เปิดส่วนต่างจำนวนรถกับใบขับขี่

กทม. 23 ส.ค. – เจตนารมณ์ประการหนึ่งที่มีการเพิ่มโทษในกรณีไม่มีหรือไม่พกใบขับขี่ คือการนำผู้ไม่มีใบขับขี่เข้าสู่ระบบ เพื่อกวดขันวินัยจราจร ป้องกันอุบัติเหตุ สำนักข่าวไทยตรวจสอบจำนวนใบขับขี่ทุกประเภท และจำนวนรถทุกประเภทที่จดทะเบียน พบสัดส่วนรถมากกว่าใบขับขี่



ข้อมูลจากกลุ่มสถิติการขนส่ง กองแผนงาน กรมการขนส่งทางบก รายงาน ณ วันที่ 31 มกราคม 2561 พบว่าจำนวนใบอนุญาตขับขี่ทุกประเภท ทั้งรถยนต์ หรือจักรยานยนต์ แบบ 5 ปี หรือ ตลอดชีพ รวมถึงใบอนุญาตขับรถสามล้อ, รถบดถนน, รถแทรกเตอร์ และอื่นๆ อยู่ที่ประมาณ 31.7 ล้านใบ แต่มีรถจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายรวมทุกประเภท ทั้งรถเก๋งซีดาน, รถกระบะ, รถแวน รวมถึงรถแท็กซี่, รถสามล้อรับจ้าง และอื่นๆ มีประมาณ 38.4 ล้านคัน


แยกย่อยเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคลและรถบรรทุก อาทิ รถเก๋ง, กระบะ และแวน ที่พบในชีวิตประจำวันมากสุด พบว่ามีจำนวนรวมประมาณ 15.5 ล้านคัน เปรียบเทียบกับใบขับขี่รถประเภทดังกล่าว พบว่าใบขับขี่มีมากกว่า คือ 16.4 ล้านใบ แต่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล พบว่ามีจำนวน 20.5 ล้านคัน เปรียบเทียบกับใบขับขี่ทั้งแบบชั่วคราว, 5 ปี และตลอดชีพ ปรากฏว่ามีเพียง 12.7 ล้านใบเท่านั้น


สำนักข่าวไทยไปตรวจสอบความคิดเห็นจากตำรวจจราจรเกี่ยวกับการบังคับใช้ร่างกฎหมายดังกล่าว โดยเชื่อว่าแม้ในอนาคตจะเพิ่มโทษกับผู้ที่ไม่พกหรือไม่มีใบขับขี่ แต่หากการบังคับใช้กฎหมายยังอะลุ่มอล่วยเหมือนในปัจจุบันก็น่าจะไม่ช่วยให้เห็นผล ดังนั้นควรบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และที่ผ่านมากลุ่มผู้กระทำผิดไม่มีใบขับขี่ก็ถือว่าพบมาก รองจากกลุ่มที่ไม่สวมหมวกนิรภัย

ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณียกเลิกส่วนแบ่งค่าปรับจราจร เชื่อว่าจะไม่กระทบกับขวัญและกำลังใจตำรวจทุกนาย เพราะตำรวจถูกอบรมขัดเกลามาเพื่อทำหน้าที่ โดยไม่คำนึงถึงค่าตอบแทน. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย