.6 เท่านั้น ซึ่งหลวงพ่อพูดอะไร เราก็ต้องฟัง ตอนนั้นท่านมาขอให้ตนช่วยแม่นกน้อย ที่ตนก็รู้จักมานานเกือบ 20 ปี โดยตนเคยขึ้นไปมอบดอกไม้ให้แม่นกน้อย บนเวที หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน จนประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นตนเดินทางกลับไทย หลวงพ่อท่านบอกให้ตนช่วยแม่นกน้อยด้วย ถ้าตนไม่ช่วยตอนนั้น แม่นกน้อย                    

“ตอนนั้นแม่นกน้อย ติดหนี้ติดสินมากมาย ค่าข้าวก็ติดหนี้เป็นแสน ฉันจึงคิดว่า ถ้าเราไม่ช่วยลูกวงกว่า 200 ชีวิต จะอยู่กันอย่างไร ภาระเขามี ครอบครัวเขามี จึงตัดสินใจ นำที่ดินแปลงนี้มาช่วย โดยหลวงพ่อท่านเป็นผู้รับรองให้ โดยตอนทำแรกๆ ไม่ได้ทำสัญญาอะไร คือ เรารักหลวงพ่อ เราจึงต้องเชื่อคำของหลวงพ่อ จึงต้องทำตามที่หลวงพ่อขอให้ช่วย โดยตอนนั้นเราเข้าช่วยเมื่อประมาณ 4 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งทางแม่นกน้อย บอกว่า 2 เดือน เขาจะเอาโฉนดมาคืนให้ จนถึงวันนี้ที่มีการทวงอยู่ตลอด ก็บอกปัดว่า สปอนเซอร์ยังไม่ให้เงิน”

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ทางทนายความของแม่นกน้อย บอกพร้อมไกล่เกลี่ยเรี่องที่เกิดขึ้น นางสุดารัตน์ ตอบว่า ตนพร้อมและยอมที่จะไกล่เกลี่ย เรายินดีมาที่จะมาเจรจา เพียงแต่ขอแค่โฉนดที่ดินคืนเท่านั้น เรื่องก็จบกัน และจะไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น เราอยากได้โฉนดคืนมา เพื่อนำมาแบ่งขาย ซึ่งยอมรับว่าตอนนี้ตนเองลำบากมาก ธุรกิจที่ทำต้องลงทุนเพิ่ม จึงอยากได้ที่ดินคืน เพื่อนำมาแบ่งขายไปลงทุนของเราที่อเมริกา ที่ทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ และหวยลอตโต้ ตนยอมที่จะเจรจาทั้งหมด เพียงขอโฉนดคือมาเท่านั้นเอง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงไม่ฟ้องทางแพ่ง แต่มาฟ้องอาญาเรื่องฉ้อโกง นางสุดารัตน์ ตอบว่า คือเราก็ไม่ได้ฟ้องเรื่องฉ้อโกง เพียงแต่เราตามทวงโฉนดที่ดิน ที่ทวงมาถึง 4 ปี แล้วก็ถูกตอบปัดมาตลอด บางครั้งเราโทรศัพท์จากอเมริกากลับมาหา ซึ่งเวลาที่นั่นก็ไม่ตรงกัน เพราะเราเป็นกลางวัน ทางไทยก็เป็นกลางคืน จนทำให้เราไม่ได้หลับได้นอน เพราะโทรมาแล้วก็ไม่รับโทรศัพท์เราเลย มาไทยเที่ยวนี้ทางเขาก็โทรบอกให้เราบินกลับมา ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม ว่าจะไถ่โฉนดคืนให้ โดยเขาบอกว่าจะได้เงินวันที่ 30 พฤษภาคม พอเรามาถึงก็บอกว่าเงินถูกขโมย แล้วก็บอกว่ารอเปิดบริษัทใหม่ แล้วก็บอกว่าสปอนเซอร์ที่จะเขียนเช็คให้ไม่อยู่ไปเมืองนอก และส่วนมากเทื่อเราโทรหาก็แทบจะไม่ยอมรับสายเลย น้อยมากที่เขาจะยอมรับสายเรา จนเราต้องเข้าไปที่บ้านเขาเอง วันเว้นวันเลย ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม เป็นต้นมา 

“ถ้าแม่นกน้อย จะไกล่เกลี่ย ให้ไปไถ่คืนโฉนดมาเลย เราขอแค่โฉนดคืนเท่านั้น ไม่ขอรับเงินสด ทั้งนี้ตอนนำโฉนดไปจำนอง ฉันเป็นคนทำสัญญา ที่เราต้องเป็นผู้เซนต์ชื่อเอง ถ้าเราจะมอบอำนาจทางนายทุนเขาไม่ยอมอยู่แล้ว แต่ตอนที่ไปขอเงินจากนายทุนตอนนั้น ทางแม่นกน้อยก็เข้าไปด้วยกัน และมีอีกหลายคนที่เข้าไปในตอนนั้น และยืนยันว่าตนถึงวันนี้จะไม่มีการฟ้องอะไรเพิ่มอีก เราแค่ต้องการเจรจากัน ขอโฉนดคืนเท่านั้น และจะไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น เพราะตอนที่เขาลำบาก เราก็ยื่นมือเข้าช่วย แต่มาถึงตอนนี้เราลำบาก เราขอความเห็นใจบ้าง ขอความเป็นธรรมกับเราบ้าง”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังจะขอท้าไปสาบานกับเจ้าปู่ศรีสุทโธ ที่คำชะโนดอีกหรือไม่ นางสุดารัตน์ ตอบว่า ถ้าเขามาเจรจาก็คงไม่ต้องไปสาบาน คือการสาบานมันอยู่ที่จิตใจของเรา หากเราบริสุทธิ์ใจ คำที่เราพูดมาเป็นความจริง เจ้าปู่ศรีสุทโธเราก็นับถือตั้งแต่เราเกิดมา คืออยู่ที่จิตใจเราที่บริสุทธิ์ใจ ถึงท้าสาบาน ทั้งนี้ตั้งแต่มีข่าวเรื่องนี้ ตนกับทางแม่นกน้อยก็ยังไม่เคยได้เจอกัน มีเมื่อบ่ายโมงวันพุธ สัปดาห์ก่อน ทางแม่นกน้อยเขาโทรมาหา บอกว่า รอโทรศัพท์แม่นะ แม่จะเอาโฉนดมาคืนลูก เราก็บอกว่า ค่ะแม่ กี่วันคะ เขาก็บอกว่า 3-4 วัน เราบอกว่า คะแม่หนูจะรอ แต่พอมาวันเสาร์ กลับเปิดแถลงข่าว ซึ่งเป็นคนละอย่างกันเลย 

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อทั้งสองฝ่ายพร้อมเจรจาไกล่เกลี่ย ตำรวจขอเวลาสอบสวนปากคำเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย  และจะนัดทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ย หากทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยกันได้ ก็จะถือว่าคดีสิ้นสุด แต่ถ้าเจรจาไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจะนัดเจรจาให้เสร็จก่อนวันที่ 13 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่นางสุดารัตน์ ต้องเดินทางกลับอเมริกา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย