ศาลฎีกาฯ 27 ส.ค.- “หมอวรงค์” ร้องศาลฎีกานักการเมือง “เรืองไกร – เพจชินวัตร เเฟนคลับ” ละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ กรณีเปิดประเด็นโครงการรับจำนำข้าวไม่ขาดทุน ท้ารื้อฟื้นคดี ถ้าคิดว่ามีหลักฐานใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ส.ค.) ที่ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ และนายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและคณะทำงานด้าน กฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ขอให้พิจารณากรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. และทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เเละ เพจเฟซบุ๊ค “ชินวัตร เเฟนคลับ” ออกมาเปิดประเด็นว่า โครงการรับจำนำข้าวไม่ขาดทุน ว่าเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลหรือไม่
นพ.วรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้ศาลฎีกาฯ นักการเมืองได้มีคำพิพากษาไว้ชัดเจน ถึงตัวเลขขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว ว่ามีจำนวน 536,000 ล้านบาท การที่นายเรืองไกรนำมาเปิดประเด็นนี้ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน เเละเกิดข้อกังขาตามมา เเละทราบว่า ในเพจ “ชินวัตร เเฟนคลับ” ได้นำคำพูดของนายเรืองไกรไปขยายผล หากยังปล่อยเรื่องนี้ออกไป โดยไม่ดำเนินการใด จะเกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม เพราะคำพิพากษาของศาลที่ถือเป็นที่สิ้นสุดเเล้ว จึงนำเรื่องของนายเรืองไกรเเละเพจ “ชินวัตร เเฟนคลับ” มาเพื่อให้ศาลได้ทราบเเละพิจารณาดำเนินการต่อไป
“อยากให้นายเรืองไกรทราบว่า ในช่วงที่พวกเรามาเป็นพยานศาล ศาลฎีกาฯ ได้ออกข้อกำหนดคดีจำนำข้าว ไม่ให้คู่ความหรือคู่กรณี ออกมาให้สัมภาษณ์บิดเบือนข้อเท็จจริง จึงเชื่อว่าเมื่อเรามายื่น ศาลคงพิจารณาดำเนินการต่อไป” นพ.วรงค์กล่าว
เมื่อถามถึง กรณีที่นายเรืองไกรได้ยื่นร้องต่อสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องข้าวที่หายไป 1 ล้านตัน เเละไม่มีเจตนาก้าวล่วงคำพิพากษา นพ.วรงค์ กล่าวว่า เรื่องข้าวหายหรือไม่หายในช่วงหลัง ไม่เกี่ยวกับคดีโครงการรับจำนำข้าว ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เเล้ว เเต่ประเด็นที่นายเรืองไกร เปิดมา ทำให้สังคมมีข้อกังขา เพราะกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อศาลตัดสินเเล้ว ก็เปิดโอกาสให้ยื่นอุทธรณ์ หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ คิดว่าไม่ผิด ทำไมจึงหลบหนี
“ผมขอท้าไปที่ นายเรืองไกร เเละ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า เรามี พ.ร.บ.รื้อฟื้นคดีอาญาฯ ถ้าหากนายเรืองไกรเข้าใจว่ามีข้อมูลใหม่ ว่าไม่มีการขาทุน ก็ให้มารื้อฟื้นคดีสู้กันใหม่” นพ.วรงค์ กล่าว
ต่อข้อถามว่า การกระทำของนายเรืองไกร เป็นความผิดกฎหมายฐานใด นพ.วรงค์ กล่าวว่า อะไรที่ศาลตัดสินเเล้ว หากไม่จบ จะเป็นผลเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม ตนมาทำตรงนี้ เพื่อปกป้องกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็น 1 ในเสาหลักของระบอบประชาธิปไตย ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไรต่อไปนั้น เป็นดุลพินิจของศาล
“หลังยื่นคำร้องต่อเลขาฯ ศาลฎีกาฯ เรียบร้อยเเล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะมีการส่งคำร้องให้องค์คณะพิจารณา ว่าจะดำเนินการออกหมายเรียกมาไต่สวนหรือไม่” นพ.วรงค์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย
