กรุงเทพฯ 14 ส.ค.- ตำรวจส่งมอบพระพุทธรูปโบราณ 3 องค์ ให้กรมศิลปากรนำไปเก็บเป็นสมบัติชของชาติ หลังยึดได้จากคนร้ายนานกว่า 39 ปี
พลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทำพิธีส่งมอบพระพุทธรูปโบราณ 3 องค์ ที่ถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของกลางบนชั้น 3 สน.ชนะสงคราม นานกว่า 39 ปี ให้แก่นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นำไปเก็บรัษาไว้เป็นสมบัติของชาติ
พลตำรวจตรีสมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เล่าความเป็นมาว่า เมื่อ 39 ปีที่แล้ว พระทั้ง 3 องค์ถูกคนร้ายนำลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยามาขึ้นท่าน้ำท่าพระจันทร์ เพื่อลักลอบขายในตลาดมืดที่สมัยนั้นยังมีตลาดนัดสนามหลวงอยู่ แต่คนร้ายพบเห็นตำรวจจึงเกิดความกลัวทิ้งกระสอบใส่พระวิ่งหนี ตำรวจจึงตรวจยึดมารักษาไว้พร้อมประกาศหาเจ้าของ แต่สมัยนั้นการสื่อสารไม่แพร่หลาย ทำให้ไม่มีใครมาขอรับคืน ต้องเก็บรักษาไว้จน สน.ชนะสงครามมีโครงการก่อสร้างที่ทำการแห่งใหม่ ตัวเองจึงเดินทางไปตรวจสอบความพร้อมและแผนการขนย้าย เกิดไปพบกับพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์เข้าในห้องเก็บของกลาง จึงได้สอบประวัติความเป็นมา ก่อนนำมาประกาศหาเจ้าของ โดยเมื่อครบเวลา 30 วัน แล้วจึงส่งมอบให้กรมศิลปากรดำเนินการตามกฎหมาย
ด้านนางสาวพัชรินทร์ ศุขประมูล ภัณฑารักษ์เชี่ยวชาญ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร ระบุว่าพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ประกอบด้วยพระพุทธรูปบูชาปางมารวิชัยองค์ใหญ่ หน้าตัก 40 เซนติเมตร สูง 76 เซนติเมตร พิจารณาจากรูปแบบลวดลายแล้ว ถูกสร้างขึ้นจากช่างฝีมือชุมชนบ้านช่างหล่อในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อขายให้ผู้ศรัทธานำไปถวายวัด ส่วนอีก 2 องค์ เป็นพระบูชาปางห้ามสมุทร สูง 81 เซนติเมตร มีรูปแบบศิลปะอยุธยาตอนปลายถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ครองจีวรลวดลายดอก คาดว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 และองค์สุดท้ายสูง 71 เซนติเมตร ทรงจีวรเครื่องใหญ่ตามแบบรัตนโกสินทร์ คาดว่าสร้างสมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนผสมวัตถุดิบของทั้ง 3 องค์ ถูกสร้างจากโลหะประเภททองเหลือง ช่วงอายุระหว่างพุทธศตวรรษ 24-25 มีความสมบูรณ์สวยงาม หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน โดยทีมงานภัณฑารักษ์จะนำไปเก็บรักษาไว้ที่คลังกลาง จังหวัดปทุมธานี เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ตรวจพิสูจน์ และทำการบูรณะให้สวยงาม เพื่อนำออกแสดงในโอกาสสำคัญต่อไป.-สำนักข่าวไทย